เปิดใจ “สุทิน คลังแสง” กับเรื่องที่ “เกินวิสัย” เพื่อไทย ในวัน “ประชาชนปลดแอก” ลงถนน

ในวันที่ม็อบนักเรียน-นิสิต-นักศึกษา รุกคืบกลายเป็นพลังทางการเมืองสำคัญ ผ่านการชุมนุมเคลื่อนไหวบนท้องถนน-พื้นที่สาธารณะอื่นๆ

มิใช่เพียงฟากรัฐบาล เจ้าหน้าที่รัฐ และกลุ่มการเมืองอนุรักษนิยม ที่จะแสดงจุดยืน-ท่าทีคัดค้านต่อต้านพลังใหม่เหล่านี้

หากแต่ในฝั่งนักการเมืองฝ่ายค้านเองก็ถูกตั้งคำถามว่าได้แสดงบทบาท “ก้าวหน้า” ทัดเทียม “มวลชนวัยรุ่น” หรือยัง?

โดยเฉพาะพรรคการเมืองที่มีจำนวน ส.ส.มากที่สุด อย่าง “พรรคเพื่อไทย”

ก่อนวันที่ 16 สิงหาคม 2563 ทีมข่าวการเมืองมติชนทีวี มีโอกาสสนทนากับ “สุทิน คลังแสง” ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ประธานวิปฝ่ายค้าน และดาวสภารุ่นเก๋า ถึงแนวโน้มความเปลี่ยนแปลงทางสังคมการเมืองที่กำลังก่อตัวขึ้น และหลักการของพรรคการเมืองต้นสังกัด

: อะไรคือหลักการของพรรคเพื่อไทยในปัจจุบัน?

หลักใหญ่จิตวิญญาณของเพื่อไทย มี 3 หลักใหญ่ชัดเจน

หนึ่ง พรรคเพื่อไทยยืนหยัดในฝ่ายประชาธิปไตย ให้ดูว่าจิตวิญญาณนั้นเปลี่ยนไหม? เป็นพรรคที่เดินตามแนวทางประชาธิปไตย วันนี้ทุกคนก็รู้ว่าฝ่ายประชาธิปไตยคือใคร? ก็คือพรรคเพื่อไทยมาก่อน อาจจะตามด้วยพรรคอื่นๆ ซึ่งจิตวิญญาณนี้ไม่เปลี่ยนและไม่เบลอร์ด้วย

สอง จิตวิญญาณการทำเพื่อประชาชน คนยากจน วันนี้เราพูดถึงความเหลื่อมล้ำ วันนี้นโยบายทุกนโยบาย เรายังปกป้องคนจน เรายังทำเพื่อคนจน ยังไม่มีอะไรมาอธิบายได้ว่าเราเปลี่ยนจุดยืนในการทำเพื่อคนจนแล้ว และกำลังศิโรราบให้กับคนรวยหรือทำให้กับคนรวย

สาม พรรคเพื่อไทยเป็น “นักบริหาร” ไม่ใช่ “นักการเมือง” อย่างเดียว ซึ่งเราเน้นเป็นนักบริหารเศรษฐกิจ พรรคการเมืองอื่นอาจจะเก่งและเซียนทางการเมือง-สำนวนโวหาร แต่พรรคเพื่อไทยเป็นนักบริหารจัดการด้วย ตั้งแต่ท่านทักษิณมา เรายังมีอัตลักษณ์เป็นนักบริหาร วันนี้ก็เหมือนกัน เรายังเป็นนักบริหารอยู่

ส่วนบางช็อตบางลีลาอาจจะไม่ใช่บ้าง ซึ่งเป็นเพียงรายละเอียด เช่น ท่าทีต่อม็อบ ต่อผู้ชุมนุม เรายืนยันชัดเจนมาโดยตลอดทั้งสนับสนุน ประคับประคอง แต่มีบางครั้งบางคราวที่ผิดพลาดด้านคำพูดนิดเดียว ในการสื่อสารที่ผิดพลาดนิดเดียว คนก็ไปตีความว่าเราเปลี่ยนท่าที ซึ่งไม่ใช่ จึงต้องดูไปตลอด ดูความเป็นมา และให้ดูหลายๆ ช็อต

จะไปดูช็อตเดียวแล้วสรุปนั้นไม่ใช่

: พรรคเพื่อไทยมีท่าทีอย่างไรต่อเพดานข้อเรียกร้องของคนรุ่นใหม่ที่ขยับสูงขึ้น?

จริงๆ เราห่วงมากกว่า คุณหญิงสุดารัตน์ก็ห่วง แต่บางครั้งคำพูดในบางสถานการณ์ อาจจะสื่อได้ไม่ตรงทั้งหมด แต่ห่วงสถานการณ์ในวันนี้ ห่วงน้องๆ ห่วงเด็ก ซึ่งมีการนำเสนอการแสดงออกที่ตรงไปตรงมา แล้วเป็นช่วงการเปลี่ยนผ่านระหว่างรุ่นกับรุ่น อาจจะมีคนไม่เข้าใจเขา

วันนี้ห่วงคน 2 รุ่น คือคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นช่องว่าง การปฏิบัติและท่าทีในการสื่อสารต่อกันและกัน ถ้าไม่เข้าใจกัน เรากลัวว่าเด็กจะถูกทำร้าย และกลัวว่าผู้ใหญ่จะคิดเอาแต่ว่าตัวเองถูกตลอด

เพราะฉะนั้น จะต้องปรับ ซึ่งเราก็พยายามจะสื่อสาร เราไม่ห้าม แต่ว่าให้รับรู้ว่าเราเป็นห่วงถึงการนำเสนอและการสื่อสาร ให้รอบคอบ

: พรรคเพื่อไทยจะผลักดันข้อเรียกร้องของคนรุ่นใหม่เข้าสู่สภาหรือไม่? อย่างไร?

หลายเรื่องเราผลักดันทันที อย่างวันนี้ทั้งวันผมยังไม่ได้ทานข้าวเพราะเรื่องเหล่านี้ วันนี้พูดเรื่องการผลักดันเรื่องรัฐธรรมนูญเข้าสู่สภาโดยเร็ว ถ้ารัฐธรรมนูญเข้าสู่สภาโดยเร็ว ผมเชื่อว่าข้อเรียกร้องของน้องๆ ก็จะผ่านไปแล้วเปลาะหนึ่ง

เรื่องการถูกคุกคามที่เขาเรียกร้อง วันนี้เราผลักดันให้คณะกรรมาธิการการปกครองตั้งอนุกรรมาธิการขึ้นมาชุดหนึ่ง ซึ่งได้ตั้งแล้วในวันนี้ โดยเป็นอนุกรรมาธิการคุ้มครองการถูกทำร้ายและคุกคามเด็กผู้ชุมนุม ซึ่งเรื่องการคุกคามนั้นก็จัดการให้

ดังนั้น เหลืออยู่ข้อเดียวคือยุบสภา ถามว่าน้องๆ เขาเรียกร้องให้ยุบสภา ก็ไม่ขัดข้อง แม้ว่า ส.ส.จะได้รับผลกระทบโดยตรง เพราะเราจะตกงาน แต่เราก็ไม่ได้กังวลเรื่องนี้

แต่ผมกำลังจะบอกว่า ถ้ายุบสภาไปภายใต้กติกาเดิม รัฐธรรมนูญแบบนี้ น้องๆ จะไม่ได้อะไรเลย ไม่มีประโยชน์ เพราะยุบไปคนเก่าก็กลับมา ชุดความคิดเก่ากลับมา

เพราะฉะนั้น จึงจะต้องทำความเข้าใจกับน้องๆ ว่าข้อยุบสภาไม่ขัดข้อง แต่ควรยุบหลังจากแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งจะแก้รัฐธรรมนูญเมื่อไหร่ ก็กำลังจะยื่นในวันที่ 17 สิงหาคม

ส่วนข้อเรียกร้องอื่นๆ ที่เกินวิสัยเราจะทำได้ อันนี้ให้สังคมได้เรียนรู้ก่อน และสังคมเรียนรู้ร่วมกัน ไม่ใช่เราจะทำได้ บางอย่างต้องเป็นสังคมทำร่วมกัน ซึ่งต้องให้สังคมเขาเรียนรู้ก่อนนิดหนึ่ง

เราไม่ปฏิเสธและเราก็ไม่ตำหนิ เพียงแต่ว่าบางเรื่องต้องเป็นพัฒนาการทางสังคม


กว่า 12 ปี ของการจัดงาน Healthcare เครือมติชนร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ได้ส่งต่อความรู้และให้บริการสุขภาพแก่คนไทยในทุกมิติ ทั้งการป้องกัน ดูแล และรักษา โดยเฉพาะการบริการตรวจสุขภาพฟรีจากสถานพยาบาลชั้นนำ เวิร์กชอป ให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพ รวมถึงการยกระดับเวทีเสวนาให้เป็น “Health Forum” เปิดเวทีให้แพทย์ และ Speaker ระดับประเทศ มาร่วมพูดคุยถึงแนวทางการป้องกัน การรักษา และนำเสนอนวัตกรรมทางการแพทย์ รวมถึงเรื่องราวสุขภาพในแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่จะมาให้อัปเดตตลอด 4 วันของการจัดงาน เดินทางสะดวกโดยทางด่วนและ MRT ลงสถานีสามย่าน ทางออกที่ 2
ลงทะเบียนเข้างานฟรี มีต้นไม้แจกด้วยนะ (จำนวนจำกัด)