เผยแพร่ |
---|
กรณี “พิพิธภัณฑ์แห่งความไร้เดียงสา ณ กรุงเทพฯ” ของ กล้า สมุทวณิช ใน”มติชน”
ให้บทเรียนอย่างสำคัญในเรื่อง “อนิจจัง”
เหมือนกับเป็นข้อเขียนอันมาจากการสร้างสรรค์ของ กล้า สมุทวณิช
แต่ก็มิได้เป็น “สมบัติ” ของ กล้า สมุทวณิช ผู้เดียว
พลันที่ข้อเขียนนี้ส่งออกจาก กล้า สมุทวณิช ไปยังกองบรรณาธิการ “มติชน” ก็เกิดการแปรเปลี่ยน
อำนาจในการวินิจฉัยขึ้นอยู่กับ “มติชน”
เมื่อ “มติชน” ตัดสินใจนำลงตีพิมพ์ คล้ายกับข้อเขียนนี้จะอยู่ในความรับผิดชอบของ”มติชน”และ กล้า สมุทวณิช
แต่ในความเป็นจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น
เส้นทางของ “พิพิธภัณฑ์แห่งความไร้เดียงสา ณ กรุงเทพฯ”จากการเขียนของ กล้า สมุทวณิช มีการแปรเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา
ทั้งแปรเปลี่ยนและพลิกผัน
“ตัวบท” อันปรากฏต่อสาธารณะยังคงเหมือนเดิม แต่ที่พลิกผันและแปรเปลี่ยนกลับเป็น “การตีความ”
“คนอ่าน” กลับเป็นคนตัดสิน ชี้ขาด
บางคนแค่เห็นนามสกุล “สมุทวณิช” ก็วินิจฉัยโดยโยงไปยังนามของบางคนที่เกี่ยวกับรัฐประหารเมื่อปี 2549 และแม้กระทั่งเมื่อปี 2557
บางคนเพียงเห็น”นกหวีด”ก็จิ๊ดขึ้นในหัว
บางคนคิดว่าเป็นชาวนกหวีดที่เข้าร่วมในการ “ชัตดาวน์” ด้วยกัน แต่เมื่ออ่านไปแล้วจะค่อยๆรับรู้เป็นลำดับว่ามิได้เป็นไปอย่างนั้น
เห็นหรือไม่ว่า “ข้อเขียน” มากด้วยความ “ลื่นไหล”
จาก “พิพิธภัณฑ์แห่งความไร้เดียงสา ณ กรุงเทพฯ” จึงเป็นบทเรียนอันทรงความหมายยิ่งต่อทุกสรรพสิ่ง
เกิดขึ้น ดำรงอยู่ ดำเนินไป
ดำเนินไปอย่างชนิดไหลเรื่อย และดำรงอยู่อย่าง “ไม่เหมือนเดิม”
เป็นเช่นนี้ทั้งในด้านอันเป็นสังขาร ร่างกาย
เป็นเช่นนี้ทั้งในด้านอันเป็นความคิด
อนิจจัง ไม่เที่ยงแท้ ไม่แน่นอน และ “ไม่เหมือนเดิม”