จอร์จ เพลล์ พระคาร์ดินัลแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกชาวออสเตรเลีย วัย 78 ปี ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำแล้วเมื่อวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา หลังจากศาลสูงของออสเตรเลีย มีคำตัดสินยกฟ้องในคดีคุกคามทางเพศเด็ก นับเป็นการสิ้นสุดคดีอื้อฉาวที่เกิดขึ้นกับบุคคลระดับสูงที่สุดในคริสตจักรโรมันคาทอลิกในเวลานี้ลง

ไม่กี่ชั่วโมงหลังการตัดสินคดี สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทวีตข้อความถึงคดีดังกล่าวว่า เป็นคดีที่สะท้อนความ “ไม่ยุติธรรม” ที่เกิดขึ้นกับ “คนบริสุทธิ์”

ข้อความในทวีตที่แม้ไม่ได้เอ่ยชื่อเพลล์ แต่ก็เป็นข้อความที่แสดงความสนับสนุนเพลล์ที่ชัดเจน

“ในช่วงเวลาของเทศกาลมหาพรต เราเคยได้เห็นการลงโทษที่พระเยซูคริสต์เคยเผชิญ ได้เห็นว่าพระองค์ทรงถูกตัดสินอย่างโหดร้ายป่าเถื่อนอย่างไร แม้พระองค์จะบริสุทธิ์ก็ตาม”

 

จอร์จ เพลล์ เริ่มต้นบวชเข้าสู่คริสตจักรเมื่อหลายสิบปีก่อน สร้างชื่อในฐานะนักบวชที่มุ่งมั่นในแนวทางอนุรักษนิยม มีแนวคิดคัดค้านการแต่งงานของคนเพศเดียวกัน รวมไปถึงคัดค้านการทำแท้งและการคุมกำเนิด

เกิดในเมืองบอลลารัต ใกล้เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เมื่อปี 1941 ลูกชายของชาวคริสต์นิกายแองกลิกัน และแม่ผู้นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ชาวไอร์แลนด์

เพลล์จบมัธยมจากโลเรโตคอนแวนต์ ก่อนศึกษาต่อที่เซนต์แพทริกส์คอลเลจ ที่ซึ่งเพลล์หลงใหลในการเล่น “ออสเตรเลียนฟุตบอล”

เพลล์มีชื่อเสียงในฐานะนักกีฬาออสเตรเลียนฟุตบอลจนได้รับการเซ็นสัญญากับ “สโมสรริชมอนด์เอฟซี” แต่ไม่นานหลังจากนั้นเพลล์ก็ตัดสินใจเข้าสู่เส้นทางสายคริสตจักรโรมันคาทอลิก

 

เพลล์เริ่มศึกษาเพื่อเป็นนักบวชคาทอลิกในทศวรรษที่ 60 ได้เดินทางไปศึกษาถึงกรุงโรม ประเทศอิตาลี และบวชอย่างเป็นทางการที่โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ ในกรุงโรมในปี 1966 ก่อนเรียนต่อด้านประวัติศาสตร์คริสตจักร ที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด

เพลล์กลับสู่ประเทศออสเตรเลีย ได้ดำรงตำแหน่งอัครมุขนายกแห่งเมืองเมลเบิร์น สามารถก้าวสู่การเป็นมุขนายกแห่งนครซิดนีย์ และในที่สุดสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์นปอลที่ 2 ก็ได้เสนอชื่อเพลล์ขึ้นสู่ “คอเลจออฟคาร์ดินัล” องค์คณะคาร์ดินัลที่มีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกสมเด็จพระสันตะปาปา แห่งนครรัฐวาติกันเมื่อปี 2003

เพลล์ผู้ที่สามารถก้าวไปถึงตำแหน่งคาร์ดินัลแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก นั่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมาธิการคาร์ดินัล ที่ปรึกษาของสมเด็จพระสันตะปาปา และคาร์ดินัลที่ดูแลด้านการเงินของนครรัฐวาติกัน ต้องสูญเสียตำแหน่งหน้าที่การงานเหล่านี้ จากการถูกกล่าวหาว่า ช่วยปกปิดพฤติกรรมคุกคามทางเพศของนักบวชแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกหลายราย ก่อนที่เพลล์เองจะตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเคยก่อเหตุเสียเองในเวลาต่อมา

เพลล์ถูกคณะลูกขุนตัดสินว่ามีความผิดในเดือนธันวาคมปี 2018 ก่อนองค์คณะผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์จะตัดสินด้วยคะแนนเสียง 2 ต่อ 1 ให้ยืนโทษจำคุกของเพลล์ต่อไป

อย่างไรก็ตาม ศาลสูงออสเตรเลียซึ่งผู้พิพากษา 7 คนมีคำตัดสินอย่างเป็นเอกฉันท์ระบุว่า ไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะพิสูจน์ความผิดดังกล่าวได้ ก่อนที่เพลล์จะได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระ

คำตัดสินของศาลสูงระบุว่า “มีความเป็นไปได้อย่างมีนัยสำคัญที่ผู้บริสุทธิ์จะถูกตัดสินให้มีความผิดเพราะหลักฐานไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความผิดตามมาตรฐานของการพิสูจน์ข้อเท็จจริง”

ศาลสูงระบุด้วยว่า คำตัดสินของคณะลูกขุนและศาลอุทธรณ์ “ล้มเหลวที่จะตอบคำถามที่ว่ายังมีความเป็นไปได้หรือไม่ที่การกระทำผิดไม่ได้เคยเกิดขึ้น”

 

ทั้งนี้ แม้เพลล์จะได้รับการปล่อยตัวจากการคุมขังเป็นเวลา 1 ปี แต่เพลล์อาจจะต้องเผชิญกับการต่อสู้คดีต่อไปอีกหลังจากญาติของผู้ที่อ้างว่าตกเป็นเหยื่อของเพลล์รายหนึ่งเตรียมเรียกร้องค่าเสียหายจากเพลล์ต่อไป

ขณะที่เพลล์แม้จะยังคงสถานะการเป็นนักบวชแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกต่อไป แต่อนาคตเกี่ยวกับบทบาทในศาสนจักรของเพลล์นั้นยังคงไม่ชัดเจน

รวมไปถึงคำถามที่ว่านครรัฐวาติกันเองจะมีการสืบสวนข้อกล่าวหาของเพลล์ด้วยหรือไม่อย่างไร