จากรุกเป็นรับ รับเป็นรุก (85)

เสถียร จันทิมาธร

กิมลุ้นฮวบอ้วงเป็นคนระดับ “เจ้าสำนัก” ทันใดห้วงสมองบังเกิดปฏิภาณวูบนึกได้วิธีการหนึ่ง ยื่นเท้าซ้ายช้อนหินใหญ่หนัก 20 กว่าชั่งขึ้นมาก้อนหนึ่ง จากนั้น กวาดเท้าซ้ายออก ปรากฏหินใหญ่อีกก้อนลอยลิ่วขึ้น

ขยับเคลื่อนกาย 2 เท้าติดต่อกัน

หินใหญ่ปะทะกัน บังเกิดเสียงโครมคราม เลื่อนลั่น สะเก็ดไฟ เศษหิน ปลิวกระจายว่อน ค่ายกลดงหินก็ถูกทำลาย

อึ้งย้งและพวกสีหน้าแปรเปลี่ยน ถลันหลบหลีกก้อนหินเป็นพัลวัน

ยามนี้หากกิมลุ้นฮวบอ้วงคิดออกจากค่ายกลนับว่าง่ายดายดุจพลิกฝ่ามือ แต่ยังช่วงชิงพลิกสถานะจากรับเป็นรุก

ยื่นมือออกหมายคร่ากุมอึ้งย้ง

นาทีเดียวกันนั้นเอี้ยก่วยจี้สกัดไม้เท้าใส่กลางหลัง กิมลุ้นฮวบอ้วงควงจักรเหล็กปัดป่าย ขณะที่ฝ่ามือซ้ายแตะสัมผัสหัวไหล่อึ้งย้ง หากแม้นอึ้งย้งถลันถอยไปด้านหลัง ความจริงสามารถหลบรอดได้ แต่ข้างหูได้ยินเสียลมเร่งร้อน กลางอากาศปรากฏหินใหญ่ก้อนหนึ่งถล่มเข้าด้านหลัง

ยามรีบร้อนคับขันได้แต่ใช้วิชาคว้าจับเกี่ยวใส่ข้อมือซ้ายกิมลุ้นฮวบอ้วง

กิมลุ้นฮวบอ้วงร้องคำ “ประเสริฐ” ปล่อยให้เกาะเกี่ยวข้อมือไว้ รอจนนางคิดสลัดออกนอกตามสภาวะพลันใช้กำลังฉุดลากนางเข้ามายังอ้อมอก

นับได้ว่าเป็นวินาทีตาย นับได้ว่าเป็นวินาทีเต็ม

หากเป็นในยามปกติอึ้งย้งย่อมสามารถโคจรพลังสลัดหลุด แต่ตอนนี้พลังลมปราณไม่เพียงพอต้องร้องโอยออกมา

เสียหลักล้มลง

สร้างความตื่นตระหนกแก่เอี้ยก่วยยิ่ง ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยส่วนตัวโถมไปยังเบื้องหน้ากอดขากิมลุ้นฮวบอ้วงไว้

ทั้ง 2 ล้มฟาดโดยพร้อมเพรียง

กิมลุ้นฮวบอ้วงจะอย่างไรก็มีพลังฝีมือสูงล้ำกว่าเอี้ยก่วย คนยังไม่ตกถึงพื้นก็สะบัดฝ่ามือขวากระแทกใส่ทรวงอกด้านขวาเอี้ยก่วย

เอี้ยก่วยรีบยกแขนซ้ายขึ้นปัดป้อง

เสียงฉาดคราหนึ่ง ฝ่ามือข้อแขนปะทะกัน เอี้ยก่วยรู้สึกเลือดลมที่ทรวงอกพลุ่งพล่าน ปั่นป่วน ร่างปลิวลิ่วลอยไปเหมือนกับหญ้าฟางมัดหนึ่ง

กลางอากาศปรากฏหินใหญ่ก้อนสุดท้ายหล่นลงมากระแทกใส่กลางหลังกิมลุ้นฮวบอ้วง

ทั้งๆ ที่ฝ่ายของเอี้ยก่วยมีมากกว่า ทั้งๆ ที่ฝ่ายของกิมลุ้นฮวบอ้วงมีน้อยกว่า แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นมีความเด่นชัด

เด่นชัดว่าในเบื้องต้นการรุกของเอี้ยก่วยมีพลัง

ขณะเดียวกัน ภายในเวลาอันรวดเร็ว การตั้งรับของกิมลุ้นฮวบอ้วงก็สามารถพลิกสถานการณ์และดำเนินการรุกอย่างต่อเนื่อง

เหมือนกับกิมลุ้นฮวบอ้วงจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ

แต่พลันที่หินก้อนสุดท้ายกระแทกโครมเข้ากลางหลังกิมลุ้นฮวบอ้วง สถานการณ์ก็เริ่มแปรเปลี่ยนอีกครั้ง

แรงกระแทกครั้งนี้หนักหน่วงยิ่ง

ต่อให้กิมลุ้นฮวบอ้วงมีพลังลมปราณกล้าแข็งกว่านี้ก็มิอาจต้านรับได้ มาตรแม้นบังคับหินใหญ่กระดอนออกไป แต่ก็ต้องส่ายร่างโงนเงนอยู่หลายครา

ในที่สุดก็ล้มฟุบลง

พริบตานั้นก้อนหินถล่ม ค่ายกลทลาย ปรากฏว่าทั้งกิมลุ้นฮวบอ้วง อึ้งย้ง และเอี้ยก่วยล้วนได้รับบาดเจ็บ

ล้มลงโดยถ้วนหน้า

สถานการณ์เช่นนี้ยากอย่างยิ่งที่จะสามารถชี้ขาดว่าฝ่ายใดจะได้ชัยชนะ ฝ่ายใดจะเพลี่ยงพล้ำ ล้มเหลวพังครืน

แต่ทุกอย่างก็ดำเนินไปในแบบ “กำลังภายใน”

เป็นกำลังภายในในแบบของ “กิมย้ง” เป็นกำลังภายในในแบบของ “โกวเล้ง” ที่ยากอย่างยิ่งจะคาดคำนวณสถานการณ์ได้

คาดหมายได้ คาดหมายมิได้ แต่ย่อมมีหนทางเสมอ

หนทางจะเป็นอย่างไรอึ้งย้งก็อยากรู้ หนทางจะเป็นอย่างไรเอี้ยก่วยก็อยากรู้ แม้กระทั่งกิมลุ้นฮวบอ้วงก็อยากรู้เช่นกัน