‘พรีต บารารา’ มือปราบแห่งวอลสตรีตผู้ถูกทรัมป์ไล่ออก

พรีต บารารา อัยการผู้ที่เป็นที่รู้จักในหมู่ชาวอเมริกันมากที่สุด สร้างชื่อเสียงในวงการกฎหมายสหรัฐด้วยการดำเนินคดีตรงไปตรงมา จัดการกับการ “ทุจริตงบประมาณสาธารณะ” และ “คดีอาชญากรรมวอลสตรีต” มากมายหลายคดี

อัยการผู้ดำรงตำแหน่งต่อมาจากในยุค บารัค โอบามา อดีตประธานาธิบดี ปฏิเสธคำขอให้ลาออกของ “ทำเนียบขาว” ส่งผลให้รัฐบาลภายใต้การนำของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดี ตัดสินใจ “ไล่” บาราราออกจากตำแหน่ง

“ผมไม่ได้ลาออก ไม่นานต่อมาผมก็ถูกไล่ออก” อัยการวัย 48 ปี ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา

บารารา อัยการประจำเขตตอนใต้ของนครนิวยอร์ก ซึ่งรวมไปถึงแมนฮัตตัน และบรองซ์ ได้รับการแต่งตั้งโดยประธานาธิบดีโอบามา เมื่อปี 2552 ผ่านการดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ของรัฐ หัวหน้าแก๊งอาชญากรรม นักจารกรรมข้อมูลคอมพิวเตอร์ รวมถึงผู้ก่อการร้าย

บารารา รับตำแหน่งอัยการ ในยุค “วิกฤตซับไพรม์” ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นที่รู้จักในนาม “มือปราบแห่งวอลสตรีต” จากผลงานปราบปรามอาชญากรรมทางการเงินในเขตเมืองอันร่ำรวยแห่งนี้

ในช่วงกว่า 7 ปีที่ดำรงตำแหน่ง “บารารา” กลายเป็น “หายนะ” สำหรับสมาชิกสภาผู้แทนฯ ทั้งสองพรรคการเมือง เช่น การดำเนินคดีในข้อหาทุจริตกับ “โฆษกสภานครนิวยอร์กจากพรรคเดโมแครต” และ “อดีตผู้นำเสียงข้างมากพรรครีพับลิกันในสภาสูงของนครนิวยอร์ก” ด้วย

“บารารา” เกิดในรัฐปัญจาบของอินเดีย เดินทางเข้ามาอาศัยในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่อายุ 2 ขวบ เติบโตขึ้นในรัฐนิวเจอร์ซีย์ จบการศึกษาด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยชั้นนำอย่าง “ฮาร์วาร์ด” และ “โคลอมเบียลอว์สคูล”

ก่อนที่ “โอบามา” จะแต่งตั้ง “บารารา” เป็นอัยการ “บารารา” ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าคณะทนายความให้กับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนครนิวยอร์กจากพรรคเดโมแครตอย่าง “ชัค ชูเมอร์” ซึ่งเวลานี้มีตำแหน่งเป็นหัวหน้าคณะสมาชิกวุฒิสภาของพรรคเดโมแครต

การเปลี่ยนแปลงตัวอัยการประจำรัฐโดยประธานาธิบดีคนใหม่นั้นไม่ใช่เรื่องแปลกในวงการการเมืองอเมริกัน แต่การเปลี่ยนแปลงอัยการเป็นจำนวนมากโดยทันทีทันใดนั้น สร้างความแปลกใจให้กับวงการการเมืองไม่น้อย

การปลดบาราราออกจากตำแหน่งครั้งนี้เป็นเรื่องน่าแปลกใจ เนื่องจากบาราราเคยได้พบกับทรัมป์หลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาเพียงไม่นาน และบาราราก็ระบุว่าตนตกลงที่จะอยู่ในตำแหน่งต่อไปตามคำร้องขอของทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ในเวลานั้น

การถูกขับออกจากตำแหน่งของบารารา มีขึ้นในเวลาเดียวกันกับที่สำนักงานอัยการเขตตอนใต้ของนิวยอร์ก กำลังเตรียมที่จะไต่สวนคดีรับสินบนและฮั้วประมูลของอดีตสมาชิกทีมบริหารของ “แอนดรูว์ คูโอโม” ผู้ว่าการนครนิวยอร์กจากพรรคเดโมแครต รวมไปถึงคดีระดมทุนในการหาเสียงของนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กจากพรรคเดียวกัน อย่าง “บิล เดอ บลาซิโอ” และผู้ช่วย

แม้บาราราจะพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว แต่บารารา ก็ทิ้งมรดกอันน่าชื่นชมเอาไว้ เช่น การดำเนินคดีกับเจ้าพ่อค้าโคเคนของทวีปอเมริกาใต้ นักค้าอาวุธ โจรปล้นวัตถุโบราณ รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจและนายธนาคารผู้ทุจริต

“ไม่ว่าคนจะเป็นนักค้ายาข้างถนน สมาชิกแก๊งค้ายา หรือลูกชายอดีตประธานาธิบดีต่างชาติ ค้ายาก็คือค้ายา” บาราราระบุหลังลูกชายอดีตประธานาธิบดีฮอนดูรัส ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานลักลอบนำเข้าโคเคนมายังสหรัฐ

บาราราได้รับเสียงชื่นชมจากการทลายแก๊งบนถนนเขตบรองซ์ ทลายกลุ่มมาเฟียในนิวยอร์ก ค้นพบไวโอลิน “สตราดิวาเรียส” ที่ถูกขโมยไป

รวมถึงการส่งมอบฟอสซิลกระดูกไดโนเสาร์ที่ถูกขโมย คืนให้กับประเทศมองโกเลีย

ในเดือนมีนาคม 2559 “บารารา” เป็นผู้ดูแลคดีการจับกุม “เรซา ซาร์รับ” ชาวอิหร่านเชื้อสายตุรกีผู้ทรงอำนาจและมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตอื้อฉาวที่สั่นสะเทือนรัฐบาลของ นายเรเจพ เทยิพ แอร์โดอาน ประธานาธิบดีตุรกี ที่ในเวลานั้นเป็นนายกรัฐมนตรีตุรกีอยู่

การจับกุม “ซาร์รับ” สร้างชื่อเสียงให้กับ “บารารา” โดยเฉพาะในหมู่ชาวตุรกีที่แห่กดติดตามทวิตเตอร์ของ “บารารา” จำนวนหลายแสนคน พร้อมด้วยเสียงชื่นชมท่วมท้น

“เหล้าตุรกี, ชิชเคบาบ, โลกัม, พรมตุรกี แค่บอกมา” ผู้ติดตามชาวตุรกีผู้หนึ่งทวีตเสนอมอบของขวัญให้กับบารารามากมาย

“อืม ผมชอบเคบาบนะ แต่ผมไม่คิดว่าผมจะสามารถรับของกำนัลตอบแทนการทำงานตามหน้าที่ของผมได้” บาราราทวีตตอบ