ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต/เจาะรถเด่น-พลังงานทางเลือก ‘เอ็มจี EP’-มิตซูฯ ‘เอาท์แลนเดอร์’

สันติ จิรพรพนิต

ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต [email protected]

เจาะรถเด่น-พลังงานทางเลือก

‘เอ็มจี EP’-มิตซูฯ ‘เอาท์แลนเดอร์’

 

ในช่วงการจัดงาน “Motor Expo 2020” หรือมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 37 ระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคม 2563 มีรถยนต์หลากหลายรุ่นที่พาเหรดอวดโฉม หรือบางรุ่นเปิดตัวก่อนหน้านั้นไม่นาน เพื่อนำรถคันจริงมาแสดงในงาน

ในจำนวนนี้มี 2 ค่ายน่าสนใจที่นำรถยนต์พลังงานทางเลือก ทั้งพลังงานไฟฟ้า และปลั๊กอินไฮบริดมาเป็นตัวเลือก

เริ่มกันที่รถยนต์ไฟฟ้า 100% ของค่าย “เอ็มจี” ที่ส่ง “NEW MG EP” รถแบบสเตชั่นแวกอน ที่ไม่ค่อยเห็นมากนักในเมืองไทยช่วงหลังๆ นี้

ออกแบบภายใต้แนวคิด BRIT DYNAMIC ดีไซน์ภายนอกกระจังหน้าแบบ Suspended Wing Grille ตกแต่งด้วยโครเมียมและ Piano Black

ไฟหน้าโปรเจ็กเตอร์พร้อมไฟส่องสว่างในเวลากลางวัน LED Daytime Running Light พร้อมระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ไฟท้าย LED แบบ Electric Pulse Design และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED

ล้ออัลลอยดีไซน์แบบสปอร์ตขนาด 16 นิ้ว

ตกแต่งภายในด้วยวัสดุผิวสัมผัสนุ่ม (Soft Touch) ดีไซน์เส้นสายแบบ CARBOXNYXE เบาะคู่หน้าออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ (Anti-Curved Surface Design) ซึ่งโอบรับกับเส้นสายสรีระได้เป็นอย่างดี นั่งสบายตลอดเส้นทาง

หน้าจอ Touchscreen ขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อกับ Apple CarPlay และหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอล (Digital Multi-Function Display) ขนาด 7 นิ้ว ที่แสดงผลได้อย่างสวยงามและชัดเจน พร้อมระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล กระจกมองหลังตัดแสง กระจกไฟฟ้าแบบ One Touch Up-Down ด้านคนขับ

พื้นที่ห้องโดยสารและพื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวาง เพื่อสามารถรองรับการใช้งานในจุดประสงค์ที่หลากหลาย ตอบโจทย์การใช้งานทุกรูปแบบ โดยเบาะที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังสามารถปรับพับได้แบบ 60:40 ทำให้มีพื้นที่ความจุสัมภาระสูงสุดถึง 1,456 ลิตร

 

ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ให้พละกำลังสูงสุด 163 แรงม้า แรงบิด 260 นิวตัน-เมตร ทำงานร่วมกับเกียร์ไฟฟ้า อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 8.8 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 185 กิโลเมตร/ชั่วโมง

มาพร้อมรูปแบบการขับขี่ทั้งหมด 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Normal โหมด Eco และโหมด Sport

รวมทั้งมีระบบชาร์จไฟกลับเมื่อชะลอความเร็ว หรือ KERS Mode รวม 3 ระดับ

ใช้แบตเตอรี่ Lithium-Ion มีความจุรวม 50.3 kWh ขับเคลื่อนระยะทางไกลถึง 380 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง (ทดสอบตามมาตรฐานความประหยัดพลังงาน New European Driving Cycle – NEDC)

ข้อดีของแบตเตอรี่ในรถรุ่นนี้สามารถแยกซ่อมแต่ละโมดูลได้อิสระ การชาร์จเต็ม 1 ครั้งวิ่งได้ระยะทางไกลสุด 380 กิโลเมตร

สามารถชาร์จไฟได้ 2 รูปแบบ คือ การชาร์จในรูปแบบ Normal Charge จาก 0-100% ผ่าน MG Home Charger ที่ใช้เวลา 7.15 ชั่วโมง และรูปแบบ Quick Charge จาก 0-80% ผ่านสถานีอัดประจุไฟฟ้าแบบเร็ว ซึ่งใช้ระยะเวลาเพียง 40 นาที

ระบบกันสะเทือนของช่วงล่างแบบ Euro Tuning Suspension เสริมด้วยระบบช่วงล่างหน้าแบบ MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง และช่วงล่างหลังแบบทอร์ชั่นบีม ทำให้มั่นใจยิ่งขึ้นเมื่อขับขี่บนทุกสภาพถนน

 

เทคโนโลยีระบบความปลอดภัย อาทิ ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS (Anti-Lock Braking System)

ระบบกระจายแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBD (Electronic Brake Force Distribution)

ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)

ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)

ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)

ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control) ฯลฯ

นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light) จุดยึดเบาะ ISOFIX เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า กล้องมองหลังพร้อมสัญญาณเตือนระยะถอยหลัง และระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer

NEW MG EP เคลมว่ามีค่าใช้จ่ายต่ำ การชาร์จผ่าน MG Home Charger ที่บ้าน จาก 0-100% มีค่าไฟฟ้าประมาณ 200 บาทต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง (อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยทั่วประเทศที่ 3.96 บาทต่อหน่วย ไม่รวมค่า FT และภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ เดือนมิถุนายน 2563)

รวมถึงค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาตามระยะทางตลอดระยะเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน มีค่าใช้จ่ายรวมไม่เกิน 8,000 บาท

“NEW MG EP” ราคา 988,000 บาท

 

ส่วนรถยนต์อีกรุ่นที่เปิดตัวในงาน “Motor Expo 2020” คือมิตซูบิชิ “เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี” ปลั๊กอินไฮบริด เอสยูวี ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบใหม่

ออกแบบและมีสมรรถนะจากการผสาน DNA และเทคโนโลยีของ “ปาเจโร่” สุดยอดตำนานแห่งรถเอสยูวี และ “มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีโวลูชั่น” เข้าไว้ด้วยกัน

ดีไซน์ภายนอกโดดเด่น โฉบเฉี่ยวดีไซน์ภายในประณีตทุกรายละเอียด ห้องโดยสารกว้างขวาง ครบทุกฟังก์ชั่นความสะดวกสบาย

มาพร้อมกับเบาะหนังดีไซน์ใหม่แบบ ‘ไดมอนด์ ควิลติ้ง คัต’ ที่สะท้อนความสมบูรณ์แบบ ความสะดวกสบาย และตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ตลอดการเดินทาง

ทรงพลังด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ และเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร ให้กำลังสูงสุดที่ 305 แรงม้า พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ “ซูเปอร์-ออลวิลล์คอนโทรล” (S-AWC) ที่ดีที่สุดจาก “มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีโวลูชั่น”

โหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่ “อีวี” (ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ), “ซีรี่ส์ ไฮบริด” (ขับเคลื่อนหลักด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า โดยมีเครื่องยนต์ทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟฟ้าให้แก่มอเตอร์ไฟฟ้าคู่) และ “พาราเรล ไฮบริด” (เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าทำหน้าที่ขับเคลื่อนตัวรถไปพร้อมกัน)

การขับขี่ทั้ง 3 รูปแบบ จะถูกสลับปรับเปลี่ยนโหมดแบบอัตโนมัติ พร้อมระบบเบรกที่สามารถจ่ายพลังงานไฟฟ้าคืน (Regenerative Braking) เพื่อชาร์จกระแสไฟฟ้าให้แก่แบตเตอรี่

 

ติดตั้งเทคโนโลยีการเชื่อมต่อพร้อมระบบสั่งการอัจฉริยะ ที่สามารถใช้ได้ทั้งระบบปฏิบัติการไอโอเอสและแอนดรอยด์ สามารถตั้งเวลาการชาร์จไฟฟ้า สั่งการเปิด-ปิดเครื่องปรับอากาศภายในรถจากระยะไกล และการตรวจสอบสถานะของตัวรถ

เทคโนโลยีความปลอดภัยครบครัน

มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ใหม่ ยังสามารถผลิตและจ่ายพลังงานไฟฟ้าจากตัวรถมาใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ที่มีขนาดไม่เกิน 1,500 วัตต์ ด้วยการเสียบปลั๊กเข้ากับช่องจ่ายกระแสไฟฟ้าภายในตัวรถ

เรียกว่าเป็นรถที่เหมาะทั้งใช้เดินทางในชีวิตประจำวัน หรือท่องเที่ยวแบบกางเต็นท์ได้สบาย

มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี มีให้เลือก 2 รุ่น “จีที” ราคา 1,640,000 บาท และ “จีที พรีเมียม” ราคา 1,749,000 บาท