ภาพยนตร์ /นพมาส แววหงส์ / REBECCA ‘ฉันจะกลับมา’

นพมาส แววหงส์

ภาพยนตร์/นพมาส แววหงส์

REBECCA

‘ฉันจะกลับมา’

 

กำกับการแสดง Ben Wheatley

นำแสดงLily James Armie Hammer Kristin Scott Thomas Ann Dowd

 

เรือลำที่พาหญิงสาวสวยนาม “รีเบคคา” จมหายไปนอนอยู่ก้นทะเลลึก มีชื่อว่า Je Reviens ซึ่งเป็นภาษาฝรั่งเศส แปลว่า ฉันจะกลับมาอีก

และนั่นคือคำสัญญาที่แว่วอยู่ในหูของตัวละครหลายตัวในหนังซึ่งสร้างจากนวนิยายเลื่องชื่อของนักเขียนหญิงชาวอังกฤษ ดาฟนี ดู มัวริเอร์ ซึ่งเขียนเมื่อ ค.ศ.1938 และยังคงพิมพ์จำหน่ายต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้

สมัยที่ผู้เขียนเรียนอยู่ที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ก็ต้องอ่านวรรณกรรมเรื่องนี้ในชั้นเรียนวิชาภาษาอังกฤษ

เพียงสองปีหลังจากที่มีการตีพิมพ์เผยแพร่ นิยายก็แปรรูปจากตัวหนังสือกลายเป็นภาพตัวละครที่มีชีวิตโลดแล่นอยู่บนจอภาพยนตร์ โดยมีอัลเฟรด ฮิตช์ค็อก เป็นผู้กำกับหนัง และลอว์เรนซ์ โอลิวิเอร์ กับโจน ฟอนเทน ในบทนำ

หนังเรื่อง Rebecca (1940) กลายเป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประจำปีโดยได้รับออสการ์ไปครอง

สมัยนั้นผู้เขียนยังไม่เกิด ก็เลยยังไม่ได้ดู และเพิ่งถูกกระตุ้นให้ย้อนไปดูเมื่อไม่นานนี้เอง เพื่อเปรียบเทียบกับ Rebecca เวอร์ชั่นใหม่ของเน็ตฟลิกซ์

 

สมัยเรียนเรื่องนี้ ได้ยินคำว่า gothic romance เป็นครั้งแรก ซึ่งตามความเข้าใจสมัยนั้นคือเรื่องราวความรักที่มีฉากหลังแบบน่าหวาดผวา มีอะไรซ่อนอยู่ในเงามืดให้คอยหวาดระแวงอยู่ตลอด ถ้าจะเปรียบก็คือหนังลึกลับเขย่าขวัญ หรือ thriller

ซึ่งเป็นความถนัดของฮิตช์ค็อกอยู่แล้ว ต่อมาอีก 20 ปี ฮิตช์ค็อกถึงจะได้สร้างเรื่อง Psycho (1960) ให้ลือกระฉ่อนเป็นเจ้าแห่งการลุ้นระทึกของวงการภาพยนตร์มาจนทุกวันนี้

Rebecca ของฮิตช์ค็อกยังเป็นหนังขาวดำอยู่เลยค่ะ ดังนั้น บรรยากาศและสีสันจึงแตกต่างไปจากเวอร์ชั่นปัจจุบันนี้มาก

แต่องค์ประกอบที่เป็นกุญแจสำคัญในเรื่องก็ถูกบังคับให้เบี่ยงเบนไปจากนวนิยายและหนังในตอนนี้

เข้าใจว่าเนื่องจากกฎระเบียบของภาพยนตร์ในสมัยนั้นในแง่ของศีลธรรมจรรยาของตัวละครหลัก

 

สีสันอันสดใสของ Rebecca ปัจจุบันออกจะทำให้รู้สึกแตกต่างไปจากความเป็น “กอธิก” ไปโขอยู่ แต่หนังก็เริ่มด้วยประโยคแรกที่เหมือนในนวนิยายเป๊ะ (Last night I dreamt I went to Manderley again) และเป็นประโยคที่ท่องจำกันเพราะจังหวะการลงเสียงหนัก-เบา หรือครุ-ลหุ ตามแบบฉันทลักษณ์ของร้อยกรองอังกฤษ ที่เรียกว่า iambic hexameter

ภาพของคฤหาสน์แมนเดอร์เลย์อันมโหฬารทะมึนขึ้นมาตรงหน้า พร้อมด้วยความทรงจำอันน่ากลัว ก่อนที่นางเอกผู้เป็นคนเล่าเรื่องทั้งหมด จะย้อนกลับไปเล่าถึงจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ของเธอกับเจ้าของคฤหาสน์อัครฐานนั้น

เรื่องราวเกิดขึ้นภายใต้บรรยากาศอันมีสีสันงดงามสว่างเจิดจ้าของแสงแดดอบอุ่นในมอนติคาร์โล ซึ่งนางเอก (ลิลี่ เจมส์) เป็นหญิงสาวกำพร้า และเลี้ยงดูตัวเองด้วยการรับจ้างเป็นเพื่อนไปไหนมาไหนด้วยกันของมิสซิส แวน ฮอปเปอร์ (แอนน์ ดาวด์) สตรีผู้ดีชราที่เดินทางมาพักผ่อนทางภาคใต้ของฝรั่งเศส

มิสซิสแวน ฮอปเปอร์ ตื่นเต้นกับพ่อหม้ายหนุ่มใหญ่รูปหล่อเฟี้ยวผู้ร่ำรวยมหาศาล แม็กซิม เดอ วินเทอร์ (อาร์มี่ แฮมเมอร์) ซึ่งลือกันว่าเศร้าโศกเสียใจกับการสูญเสียภรรยาคนสวยไป

นางเอกได้รู้จักกับแม็กซิมและถูกคอถูกใจกับแม็กซิมในช่วงสั้นๆ แต่เมื่อเธอจำต้องจากไปอย่างกะทันหันพร้อมกับนายจ้าง เขาก็ขอเธอแต่งงานเพื่อให้เดินทางกลับไปแมนเดอร์เลย์ที่อังกฤษพร้อมกับเขา

แน่นอนว่านี่เป็นความฝันที่กลายเป็นจริงของสาวน้อยที่โดดเดี่ยวต้องต่อสู้โลกอยู่ลำพัง และได้ลงหลักปักฐานกับชายหนุ่มรูปงามที่เธอหลงรักและเชื่อว่าเขารักเธอ

 

ชีวิตแบบเทพนิยายของซินเดอเรลลาสาวน้อยเปลี่ยนไปทันทีที่ย่างก้าวเข้าสู่คฤหาสน์อัครฐานในฐานะมิสซิสเดอวินเทอร์คนใหม่

แม็กซิมบอกเธอว่าไม่ต้องกังวลกับการดูแลคฤหาสน์ เพราะแมนเดอร์เลย์มีแม่บ้านที่ชำนาญงานคอยดูแลอยู่แล้ว

และมิสซิสแดนเวอร์สก็ให้การต้อนรับที่ชาเย็นจนหนาวเหน็บเข้าไปถึงกระดูก สำหรับหญิงสาวหน้าใสผู้ไร้ประสบการณ์ในหมู่ชนชั้นผู้ดีชนบทของอังกฤษ

ทุกซอกทุกมุมในคฤหาสน์เปี่ยมล้นไปด้วยความทรงจำของคุณผู้หญิงคนก่อนที่ชื่อ รีเบคคา อักษรย่อตัว “อาร์” ประทับตราและปักอยู่บนหมอน ผ้าปูโต๊ะ ผ้าเช็ดมือ สมุด ฯลฯ เตือนให้รู้ว่ารีเบคคายังอยู่และยังคงครอบครองแมนเดอร์เลย์ในฐานะนายหญิงของบ้าน

นางเอกซึ่งไม่ปรากฏชื่อตัว เพียงแต่ถูกเรียกว่า “มิสซิสเดอวินเทอร์คนใหม่” ไม่สามารถหนีไปจากอดีตที่หลอกหลอนผู้คนที่ยังมีชีวิตอยู่ รวมทั้งสามีของเธอซึ่งเธอคิดว่ายังรักและเศร้าโศกถึงอดีตภรรยาไม่เสื่อมคลาย จนไม่เหลือที่ไว้สำหรับเธอซึ่งเป็นภรรยาคนปัจจุบันของเขา

ทั้งหลายทั้งปวงทำให้นางเอกรู้สึกโดดเดี่ยวและด้อยค่า โดยเฉพาะจากท่าทีและการกระทำของมิสซิสแดนเวอร์ส ผู้บูชานายสาวคนเก่าอย่างคลั่งไคล้ และยุยงกลั่นแกล้งจนนางเอกต้องอับอายเสียหน้าอย่างมากต่อหน้าแขกเหรื่อ รวมทั้งทำให้แม็กซิมระเบิดโทสะใส่เธอโดยไม่ไว้หน้า

เรื่องมาถึงไคลแมกซ์เมื่อตอนที่มีชาวเรือลากจูงเรือ “ฉันจะกลับมา” พร้อมด้วยโครงกระดูกของรีเบคคาเข้าฝั่ง สร้างความสงสัยว่าเธอไม่ได้จมน้ำตาย แต่ถูกฆาตกรรมอำพราง

ซึ่งทำให้แม็กซิมเล่าความจริงให้เธอรู้ และเธอยืนเคียงข้างเขาในการต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเขาในการไต่สวนคดี

 

มีรายละเอียดมากมายให้พูดถึงหากจะเปรียบเทียบกับหนังเวอร์ชั่นนี้กับนิยายต้นเรื่อง หรือหนังชนะรางวัลของฮิตช์ค็อก

แต่ผู้เขียนขอแนะนำให้ดูอย่างสนุกไปกับเรื่องราวและตัวละครโดยไม่ตั้งมาตรฐานของความคาดหวังไว้สูงลิ่วตามความชื่นชอบจากการอ่านนิยายหรือจากการดูหนังเวอร์ชั่นก่อน แน่นอนว่าหนังยังมีจุดอ่อนอยู่หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นในด้านตัวละครหรือองค์ประกอบของพล็อต ซึ่งสามารถสาธยายเปรียบเทียบได้เป็นหลายๆ หน้า

แต่ดูจากหนังส่วนใหญ่ที่ได้ดูกันอยู่ทุกวันนี้ หนังเรื่องนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่โดนโจมตีกันนะคะ เป็นหน้าตาทันสมัย โปรดักชั่นสวยมาก นางเอกสวย พระเอกหล่อ (เกินไป) สนุกไปกับการหักมุมในเรื่อง

และมีประเด็นให้คิดต่ออีกต่างหาก

ไม่ได้นึกเสียดายเวลาที่ใช้ไปในการดูเลยเชียว