สถานีคิดเลขที่ 12 โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร / จากรุกในถอย เป็นถอยกรูด?

สถานีคิดเลขที่ 12 / สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

————————–

จากรุกในถอย

เป็นถอยกรูด?

————————

ว่ากันว่า ความยืดหยุ่น

ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แตกต่างจาก ผู้นำทหารอื่นที่ก้าวสู่การเมือง

กรณีใดที่รู้สึกว่าฝืนแล้วไม่เป็นผลดี ก็พร้อมถอย

ถึงจะเสียมาดชายชาติทหารไปบ้าง

แต่เมื่อประเมินว่าถอยแล้วมีผลดีก็ทำทันที

อย่างกรณีเรือดำน้ำ จะดันด้วยเสียงข้างมาก ให้ผ่านสภาก็น่าทำได้

แต่การถอยไปอีก 1 ปี โดยยังคงดำรงโครงการจัดซื้อ เรือดำน้ำไว้ที่ 3 ลำ ก็รอได้

เช่นเดียวกับ รัฐธรรมนูญ จากเดิมยืนกระต่ายขาเดียวไม่แก้

แต่เมื่อมีแรงกดดันทั้งในและนอกสภาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็ยินยอม

กระนั้นก็ซ่อนกลเกมเอาไว้หลายปม เพื่อยังคงความได้เปรียบต่อไป

เป็นไปตาม ยุทธวิธี ใน ถอย มี รุก

ที่สามารถพลิกแพลงหาประโยชน์จากสถานการณ์มาได้ตลอด

จึงถูลู่ถูกัง อยู่ในอำนาจมากกว่าผู้นำคณะรัฐประหารอื่นพอสมควร

แต่กระนั้น ทุกยุทธวิธีก็มี”เพดาน”หรือ “ขีดจำกัด”ของมัน

โดยเฉพาะ ในภาวะ “ขาลง”ทางการเมือง

ความคาดหวังจะใช้ความสามารถพลิกแพลง หาประโยชน์จากการ”ถอย”ด้วยการ “รุก”ตลอดย่อมเป็นไปไม่ได้

แถม ภาวะขาลง ก็ยังโหมกระหน่ำให้อยู่ในภาวะ “ถอยกรูด” ได้อย่างหลีกเลี่ยงยาก

อย่างกรณี นายปรีดา ดาวฉาย “ถอย”จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลังอย่างฉับพลัน

ทำเอา พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในภาวะถอยกรูดไปด้วย

แม้จะมีความพยายาม “รุกในถอย” ด้วยการบอกว่าถึงจะสูญเสียตัวบุคคลไป แต่ก็ยังมี”ระบบ”ที่จะประคองงานให้เดินต่อไปได้

แถม ตนเองคือพล.อ.ประยุทธ์ เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ที่จะขับเคลื่อนงานต่อไปได้

แต่ใครฟังแล้ว จะ “เชื่อ” บ้าง

ตรงกันข้าม กลับมองไปในทาง”ร้าย”มากกว่าปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น

คือแม้พยายามบอกว่าการถอยของนายปรีดี เป็นเพียงปัญหาสุขภาพ

แต่ใครฟังบ้าง

ชาวบ้านเขามองไปที่การปริร้าวจากการบริหารอำนาจ ของผู้นำอย่างพล.อ.ประยุทธ์ กับฝ่ายการเมือง ในพรรคพลังประชารัฐ ที่นับวันจะขยายใหญ่ขึ้น มากกว่า

แม้จะมีพี่ใหญ่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เข้าไปคุม

แต่ดูแล้ว ไม่ได้ทำให้ดีขึ้นสักเท่าไหร่

ตรงกันข้าม ฝ่ายการเมือง กลับซึมลึกจนทำให้ แนวคิดของพล.อ.ประยุทธ์ ที่จะนำทีมงานคนนอกเข้ามาดูแลงานเศรษฐกิจ ซึ่งอยู่ในภาวะ”วิกฤต” ถูกทำลายลงไปเรื่อยๆ

และพังทลายลง อย่างฉับพลัน เหนือความคาดหมาย เมื่อนายปรีดี ชิงลาออกหลังจากรับหน้าที่ไม่ถึงเดือน

ตอนนี้ กำลังดูว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะ ปะผุ อย่างไร

จะยับยังภาวะ ถอยกรูดๆ ทางการเมือง แล้วกลับ มา”รุก” ได้อย่างไร

มองแล้วก็เหนื่อย เพราะสถานการณ์ทางการเมือง ทั้งในและนอกสภา ก็บีบรัด กดดันเข้ามาเรื่อยๆ

ส่วนข่าวร้ายก็โหมกระหน่ำเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

โดยเฉพาะ ความหวั่นวิตก การพบผู้ติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ภายในประเทศ หลังจากว่างเว้นมาร้อยวันจะกลายเป็นระบาดรอบสองหรือไม่

ถ้าคุมไม่อยู่ กลายเป็นการระบาดรอบสอง ก็จะถือเป็นความโชคร้ายของพล.อ.ประยุทธ์ อย่างยิ่ง

เพราะสิ่งเดียวที่ทำให้ รัฐบาลและพล.อ.ประยุทธ์ องอาจอยู่ได้ตอนนี้ นั่นก็คือ ความสามารถควบคุมการระบาดไวรัส โควิด-19 ได้

แต่ถ้าหาก จุดเด่นนี้ ถูกทำลายลงดเวยการระบาดรอบที่ 2

จุดขายก็แทบไม่เหลืออะไร ตรงกันข้าม จุดอ่อนก็มีทีท่าจะเพิ่มและขยายตัวมากขึ้น

จากที่ “ถอย” โดยมีการ “รุก”คืนบ้าง

อาจกลายเป็นถอยกรูดๆขาเดียว!


กว่า 12 ปี ของการจัดงาน Healthcare เครือมติชนร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ได้ส่งต่อความรู้และให้บริการสุขภาพแก่คนไทยในทุกมิติ ทั้งการป้องกัน ดูแล และรักษา โดยเฉพาะการบริการตรวจสุขภาพฟรีจากสถานพยาบาลชั้นนำ เวิร์กชอป ให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพ รวมถึงการยกระดับเวทีเสวนาให้เป็น “Health Forum” เปิดเวทีให้แพทย์ และ Speaker ระดับประเทศ มาร่วมพูดคุยถึงแนวทางการป้องกัน การรักษา และนำเสนอนวัตกรรมทางการแพทย์ รวมถึงเรื่องราวสุขภาพในแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่จะมาให้อัปเดตตลอด 4 วันของการจัดงาน เดินทางสะดวกโดยทางด่วนและ MRT ลงสถานีสามย่าน ทางออกที่ 2
ลงทะเบียนเข้างานฟรี มีต้นไม้แจกด้วยนะ (จำนวนจำกัด)