รายงานพิเศษ / 4 เหล่า ทัพเดียว ปลดแอก 3 ป. จับปฏิกิริยากองทัพ ‘ธรรมนัส’ คว้าจักรดาว ทัพฟ้าจับตา Jetta ขยับ ‘แอร์บูล-บิ๊กตั้ว-เสธ.หนึ่ง’ เคลียร์ใจ เล็ง ‘บิ๊กต่วย’ ตาอยู่

รายงานพิเศษ

 

4 เหล่า ทัพเดียว

ปลดแอก 3 ป.

จับปฏิกิริยากองทัพ

‘ธรรมนัส’ คว้าจักรดาว

ทัพฟ้าจับตา Jetta ขยับ

‘แอร์บูล-บิ๊กตั้ว-เสธ.หนึ่ง’ เคลียร์ใจ

เล็ง ‘บิ๊กต่วย’ ตาอยู่

 

กองทัพในยุค ผบ.เหล่าทัพชุดใหม่นี้ยังคงถูกจับตามอง แม้ว่าสถานการณ์การเมืองจะคลี่คลาย ข่าวลือปฏิวัติรัฐประหารจางหายไปก็ตาม

แต่ก็ไม่มีใครอาจฟันธงรับประกันได้ว่าจะไม่เกิดขึ้นอีกในสักวันหนึ่ง ในกาลข้างหน้า

เพราะถึงอย่างไร กองทัพก็ยังคงเป็นขุมอำนาจหลักที่มีผลต่อความเป็นไปทางการเมือง

แต่ทว่าความแตกต่างที่เกิดขึ้นคือ เป็นกองทัพในยุคเปลี่ยนผ่าน เป็น ผบ.เหล่าทัพที่ไม่ได้ปรากฏภาพของความใกล้ชิดสนิทสนมกับพี่น้อง 3 ป. “ป้อม-ป๊อก-ประยุทธ์”

คงมีแต่ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกลาโหม ที่นั่งมาเป็นปีที่ 3 แล้วเท่านั้น ที่เป็นสายตรง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่

แต่เป็นภาพลักษณ์ของ ผบ.เหล่าทัพที่มีความจงรักภักดี พร้อมที่จะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ในทุกรูปแบบ ท่ามกลางความเคลื่อนไหวของขบวนการล่วงละเมิดสถาบัน ที่ทำให้มีการใช้ ม.112 เอาผิดกัน และกลุ่มคนที่ต้องการให้ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์

โดยเฉพาะเมื่อมีทั้ง ผบ.ทหารสูงสุด และ ผบ.ทบ. เป็นนายทหารคอแดง มีสังกัดหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904 (ฉก.ทม.รอ.904)

ทั้งบิ๊กแก้ว พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และบิ๊กบี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. และเป็น ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 ด้วย

รวมทั้งบิ๊กอุ้ย พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผบ.ทร. และบิ๊กแอร์ พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผบ.ทอ. ที่แม้ไม่ได้เป็นทหารคอแดง แต่ก็ผ่านการฝึกหลักสูตรนายทหารราชองครักษ์มาแล้วทั้งสิ้น

ภาพรวมจึงเป็นทหารของพระราชา และสนิทสนมใกล้ชิดกับบิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ รองเลขาธิการพระราชวัง อดีต ผบ.ทบ.

จึงมีระยะห่างจากฝ่ายการเมือง ฝ่ายรัฐบาล และกับบิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พอสมควร

โดยเฉพาะ พล.อ.ณรงค์พันธ์ที่เป็นนายทหารสายรอยัลลิสต์ ที่แม้จะสนิทสนมกับ พล.อ.อภิรัชต์ แต่ก็มีคอนเน็กชั่นกับบุคคลสำคัญในสายราชสำนักด้วย

ขณะที่ พล.อ.เฉลิมพลได้ชื่อว่าเป็นน้องรัก ตท.21. ของ พล.อ.อภิรัชต์

อีกทั้ง ผบ.เหล่าทัพชุดนี้ไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยให้สัมภาษณ์ แตกต่างจากยุค พล.อ.อภิรัชต์

แม้จะมีทั้ง ตท.20 ตท.21 และ ตท.22 ก็ตาม แต่ก็มีความใกล้ชิดสนิทสนมกัน เพราะรุ่นใกล้กัน แถมมาเรียน วปอ.ด้วยกัน จึงมีความเป็นเอกภาพ

และทำอะไรพร้อมเพรียงกัน ตั้งแต่การทำเรื่องถึงวุฒิสภา ขอไม่รับเงินเดือน ส.ว.โดยตำแหน่ง

เมื่อครั้งมารายงานตัวรับหน้าที่ ส.ว.ก็มาวันเดียวกัน แม้จะไม่พร้อมกัน แต่แต่งสูทดำ เน็กไทเหลือง เป็นทีมเดียวกัน

 

จนมาถึงการรับรางวัลเกียรติยศจักรดาว ศิษย์เก่าดีเด่นโรงเรียนเตรียมทหาร ที่มีคิวจะต้องรับรางวัลจาก พล.อ.ประยุทธ์ 27 มกราคม 2564 นี้ ในวันสถาปนาโรงเรียนเตรียมทหาร

แต่ในที่ประชุมมูลนิธิศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมทหาร ที่มีบิ๊กแก้ว พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และประธานมูลนิธิโรงเรียนเตรียมทหาร เป็นประธานประชุมร่วม ตัวแทนเตรียมทหารทุกรุ่น เมื่อ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา ก็กลับมีมติในการที่จะยังไม่รับรางวัล แต่จะขอได้ทำงานก่อนสัก 1 ปี แล้วค่อยรับในมกราคม 2565

แม้ว่า 5 ผบ.เหล่าทัพจะได้รับรางวัลโดยตำแหน่ง เพราะได้เป็น ผบ.เหล่าทัพที่ไม่ต้องมาพิสูจน์ผลงานอะไร

และเป็นประเพณีที่รับรางวัลกันมา ในขณะที่ขึ้นมาเป็น ผบ.เหล่าทัพใหม่

แต่คราวนี้มีการแจ้งในที่ประชุมว่า พล.ร.อ.ชาติชาย และ พล.อ.อ.แอร์บูล ขอที่จะยังไม่รับรางวัล แต่ให้ชะลอออกไปก่อน นั่นหมายถึง จะรับรางวัลตอนที่เกษียณราชการ ตั้งแต่ 30 กันยายน 2564 ไปแล้ว

อย่างไรก็ตามในความจริงแล้ว ไม่มีการพูดเหตุผลที่แท้จริงในที่ประชุม แต่สรุปรวมว่าเป็นมติร่วมของ ผบ.เหล่าทัพ

โดยมีการตั้งข้อสังเกตกันว่า เกี่ยวข้องอะไรหรือไม่กับการที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ (เตรียมทหารรุ่น 25) ได้รับรางวัลด้วยหรือไม่ เพราะคุณสมบัติเข้าข่าย และได้รับตำแหน่งในทางการเมือง

แต่เพราะ ร.อ.ธรรมนัสเป็นเป้าการถูกโจมตีในทางการเมืองอย่างหนัก โดยเฉพาะเรื่องในอดีต

จนในการคัดเลือกศิษย์เก่าดีเด่นเมื่อปีที่แล้ว ชื่อของ ร.อ.ธรรมนัสต้องหลุดโผศิษย์เก่าดีเด่น เพราะถูกโจมตีหนัก

บิ๊กกบ พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผบ.ทหารสูงสุดในเวลานั้น ต้องหารือ พล.อ.ประยุทธ์ และขอตัดชื่อ ร.อ.ธรรมนัสออกไปก่อน เพื่อลดกระแสโจมตีมาที่โรงเรียนและกองทัพ

แต่มาครั้งนี้ คณะกรรมการนำชื่อ ร.อ.ธรรมนัสกลับมาพิจารณาอีกครั้ง และมีมติให้ได้รับรางวัล แต่ขอให้เลื่อนออกไปก่อน เช่นเดียวกับ ผบ.เหล่าทัพ

แม้ในที่ประชุมที่มีเตรียมทหารรุ่นต่างๆ โดยเฉพาะรุ่นพี่ที่เกษียณไปแล้วจะแย้งว่า หากไปรับรางวัลในมกราคม 2565 ตอนนั้นก็เกษียณราชการแล้ว ทั้ง พล.ร.อ.ชาติชาย พล.อ.อ.แอร์บูล พล.อ.ณัฐพล หากไปรับรางวัลปีหน้า ก็จะไปรับรวมกับ ผบ.เหล่าทัพคนใหม่ด้วยหรือไม่ จะเป็นการผิดธรรมเนียมหรือไม่ เพราะรางวัลนี้มอบให้แก่ผู้บัญชาการเหล่าทัพที่อยู่ในตำแหน่งก็ตาม

บ้างก็ว่า เพราะต้องการลดกระแสโจมตี ร.อ.ธรรมนัสที่ได้รางวัลก็จริง แต่ยังไม่ให้รับรางวัล

 

ไม่แค่นั้น มีรายงานว่า มีการเสนอจากศิษย์เก่าหลายรุ่น ว่า ต่อไปจะมอบรางวัลให้เฉพาะ ผบ.เหล่าทัพ และคนที่มีผลงาน แต่จะไม่มอบให้นายกรัฐมนตรี และ รมต.ที่เป็นศิษย์เก่าดีเด่นโรงเรียนเตรียมทหารอีกแล้ว เพื่อตัดปัญหาที่เกี่ยวโยงในทางการเมือง

อีกทั้งก่อนหน้านี้โรงเรียนเตรียมทหารก็เคยเอาชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 19 เตรียมทหารรุ่น 10 ออกจากการได้รับรางวัลเกียรติยศจักรดาวมาแล้ว

อีกทั้งมองว่า พล.อ.ประยุทธ์เคยได้รับรางวัลนี้แล้วตั้งแต่เป็น ผบ.ทบ.ในปี 2554 และเมื่อมาเป็นนายกฯ แล้วจึงไม่ต้องรับรางวัลนี้อีก แต่เคยมีการเทิดเกียรตินายกฯ ศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมทหารไปแล้ว

ทั้งนี้ เพื่อตัดปัญหาทางการเมืองอีกด้วย แต่เรื่องนี้ยังไม่สรุป

แต่ใน 27 มกราคม 2564 จะมีการมอบรางวัลเกียรติยศจักรดาวให้นายทหารซึ่งเป็นศิษย์เก่าดีเด่น 7 นาย ที่ได้จากผลงาน การสรรหา คือ พล.อ.อ.ปรีชา ประดับมุข ผู้บัญชาการสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (ผบ.สทป.) เตรียมทหารรุ่น 18 ได้รับรางวัลในสาขาพัฒนาสังคม พล.อ.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ อดีตแม่ทัพภาคที่ 3 / ผช.ผบ.ทบ. เตรียมทหาร 18 ได้รับรางวัลในสาขาพัฒนาสังคม

พล.อ.ชัยชนะ นาคเกิด อดีตรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด เตรียมทหารรุ่น 19 ได้รับรางวัลในสาขาการทหาร พล.อ.ธรรมนูญ วิถี ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก เตรียมทหารรุ่น 22 ได้รับรางวัลในสาขาการทหาร

พ.อ.ณรงค์ สวนแก้ว ผบ.ร.8 เตรียมทหารรุ่น 25 ได้รับรางวัลสาขาการทหาร น.อ.ดร.ธนากร พีระพันธ์ เตรียมทหาร 27 ได้รับรางวัลในสาขาการศึกษา

น.ท.ผศ.พินัย มุ่งสันติสุข เตรียมทหาร 34 ได้รับรางวัลสาขาการวิจัย เท่านั้น

จึงกลายเป็นอีกมิติใหม่ของ ผบ.เหล่าทัพชุดนี้ ที่ทำอะไรแตกต่างจากที่ผ่านมา และสะท้อนความเป็นยูนิตี้

ข้ามฟากไปทุ่งดอนเมือง แม้อาจจะเร็วไปที่จะมองว่า ใครจะขึ้นมาเป็น ผบ.ทอ.คนใหม่ต่อจากบิ๊กแอร์ พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ที่เหลือเวลาอีก 10 เดือนจะเกษียณก็ตาม

แต่ด้วยเพราะ พล.อ.อ.แอร์บูลกำลังถูกจับตามองว่า จะจัดการปัญหาภายในที่เป็นผลพวงจากการโยกย้ายตุลาคม 2563 ที่ผ่านมาอย่างไร

และจัดการแก้ไขผลพวงที่เกิดขึ้นในยุคที่บิ๊กนัต พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ เป็น ผบ.ทอ. ไว้อย่างไร

เพราะการที่ พล.อ.อ.มานัตเลือก พล.อ.อ.แอร์บูลมาเป็น ผบ.ทอ. แบบม้ามืด นอกโผ แล้วส่งออกนายทหารอากาศหลายคนไปนอก ทอ. ก็นำมาซึ่งปัญหาที่อาจเรียกว่าเป็นแรงกระเพื่อม

จนมีข่าวสะพัดในทัพฟ้าว่า พล.อ.อ.แอร์บูลกำลังพยายามแก้ไขและคืนความชอบธรรมให้ในการโยกย้ายกลางปีหน้า ทั้งระดับนายพล และนายนาวาอากาศ

แม้แต่การแก้ไข TOR ของสัญญาการจัดซื้อจัดจ้างต่างๆ ในบางรายการที่ยังไม่ได้ทำสัญญา ที่ พล.อ.อ.มานัตเคยวางนโยบาย P&D : Purchase and Development ไว้ เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ

แม้ว่า COPR กับ SOPR จะผ่านความเห็นชอบจาก ครม.กับสำนักงบประมาณและกลาโหมไปแล้ว

รวมทั้งกระแสข่าวต่างๆ ใน ทอ. ส่งผลให้เกิดปฏิกิริยาจาก พล.อ.อ.มานัตไม่น้อย เพราะอาจจะตั้งความหวังกับ พล.อ.อ.แอร์บูลมาก

แต่ทว่า พล.อ.อ.แอร์บูลมีความเป็นตัวของตัวเอง ไม่ได้ ‘เซย์เยส’ ทุกอย่าง ตามที่บิ๊กนัตเสนอ แนะนำ หรือที่ทำเอาไว้

 

จึงมีรายงานว่า พล.อ.อ.มานัตที่กลับบ้านเกิดไปทำสวนทุเรียน Jetta Farm ตามชื่อ call sign ก็เริ่มขยับ หลังสิ่งที่ทำไว้ถูกรื้อ และเริ่มรู้สึกว่ากำลังจะมีการแก้แค้นเกิดขึ้น จากสิ่งที่ตนเองได้ทำไว้ 1 ปีตอนเป็น ผบ.ทอ. จนถึงการโยกย้ายที่แหวกแนว

โดยเฉพาะการเน้นนักเรียนนอก จบนายเรืออากาศต่างประเทศ ที่ถือว่าเป็นคนเก่ง คนฉลาด

ทั้งนี้เพราะ พล.อ.อ.มานัตจบจากเยอรมนี และเป็นอดีต ผช.ทูตเยอรมนี จึงให้ความสำคัญกับนายทหารอากาศสายอินเตอร์ แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ใน ทอ.ว่า คนฉลาด ไม่ใช่ว่าจะทำงานเก่ง ทำงานดี เพราะคนฉลาด ทำงานไม่เป็นก็มีไม่น้อย

แต่นายทหารที่ พล.อ.อ.มานัตยึดหลักการประเมินผล ประเมินคะแนน หลัก 6 ประการ 10Q โดยมองว่า เป็นคนฉลาด ลงตำแหน่งสำคัญ แม้จะไม่ได้เป็นนักบิน หรืออาวุโสยังไม่ถึงนั้น อาจจะกำลังถูกจัดแถวใหม่

อีกทั้งการแก้แค้น แก้ไข กลายเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นเมื่อเปลี่ยน ผบ.ทอ. เพราะตอน พล.อ.อ.มานัตขึ้นมาเป็น ผบ.ทอ.นั้นก็ถูกมองว่าล้างบางสิ่งที่บิ๊กต่าย พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ผบ.ทอ. รุ่นพี่ ตท.18 คนก่อนทำไว้ รวมทั้งนายทหารที่สนิทสนมด้วย

โดยเฉพาะการที่ พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์วางตัวบิ๊กป้อม พล.อ.อ.ธนศักดิ์ เมตะนันท์ ไว้ตั้งแต่เป็นรอง เสธ.ทอ. เพื่อหวังให้ขึ้น เสธ.ทอ.

แต่เมื่อ พล.อ.อ.มานัตขึ้นมาก็จัดโผเมษายน 2563 ดัน พล.อ.อ.ชานนท์จากเจ้ากรมยุทธการ ทอ. มาเป็นรอง เสธ.ทอ. แล้วให้ขึ้น เสธ.ทอ. เมื่อตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา ก่อนตนเองเกษียณ เพื่อวางตัวเป็น ผบ.ทอ.คนต่อไป และคิดว่า พล.อ.อ.แอร์บูล ผบ.ทอ.คนใหม่ จะเดินตามแนวทางนี้

ส่วน พล.อ.อ.ธนศักดิ์ถูกส่งออกไปเป็นรองเสนาธิการทหาร อยู่ บก.ทัพไทย

 

แต่ก็เกิดคำถามว่า ระหว่าง พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ กับ พล.อ.อ.มานัต หากมีเรื่องคาใจกันมา เพราะเหตุใด พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์จึงเสนอชื่อ พล.อ.อ.มานัตเป็น ผบ.ทอ.

ทั้งๆ ที่มีเพื่อนรัก ตท.18 ถึง 2 คนเป็นแคนดิเดตอยู่ ทั้งบิ๊กโหน่ง พล.อ.อ.ชาญฤทธิ์ พลิกานนท์ ผช.ผบ.ทอ. และบิ๊กยาว พล.อ.อ.วันชัย นุชเกษม เสธ.ทอ. ในเวลานั้น แต่ก็เลือก พล.อ.อ.มานัตเป็น ผบ.ทอ. แล้วส่ง พล.อ.อ.ชาญฤทธิ์ข้ามไปเป็นรองปลัดกลาโหม และส่ง พล.อ.อ.วันชัยไปเป็นรอง ผบ.ทหารสูงสุด

เหตุผลหนึ่งก็ว่ากันว่า เพราะธรรมเนียม ทอ.ที่ ผบ.ทอ.ต้องไม่ซ้ำรุ่น จึงต้องเลือก พล.อ.อ.มานัต ตท.20

และอีกเหตุผลหนึ่งคือ พลัง ตท.20 พล.อ.อ.มานัตได้รับการสนับสนุนจากบิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แกนนำ ตท.20 ผบ.ทบ.ในตอนนั้นด้วยนั่นเอง

พล.อ.อ.มานัตจึงใช้เวลา 1 ปีตอนเป็น ผบ.ทอ. คิดใหม่ ทำใหม่ สไตล์ Jetta แบบเต็มที่ แม้จะเกิดแรงต้าน และเสียงวิจารณ์ก็ตามที

มาตอนนี้ พล.อ.อ.มานัตเลือก พล.อ.อ.แอร์บูล ด้วยหลายเหตุผลคือ ทั้งชื่อ ผ่านด่าน และเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดต่อตัว พล.อ.อ.มานัต

เมื่อเทียบกับ พล.อ.อ.สฤษฎ์พงศ์ ตท.21 พล.อ.อ.สุทธิพันธ์ ตท.21 บิ๊กป้อง พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ตท.21 ผบ.คปอ. ตอนนั้น ส่วนบิ๊กจ้อ พล.อ.อ.ธรินทร์ ปุณศรี ผช.ผบ.ทอ.ในเวลานั้น ก็เป็นเพื่อน ตท.20 จะซ้ำรุ่น

แต่การตัดสินใจของ พล.อ.อ.มานัตในวันนั้น และมี พล.อ.อ.แอร์บูลเป็น ผบ.ทอ.ในวันนี้ ก็ทำให้ พล.อ.อ.แอร์บูลรับแรงกดดันไม่น้อย ในฐานะคนกลาง

ไหนจะ พล.อ.อ.มานัตที่สนับสนุนให้ตนเองขึ้นมาเป็น ผบ.ทอ.

และไหนจะพี่ เพื่อน น้อง ที่สะท้อนความคิดเห็นเข้ามาว่ามีอะไรที่ควรต้องแก้ไข ก่อนที่ ทอ.จะกลับไปสู่ยุคความขัดแย้ง

ยิ่งเมื่อถูกจับตามองว่า จะไม่วางทายาทตามที่ พล.อ.อ.มานัตวางไว้ ก็ทำให้ พล.อ.อ.แอร์บูลต้องลบภาพความขัดแย้ง แย่งชิง ด้วยการตอกย้ำความเป็นเพื่อนพี่น้อง ชนอ. สายเลือดนายเรืออากาศ

เวลาไปงานต่างๆ ก็มักจะเชิญทั้ง เสธ.หนึ่ง พล.อ.อ.ชานนท์ มุ่งธัญญา เสธ.ทอ. รุ่นน้อง ตท.23 ที่ พล.อ.อ.มานัตวางตัวเป็น ผบ.ทอ.คนใหม่ไว้ และบิ๊กตั้ว พล.อ.อ.สฤษฎ์พงศ์ วัฒนวรางกูร ผบ.คปอ. เพื่อนรัก ตท.21 ไปด้วยกัน และถ่ายภาพร่วมกัน แสดงความกลมเกลียว เพราะการจะเลือกเสนอชื่อใครเป็น ผบ.ทอ.นั้น ยังไม่ถึงเวลา

เพราะคนที่มีอำนาจในการตัดสินใจคือบิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม

แม้ครั้งก่อนจะท้วงติง พล.อ.อ.มานัตที่เสนอชื่อ พล.อ.อ.แอร์บูล จากผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทอ. เป็น ผบ.ทอ. แต่ไม่สำเร็จก็ตาม

 

แต่คราวนี้มีเสียงแว่วๆ จากตึกไทยคู่ฟ้าว่า พล.อ.ประยุทธ์ยังคงแฮปปี้และสนับสนุนบิ๊กต่วย พล.อ.อ.สุทธิพันธ์ ต่ายทอง ที่ถูกเด้งจาก เสธ.ทอ. ข้ามไปเป็นรอง ผบ. ทหารสูงสุด ในโผที่แล้วอยู่ แต่ตอนนั้นเพราะ พล.อ.อ.มานัตมองว่าเป็นนักบิน A-37 ไม่ใช่เครื่องบินขับไล่ยุคใหม่ในตระกูลเอฟ และให้เหตุผลกับนายกฯ ว่า เป็นเรื่องสุขภาพของ พล.อ.อ.สุทธิพันธ์ ที่เคยมีปัญหาที่เส้นประสาท แต่ตอนนี้หายดีแล้ว

เพราะหากโยกย้ายปลายปีหน้า เกิดความขัดแย้ง ก็อาจจะเปิดช่องโหว่ให้ พล.อ.ประยุทธ์ใช้อำนาจได้ เพราะ พล.อ.อ.สุทธิพันธ์เกษียณ 2565 ยังมีสิทธิ์ชิง ผบ.ทอ. แม้จะถูกเด้งออกมาจากตึกแปดแฉกก็ตาม

กล่าวกันว่า หาก พล.อ.อ.สุทธิพันธ์คัมแบ๊ก ทอ.มาเป็น ผบ.ทอ.ตาอยู่ โอกาสที่ พล.อ.อ.ธนะศักดิ์จะได้กลับ ทอ.ก็มีสูง

แต่ก็ต้องไม่ลืม พลังภายในของ พล.อ.อ.สฤษฎ์พงศ์ ที่เป็นนายทหารที่บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่ คุ้นเคยเข้านอกออกในมูลนิธิป่ารอยต่อฯ อยู่เนืองๆ และยังเป็นเพื่อนรักของ พล.อ.อ.แอร์บูล แถมยังเป็นนักบิน F16 ผ่านการเป็นผู้บังคับฝูงบิน ผู้บังคับการกองบิน และ ผช.ทูต ทอ.ประจำลอนดอนมาแล้ว

แต่ทว่า พล.อ.อ.ชานนท์ก็ถือว่าไม่ด้อยกว่าใคร แม้ พล.อ.อ.มานัตจะไม่วางตัวไว้ เขาก็ต้องขึ้นมาอยู่แล้ว เพราะถือเป็นคนเก่งของรุ่น และเป็นทั้งนักบิน F16 Call sogn ‘Cannon’ และอดีตผู้การกองบิน 4 และ ผช.ทูตทหารอากาศ ประจำสวีเดน

จะว่าไป พล.อ.อ.ชานนท์ก็ไม่กดดัน ไม่ต้องรีบร้อนแย่งชิง เพราะมีอายุราชการถึงกันยายน 2567 หลบทางไปวนรอเป็น ผช.ผบ.ทอ. แล้วให้รุ่นพี่ ตท.21 อย่าง พล.อ.อ.สฤษฎ์พงศ์ หรือ พล.อ.อ.สุทธิพันธ์ หรือแม้แต่ พล.อ.อ.นภาเดช ประธานที่ปรึกษา ทอ. ชิงชัยกันเฮือกสุดท้าย ปีสุดท้ายก่อนก็ได้

วันก่อน พล.อ.อ.แอร์บูล นักบิน C-130 สวมชุดนักบิน นั่ง ฮ.ไปตรวจเยี่ยมสถานีเรดาร์ที่กาญจนบุรี ก็มีทั้ง พล.อ.อ.ชานนท์ และ พล.อ.อ.สฤษฎ์พงศ์ ที่ก็สวมชุดนักบินร่วมทีมไปด้วย จะถ่ายรูปร่วมกันเพื่อสยบข่าวการแย่งชิงเก้าอี้

เพราะใครจะเป็น ผบ.ทอ.นั้น ยังมีเวลา และจะให้แคนดิเดต ผบ.ทอ.ทำงานเพื่อแสดงฝีมือ ไม่มีขัดแย้ง แย่งชิงใดๆ เพราะพี่น้องกันทั้งนั้น

แต่ให้จับตามอง พล.อ.อ.แอร์บูล ว่า ทำให้ทัพฟ้าสงบได้หรือไม่ และอย่างไร