ไม่พูดไม่ได้แปลว่ายอมรับ “ก้อง ห้วยไร่” เคลียร์ทุกข้อสงสัย จากดราม่าไปจนถึงเรื่องความรัก

รายงานพิเศษ

ไม่พูดไม่ได้แปลว่ายอมรับ “ก้อง ห้วยไร่” เคลียร์ทุกข้อสงสัย จากดราม่าไปจนถึงเรื่องความรัก

 

นาทีนี้เห็นทีจะหาคนที่ไม่รู้จัก ก้อง ห้วยไร่-อัครเดช ยอดจำปา ได้น้อย ค่าที่นักร้องลูกทุ่งคนนี้โด่งดังเสียเหลือเกิน

ก็ดูสิ แค่ปล่อยเพลงใหม่ “โอ้ละน้อ” มาได้แค่ราวๆ 2 เดือน ยอดวิวก็ขึ้นไปแล้วเกือบ 65 ล้านวิว ไม่นับงานจ้างทัวร์คอนเสิร์ตที่เจ้าตัวบอกเลยว่า “เยอะ”

“ปีนี้หนักกว่าปีที่ออกเพลงไสว่า (ไสว่าสิบ่ถิ่มกัน) ครับ” เขาบอก

ที่เป็นอย่างนั้นอาจเพราะได้ 3 ประสานคือ ทั้งเพลงเก่า “ไสว่าฯ” เพลง “คู่คอง” จากละครเรื่อง “นาคี” แล้วยังมี “โอ้ละน้อ” มาเสริม ทำให้แฟนๆ เรียกร้องอยากเจอ อยากฟังกันสดๆ

ก้องที่ดูเหมือนว่าระยะนี้จับอะไรก็ประสบความสำเร็จไปเสียหมดเปิดใจว่า สำหรับเขา สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้สร้างความกดดันอะไรให้

“ด้วยความที่เรามาแบบแปลกๆ อยู่แล้ว เข้ามาแบบไม่ได้ตั้งใจว่าจะต้องเข้ามาเป็นศิลปิน แค่อยากร้องเพลง อยากถ่ายทอด คิดไว้เล่นๆ ณ ตอนนั้นคือ แค่มีงานพอที่จะไม่เป็นภาระใคร แต่กลายเป็นมีกระแสตอบรับที่ดี”

และในความเห็นเขา เมื่อกระแสดี อะไรๆ ก็ “ง่ายขึ้น”

“เหมือนว่าเขาเปิดรับเราแล้ว เหมือนผมเป็นร้านขายส้มตำ ก็ไม่ต้องไปคิดว่า เราไปขายเมนูอื่นดีกว่าเขาจะได้อร่อยๆ ไม่ๆ เราก็ทำส้มตำของเราไปนั่นแหละ”

เรื่องจะรู้สึกกดดันกับผลงานจึงไม่เท่าไหร่ ไม่เหมือนความรู้สึกกดดันในด้านการวางตัว

“เป็นเรื่องของการวางตัว การใช้ชีวิตมากกว่าครับ พอเราอยู่ในที่สว่าง แล้วต้องพบเจออะไรที่มันเยอะแยะมากมาย ซึ่งเราต้องเปิดใจรับให้ได้ วางตัวยากขึ้นนะครับ ทุกคำพูด บางครั้งคำพูดของเราอาจพูดแบบวัยรุ่น พูดไม่สุภาพ พอมาอยู่ตรงนี้ก็ต้องลดน้อยถอยลง เพราะว่าเยาวชนรุ่นใหม่มอง หรือแม้กระทั่งเรื่องที่เราคิดว่าปกติ ธรรมชาติสำหรับเรา แต่อาจจะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับใครหลายๆ คน มันยากตรงนี้”

“ชีวิตก็เปลี่ยนเยอะครับ”

หากกระนั้นเขายืนยัน “ไม่ถึงกับอึดอัด”

เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น ความเป็นส่วนตัวที่หายไป ก็แลกมากับความเป็นอยู่ของครอบครัวที่ดี ข่าวโน่นนั่นนี่ที่มากระทบจึงเป็นสิ่งที่รับไหว

“หลายข่าวจริงๆ” เขาว่า

ทั้งเรื่องที่มีคนอ้างว่าเป็นผู้แต่งเพลง “ไสว่าฯ” ที่ก่อนหน้านั้นก้องประกาศว่าคือผลงานจากมันสมอง ซึ่งก็กลายเป็นข่าวใหญ่โตอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเคลียร์จบ

“เรื่องนี้เรารู้อยู่แก่ใจว่าเป็นคนเขียนเอง ก็ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้น เราแค่ต้องตอบคำถาม ไม่อยากให้คนที่ศรัทธา อยากจะมาเป็นเหมือนเรารู้สึกเสียใจ เลยต้องออกมาพูด ถือเป็นเรื่องแรกที่ผมออกมาพูดจริงจัง”

และสุดท้ายฝ่ายนั้นก็ยอมรับ

อย่างไรก็ตาม ก้องบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นก็เปิดมุมมองให้เขามองภาพต่างๆ ได้กว้างขึ้น

ว่า “เรื่องไม่เป็นเรื่องก็เป็นเรื่องได้นะ”

“เราจะทำยังไงถึงจะอยู่ได้”

เพราะฉะนั้น ถ้าคิดจะทำอะไรที่ไม่ดี ทำอะไรที่ผิด ก็ควรล้มเลิกความคิด ไม่ทำเสียดีกว่า เพราะถึงที่สุดแล้วไม่มีใครที่จะปกปิดสิ่งที่ทำไว้ได้ และในขณะเดียวกัน “ก็ทำให้เราคิดได้ว่า ถ้าเราไม่ได้ทำ เราจะกลัวอะไร”

“ก็เหมือนหลายๆ เรื่องที่เป็นข่าว เราก็เฉยๆ เราก็นิ่ง ถ้าเป็นจริงเดี๋ยวมันก็ทำร้ายเราเอง แต่ถ้าเราไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง ก็ไม่จำเป็นต้องตอบโต้ หรือพูดให้ตัวเองชนะ เพราะถ้าชนะ ก็ไม่รู้ว่าใครได้อะไร ไม่มีรางวัลสำหรับผู้ชนะ มีแค่ใครเป็นคนแพ้แล้วก็เจ็บปวด เสียใจ”

“แม้กระทั่งเรื่องนี้ ถ้าจะเป็นเรื่องใหญ่ จะต้องฟ้อง ติดคุก แล้วพ่อแม่ญาติพี่น้องเขาล่ะ”

แต่อย่างที่บอกว่าเพราะนึกถึงบรรดาคนที่ศรัทธาเขา ครั้งนี้จึงออกมาจริงจัง

“นอกนั้นเราก็ปล่อยผ่าน ปล่อยผ่านไม่ได้ยอมรับนะครับ แต่เรารู้อยู่แก่ใจ”

ขณะเรื่องอุบัติเหตุรถชน ที่กลับจบลงด้วยดราม่า ว่าไม่ได้เจ็บอะไรมากมาย แต่ถือโอกาสยกเลิกงานคอนเสิร์ตที่รับไว้ซะงั้น เขาก็ว่า นั่นคงมาจากการสื่อสารคลาดเคลื่อน ด้วยวันนั้นเขาเดินทางจากกรุงเทพฯ จะไปชุมพรด้วยรถตู้ โดยอุบัติเหตุเกิดขึ้นราวๆ เที่ยง กว่ารถคันใหม่จะมาเปลี่ยน ก็เหลือเวลาเดินทางอีกแค่ 3 ชั่วโมง กับระยะทาง 400 กว่ากิโลเมตร ซึ่งประเมินแล้วไม่ทันแน่ๆ คนจัดงานเองก็เข้าใจว่าเป็นเรื่องสุดวิสัย แต่คนทั่วไปที่รับรู้แค่รถหม้อน้ำแตกจึงเข้าใจผิด

“เราก็มีน้อยใจนิดๆ นะ แต่ไม่สามารถไปอธิบายกับคนที่อาจจะไม่โอเคกับเรา ไม่สามารถอธิบายให้ทุกคนได้ เลยปล่อยผ่าน แล้วก็ทำใจว่าแล้วแต่เขาจะคิด”

พร้อมกับฝึกตัวเองให้ชินกับดราม่าต่างๆ ที่จะเข้ามา

เรื่องอวดรวย ใช้แต่ของแพงๆ ก็เช่นกัน

“ประเด็นนี้ผมอยากถ่ายทอดมากๆ เลย การใช้ชีวิตอย่างพอเพียงไม่ได้หมายความว่าเราต้องใช้ของประหยัดนะครับ ใช้ของดีชิ้นเดียวไปเลย ใช้ให้คุ้มค่า อย่างรถยนต์ที่ผมซื้อก็มีเหน็บขำๆ ทำไมซื้อรถแพง ทำไมไม่ซื้อรถไถให้พ่อ-แม่ ผมเลยบอกว่าผมไม่สามารถขับรถไถไปทำงานได้ ไปไม่ทันงาน”

“ไม่ได้ใช้ของแพงเพื่ออยากมีชีวิตหรูหรา ผมก็ยังเหมือนเดิมเลย”

กับเรื่องหัวใจ นักร้องคนดังบอกตามตรงว่า มีคุยๆ อยู่กับหมอลำสาว เบลล์-ขนิษฐา เบ้าหล่อเพชร แต่ยังไม่ได้เป็นแฟน

ที่พูดอยู่นี้ เขายืนยันว่าไม่ได้กั๊ก หรือไม่อยากเปิดเผย “จริงๆ มันคือธรรมชาติทั่วไป ที่เบี่ยงเบนไม่ได้กลัวตัวเองไม่ดังเหมือนเดิม ไม่ได้กลัวความนิยมน้อยลง ผมมาจากศูนย์ ถ้าผมกลับไปศูนย์เมื่อไหร่ก็อยู่ตัว ไม่ได้ขาดทุน แต่ที่ไม่กล้าพูดเพราะวันพรุ่งนี้มันอาจเปลี่ยนไปแล้วก็ได้”

“ผมก็คุยกับน้องว่าวันนี้โอเค แล้วถ้าวันข้างหน้าเราเลิกกันล่ะ ทำใจให้มีความสุขนะ แค่ทำดีต่อกันให้มาก เลิกกันไปมีสิ่งดีๆ มีความทรงจำดีๆ แค่นั้น”