ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 18 - 24 กันยายน 2563 |
---|---|
คอลัมน์ | หลังเลนส์ในดงลึก |
ผู้เขียน | ม.ล.ปริญญากร วรวรรณ |
เผยแพร่ |
หลังเลนส์ในดงลึก/ปริญญากร วรวรรณ
‘เดิมพัน’
คนทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในสมัยก่อนเรียกกระทิงว่าเมย
ผมไม่รู้หรอกว่ามีต้นทางมาอย่างไร ในทุกวันนี้ก็ไม่เคยได้ยินใครเรียกกระทิงว่าเมยแล้ว
ในยุคสมัยหนึ่ง กระทิง สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของเสือโคร่ง เป็น “เป้าหมาย” ของเหล่าคนล่าสัตว์ด้วย
ได้ฆ่ากระทิง ยืนบนซาก ถ่ายรูป หรือนำหัวอันใหญ่โตของกระทิงกลับออกจากป่าไปประดับฝาบ้าน
นี่คล้ายเป็นความภาคภูมิใจ กระทิงจำนวนมากถูกฆ่า พวกมันได้รับการเล่าขานในหมู่คนล่าสัตว์ว่าเป็นสัตว์ดุร้ายอันตราย พร้อมเข้าชาร์จทันทีที่พบเจอคน
และเป็นความจริงที่มีคนจำนวนไม่น้อยบาดเจ็บหรือเสียชีวิตขณะตามฆ่ากระทิงซึ่งบาดเจ็บโดนยิงแต่ไม่ตายในครั้งแรก เพราะกระทิงตัวนั้นพุ่งเข้าโจมตี
ว่าตามจริง การ “ล่าสัตว์” อันเปรียบเสมือนเกมกีฬาของเหล่า “แมนๆ” ในยุคสมัยนั้น หากเอาความรู้สึกนึกคิดในยุคนี้เข้าไปตัดสิน คงไม่ยุติธรรมสักเท่าไหร่
แต่การกระทำเช่นนี้ ได้ปลูกฝังเป็นความทรงจำอันเลวร้ายให้กับกระทิง รวมทั้งเหล่าสัตว์ป่าต่างๆ
พวกมันจำเรื่องราวเหล่านี้และถ่ายทอดต่อๆ กันมาว่า คนคือสิ่งอันตรายที่สุด
กระทั่งถึงทุกวันนี้ กระทิงและสัตว์ป่าทุกชนิดจะผละหนีทันทีที่ได้กลิ่นคน
แต่อีกนั่นแหละ ขณะมีกระทิงหลายตัวผละหนี
มีบ้างบางตัวไม่ทำเช่นนั้น…
ไม่ทำเพราะพวกมันเป็น “ชีวิต”…
คนทำงานในป่าจำนวนหนึ่งบาดเจ็บเพราะถูกสัตว์ป่ารวมทั้งกระทิงโจมตี เมื่อพบกันอย่างกระชั้นชิด
มีสัตว์ป่าจำนวนไม่น้อยดำรงชีวิตอยู่ในสภาพ “สัตว์ป่วย” บาดเจ็บเพราะถูกยิง หรืออาจเพราะคมเขี้ยวเสือ
อีกทั้งพวกมันพบกับสภาวะที่แหล่งอาศัยถูกปรับเปลี่ยนเป็นเมือง เป็นพื้นที่เกษตร
ที่อาศัยเหลืออยู่เป็นหย่อมๆ เส้นทางการเดินทางหากินถูกตัดขาด
สัตว์ป่าเผชิญหน้ากับปัญหา ไม่ใช่เพียงการถูกไล่ล่าดังเช่นในครั้งโน้น
กว่า 30 ปีที่ผ่านมา พื้นที่ซึ่งเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ป่าได้รับการประกาศให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์ มีการดูแลปกป้องอย่างจริงจัง
จำนวนสัตว์ป่าเพิ่มประชากร กระทิงไม่ใช่สัตว์หายาก พื้นที่หลายแห่งมีประชากรกระทิงมากขึ้น
หลายสิ่งเปลี่ยนไปตามกาลเวลา คนจำนวนมากใส่ใจกับความเป็นอยู่ของสัตว์ป่า
แต่ดูเหมือนความต้องการเขากระทิง เพื่อนำไปเสริมสร้างบารมียังคงมี
มีคนรับจ้างฆ่ากระทิงเพื่อนำเขาไปขาย
ชุดลาดตระเวนในป่าอนุรักษ์พบเจอซากกระทิงนอนตาย เลือดไหลนอง ถูกตัดไปแค่หัว
นี่คือสิ่งอันบอกให้รู้ว่า ในวันที่โลกเจริญก้าวหน้าไปไกล
บางคนคล้ายจะย่ำอยู่ที่เดิม
และมันทำให้รู้อีกเช่นกันว่า ในป่าซึ่งเหลือเพียงหย่อมๆ อันเป็นแหล่งอาศัยที่เหลือของสัตว์ป่า
ข้างในนั่นมีสัตว์ป่วยอยู่จำนวนไม่น้อย
กลางเดือนกันยายน พ.ศ.2563
ผู้ชายร่างเล็กผอมผิวคล้ำ เดินถึงจุดที่จะตั้งแคมป์พัก เขาปลดเป้ใบใหญ่ลงจากหลัง วางพิงต้นไม้ เปิดเป้เพื่อหยิบเปลออกมาผูกกับต้นไม้
“ฟืด!!” เสียงพ่นลมหายใจดังมาจากพุ่มไม้ทึบ ห่างออกไปราว 3 เมตร เขาเงยหน้ามอง เห็นร่างทะมึนขยับก้าวเท้าเข้ามาใกล้ เขายกเป้ขึ้นมาบังช่วงลำตัว เพื่อลดแรงปะทะ หากกระทิงตัวนั้นเข้าชาร์จ ต้นไม้ใหญ่น่าจะเป็นกำบังให้ได้ด้วย
กระทิงพ่นลมหายใจอีกครั้ง และพุ่งเข้าหา เขาปีนขึ้นต้นไม้คว้าเถาวัลย์ใหญ่ แม้จะมีน้ำหนักไม่มาก แต่ก็มากพอจะทำให้เถาวัลย์ยวบลง ขาข้างขวาโผล่ออกจากการบังอยู่หลังลำต้นไม้
กระทิงขวิดเต็มแรง โคนเขาฟาดที่ขา ชายร่างเล็กผิวคล้ำลอยสูงตกลงในพุ่มไม้ ห่างมาราว 5 เมตร
กระทิงตามมายืนคร่อมตัวเขาสักครู่ ก่อนผละไป
หัวใจผมหล่นวูบเมื่อเห็นสภาพของพิทยา ผู้ช่วยนักวิจัย โครงการศึกษานิเวศวิทยาของนกเงือก ผู้ทำงานมากว่า 30 ปี เป็นผู้เชี่ยวชาญในงานและการใช้ชีวิตในป่าอย่างหาตัวจับยาก
ขาขวาหักบิดเบี้ยวผิดรูป โคนขาด้านหลังเป็นแผลใหญ่ เลือดไหลทะลักเป็นลิ่มๆ
เราเดินขึ้นเขาเพื่อพบกับการรวมฝูงของนกเงือกกรามช้าง ในช่วงกลางเดือนกันยายนถึงตุลาคม หลังเสร็จสิ้นภารกิจการเลี้ยงดูลูกในโพรง พวกมันจะมารวมตัวกันชั่วระยะเวลาหนึ่ง
กว่า 20 ปีแล้ว ที่พิทยาขึ้นมาที่นี่ทุกๆ ปี ปีนี้เราตามพิทยามา
พื้นที่มีสัญญาณโทรศัพท์ เราติดต่อประสานงานขอความช่วยเหลือจากทางหัวหน้าอุทยาน พวกเขาติดต่อเฮลิคอปเตอร์มารับพิทยาส่งโรงพยาบาลอย่างปลอดภัย
“มีอะไรจะสั่งเสียไหม” ผมถามพิทยาอย่างขำๆ เมื่อรู้ว่าอีกไม่กี่นาที ฮ.จะมารับ
“ไม่มีใครผิดนะ กระทิงยิ่งไม่ผิด ที่นี่เป็นที่ของมัน เราเข้ามาใกล้มันเกิน”
ผมนั่งบนลานหิน ถอนหายใจโล่งอก มองตามเฮลิคอปเตอร์บินเหนือหุบเขา ซึ่งมีสายหมอกลอยระเรี่ย ไม่กี่นาทีพิทยาจะถึงมือหมอ
สำหรับผม หากเทียบทักษะของคนทำงานในป่ากันแล้ว พิทยาที่มีความคล่องตัวสูงควรจะเป็นคนสุดท้ายที่จะพบกับอุบัติเหตุจากสัตว์ป่า
นี่อาจเป็นความตั้งใจของกระทิง
มันเลือกที่จะ “ส่งสาร” ผ่านเขา
ความเชื่อว่า ในป่าไม่มีสัตว์ร้ายอันตรายไม่ได้หายไปไหน เช่นเดียวกับความเชื่อว่า ป่าเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ร้าย ก็ยังคงอยู่
ในป่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ โดยเฉพาะอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นจากเหล่า “สัตว์ป่วย”
สัตว์ป่า พวกมันกำลังบอกเล่า กำลังส่งสาร บอกถึงปัญหาที่พวกมันกำลังเผชิญ
บอกด้วยวิธีการของพวกมัน
หลายคนฟังอย่างได้ยิน และพยายามบอกต่อ
บอกด้วยวิธีเอาชีวิตเป็น “เดิมพัน”…