ปิดคดีผู้ว่าฯ ซื้อกาม ด.ญ. ที่แท้เป็น อบต. แอบอ้าง นายกบ้านใหม่โดนด้วย ฐานเบิกงบฯ ไม่ถูกต้อง

อื้อฉาวอยู่ร่วมเดือน ในที่สุดก็ถือว่าได้บทสรุปแล้วระดับหนึ่ง สำหรับกรณีค้ากาม ด.ญ. ที่แม่ฮ่องสอน

ที่เริ่มต้นจากการร้องเรียนของแม่เหยื่อสาว นำไปสู่การจับกุมขบวนการค้ากาม และผู้ซื้อที่มีทั้งตำรวจ ทหาร ข้าราชการพลเรือน

แต่ที่อยู่ในความสนใจของสังคมมากที่สุด คงหนีไม่พ้นคำให้การของเหยื่อสาว ว่า 1 ในผู้ซื้อบริการ

มีคนระดับผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอนอยู่ด้วย

นำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์ และคำสั่งย้ายด่วนจากกระทรวงมหาดไทย เพื่อเปิดทางสอบสวน

จนกระทั่งผลการสืบสวนก็คลี่คลาย ว่าผู้ที่ซื้อกามหญิงสาว และอ้างว่าเป็นผู้ว่าฯ ที่แท้เป็นสมาชิก อบต. ที่เดินทางไปดูงาน

ลามไปถึงนายก อบต. ที่ถูกสอบสวนเรื่องการใช้งบประมาณ จนกระทั่งถูกออกหมายจับ

ถือเป็นวิบากกรรมโดยถ้วนหน้าจริงๆ

จับ อบต.ฉาว-อ้างตัวเป็นผู้ว่าฯ

หลังสืบสวนสอบสวนคดีกาม ด.ญ. แม่ฮ่องสอนมาร่วมเดือน จากที่พุ่งเป้าว่ามีข้าราชการระดับผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นลูกค้า ข้อมูลต่างๆ ก็เริ่มปรากฏ

เมื่อพบว่าในช่วงเวลาดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ อบต.บ้านใหม่ จาก จ.นนทบุรี ไปศึกษาดูงาน และพักที่ธนโชติรีสอร์ท อันเป็นจุดที่เหยื่อสาวให้การว่ามารับบริการลูกค้าที่อ้างตัวเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด

และเมื่อพนักงานสอบสวน บช.ภาค 5 เข้าสอบสวนเหยื่ออีกรอบ โดยมีเจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองสิทธิ์ นักจิตวิทยาเด็ก ร่วมสอบสวน ก็สามารถชี้รูปภาพได้อย่างชัดเจน ว่าเป็น 1 ในคณะ อบต.บ้านใหม่ นี่แหละ ที่เป็นลูกค้า

แถมมี 1 ในนั้นแอบอ้างตัวเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนเสียด้วย

เช้าวันที่ 19 พฤษภาคม พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ก็เดินทางมาที่ สภ.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี หลังก่อนหน้านี้ออกหมายเรียกประสานให้สมาชิก อบต.บ้านใหม่ จ.นนทบุรี ที่ไปดูงานที่ จ.แม่ฮ่องสอน และพักที่ธนโชติรีสอร์ท ช่วงเดียวกับที่เหยื่อกามระบุว่ามาให้บริการลูกค้าที่เป็นผู้ว่าฯ

จนกระทั่งเลยเวลานัดหมาย ไม่มีสมาชิก อบต.บ้านใหม่ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน พล.ต.อ.ศรีวราห์ และคณะ จึงเดินทางไปที่บ้านของ นายพนม พึ่งสำราญ กำนันตำบลบ้านใหม่ ที่บ้านเลขที่ 43/3 หมู่ 3 ต.บ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี

และแล้วก็พบกับ นายชูชาติ พ่วงจีน อายุ 56 ปี สมาชิก อบต.บ้านใหม่ ซึ่งตอนแรกให้การยอมรับว่าซื้อบริการเด็กอายุต่ำกว่า 18 จริง แต่ไม่ได้แอบอ้างว่าเป็นผู้ว่าฯ จนกระทั่งพนักงานสอบสวนนำหลักฐานที่เป็นคำให้การของพยาน มาถามย้ำอีกครั้ง

นายชูชาติ ก็เปิดปากรับสารภาพว่าได้แอบอ้างตัวเป็นผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอนจริง ซึ่งก็เป็นเพราะความเมา พร้อมกล่าวขออภัยผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอนที่ทำให้เสื่อมเสีย

เจ้าหน้าที่จึงนำตัวมาสอบปากคำที่ สภ.บางแม่นาง และแจ้งข้อหาซื้อบริการเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีไปเพื่อการอนาจาร

ทั้งนี้ ข้อเท็จจริงสรุปได้ความว่า เมื่อวันที่ 21-24 กันยายน 2559 สมาชิก อบต.บ้านใหม่ จัดโครงการฝึกอบรมและศึกษาดูงานที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.แม่ฮ่องสอน การเดินทางใช้รถยนต์เป็นพาหนะ ในวันที่ 22 กันยายน 2559 คณะ อบต. เข้าพักที่ธนโชติรีสอร์ท เลขที่ 141/1 ถ.ขุนลุมประพาส ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน โดยในช่วงเวลากลางคืน มีการจัดหาหญิง 4 คน มาให้บริการทางเพศแก่สมาชิก อบต.

ปิดคดีผู้ว่าฯ ซื้อกาม

นายกบ้านใหม่โดน-คดีเบิกงบฯ

ไม่จบเพียงเท่านั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจยังสอบสวน นายวสุ ผันเงิน นายก อบต.บ้านใหม่ พร้อมสมาชิก อบต. และพนักงานขับรถ หลังจากพบว่ามีการเบิกงบประมาณในการดูงานที่ จ.แม่ฮ่องสอน แบบมีพิรุธ เนื่องจากมีสมาชิก อบต.2-3 คน ไม่ได้เดินทางไป แต่กลับมีการเซ็นชื่อเบิกจ่ายค่าห้องพัก

ครั้งนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ เป็นผู้สอบปากคำด้วยตัวเอง และตลอดการสอบปากคำ ทั้งคู่ได้โต้เถียงกันอย่างถึงพริกถึงขิง

โดยนายวสุยืนยันว่าเบิกจ่ายถูกต้องตามขั้นตอน โดยคนที่ไม่ได้มีชื่อร่วมคณะ ก็เดินทางไปในฐานะคนขับรถ ซึ่งตนออกคำสั่งให้ถูกต้องตามระเบียบ ยอมรับว่าหากจะมีความผิดก็เพราะไม่ได้ตรวจสอบรายชื่อให้ถูกต้อง แต่จำนวนคนที่เดินทางและจำนวนคนที่เบิกถูกต้องครบถ้วน

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาตามความผิดมาตรา 162 ว่าด้วยเจ้าพนักงานทำเอกสารอันเป็นเท็จ พร้อมปล่อยตัวชั่วคราวแล้วนัดหมายให้มาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 20 พฤษภาคม

เมื่อถึงเวลานัด นายวสุให้ทนายความยื่นหนังสือถึงพนักงานสอบสวน ว่าเกิดเจ็บป่วยกะทันหัน ขอเลื่อนพบตำรวจเป็นวันที่ 22 พฤษภาคม

แต่พนักงานสอบสวนไม่ยินยอม จึงรวบรวมเอกสารขออนุมัติหมายจับ ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 162 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี และปรับไม่เกินหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท

ศาลอนุมัติหมายจับเรียบร้อย

พร้อมกันนั้น ยังคุม น.ส.มณฑา เจริญสุขสุวรรณ ปลัด อบต.บ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี มาฝากขังผัดแรก พร้อมให้ประกันในวงเงิน 2 แสนบาท

ต่อมาเช้าวันที่ 22 พฤษภาคม นายวสุ ก็เข้าพบพนักงานสอบสวน และถูกนำฝากขังที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง โดยพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว

แต่ศาลอนุญาตให้ประกันตัวได้ โดยตีราคาประกันเป็นหลักทรัพย์ 4 แสนบาท และห้ามยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน

ขณะที่ตำรวจเตรียมดำเนินคดีกับทนายความของนายวสุ ในข้อหาแจ้งความเท็จ เนื่องจากไม่พบว่านายวสุป่วยตามที่กล่าวอ้าง

ถือเป็นคดีความที่ผุดขึ้นจากการค้ากาม

ผู้ว่าฯ สืบศักดิ์โล่ง-พ้นมลทิน

ในส่วนของ นายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน ที่ถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์ หลังจากที่พนักงานสอบสวนสรุปว่าผู้ที่แอบอ้างเป็นผู้ว่าฯ ก็คือคณะ อบต. ได้ออกมาแถลงหลังทุกอย่างคลี่คลาย ว่า เรื่องจบก็คือจบ หลังจากนี้ก็รอคำสั่งให้กลับไปทำงาน เมื่อกลับไปแล้วทุกส่วนราชการในจังหวัดต้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์

ยอมรับว่าปัญหานี้มีส่วนมาจากคนมีรายได้น้อย และบุคคลไร้สัญชาติกว่า 4 หมื่นคน การแก้ปัญหาต้องทำให้คนมีรายได้ มีอาชีพ มีถิ่นที่อยู่ รวมถึงเรื่องสิทธิมนุษยชน ซึ่งหลังจากนี้จะไม่ฟ้องร้องใคร เพราะเรื่องจบก็คือจบ การปรองดองจะเกิดขึ้นได้คนไทยต้องสามัคคีกัน

ขณะที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ระบุว่า ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน ถือเป็นผู้เสียหาย หากต้องการแจ้งความกลับก็ให้แจ้งมาที่ตน จะดำเนินการให้ ยืนยันได้ว่าหลักฐานทั้งหมดไม่เกี่ยวข้องกับนายสืบศักดิ์ ตำรวจไม่เคยบอกว่าผู้ว่าฯ มีความผิด เพียงแต่บอกว่ามีคนมาร้องทุกกล่าวโทษ ขณะนี้สั่งให้ พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภาค 5 เร่งรัดทำสำนวนสั่งไม่ฟ้องนายสืบศักดิ์แล้ว

ก่อนหน้านี้ นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย แถลงผลสอบสวนว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง สอบพยาน 29 ปาก นายสืบศักดิ์ปฏิเสธทุกข้อหา

ที่อ้างว่านายสืบศักดิ์ไป จ.แม่ฮ่องสอน ระหว่างวันที่ 22-23 กันยายน 2559 ก็มีหลักฐานว่าเจ้าตัวอบรมอยู่ที่กรุงเทพฯ ตรวจสอบรายชื่อผู้โดยสารเที่ยวบินกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ และเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน ก็ไม่พบรายชื่อนายสืบศักดิ์

ส่วนที่กล่าวหาว่ามีการจัดเด็กให้บริการในงานเลี้ยงต้อนรับผู้ว่าฯ ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง ในวันที่ 1 ตุลาคม 2559 ก็พบว่าการจัดเลี้ยงทำที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง มีการผูกข้อไม้ข้อมือ ไม่มีงานเลี้ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

อีกทั้งการสอบปากคำเด็กหญิง 2 ราย ก็ให้การตรงกันว่าผู้ซื้อบริการไม่ใช่นายสืบศักด์ ตอนชี้ตัวก็ไม่ได้ชี้ จึงเห็นว่าไม่เข้าเงื่อนไขสอบวินัย จึงให้ยุติเรื่องดังกล่าว

พ้นมลทินที่ถูกกล่าวหา

ย้อนปมค้ากามแม่ฮ่องสอน

สําหรับคดีค้ากาม ด.ญ. แม่ฮ่องสอน ตกเป็นข่าวครึกโครม เมื่อนางน้ำเพชร แม่ของเหยื่อสาวที่ถูกบังคับให้ค้ากาม เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชน ระบุว่า ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.น้ำเพียงดิน จ.แม่ฮ่องสอน ตั้งตัวเป็นเอเย่นต์ค้ากาม ส่งบริการเด็กสาวในสังกัดให้กับข้าราชการทั้งจังหวัด ทั้งตำรวจ ทหาร ครู

โดยมีขบวนการมาตีสนิท ชักชวนให้เสพยาเสพติด แล้วถ่ายคลิปไว้แบล๊กเมล์ ให้มาค้ากามแลกกับการไม่ดำเนินคดี โดยบางครั้งยังใช้รถตราโล่ รับส่งเด็กสาวส่งค้ากาม และมีบางครั้งก็เอาไปส่งที่บ้านพักตำรวจด้วย

หลังจากเกิดเหตุพยายามเข้าแจ้งความดำเนินคดี ทั้งสถานีตำรวจ ศูนย์ดำรงธรรม และ บก.ปคม. แต่คดีไม่มีความคืบหน้า กังวลว่าจะมีการช่วยเหลือกัน จึงต้องพึ่งสื่อมวลชน

หลังจากตกเป็นข่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ขยับ เพียงไม่นานก็สามารถจับกุมดำเนินคดีกับผู้ต้องหาของ บช.ภ.5 จำนวน 18 คน ตำรวจ 9 คน พลเรือน 1 คน พ่อเล้าแม่เล้า 8 คน และ ปคม. จำนวน 8 คน

มีตั้งแต่คนขายเต้าหู้ไปจนถึงนายตำรวจยศ พ.ต.ท.

และยังไม่หมดแค่นี้

เชื่อว่ายังเหลือผู้กระทำความผิด ที่รอให้กฎหมายเข้าไปจัดการอยู่อีกแน่นอน