บทความพิเศษ/นงนุช สิงหเดชะ/ยุคโซเชียลมีเดีย IO รัฐ หรือจะสู้ IO คน (พรรค) รุ่นใหม่!!

บทความพิเศษ/นงนุช สิงหเดชะ

ยุคโซเชียลมีเดีย

IO รัฐ หรือจะสู้ IO คน (พรรค) รุ่นใหม่!!

 

ดูจะเป็นความภาคภูมิใจสำหรับอดีตพรรคอนาคตใหม่ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเมื่อสัปดาห์ก่อน เมื่อนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่ออดีตพรรคอนาคตใหม่ เปิดโปงข้อมูลที่อ้างว่าเป็นปฏิบัติการข่าวสาร หรือ Information Operation (IO) ของฝ่ายรัฐที่เชื่อมโยงกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อสร้างความเกลียดชังและคุกคามฝ่ายที่เห็นต่าง ซึ่งฝ่ายที่ชื่นชอบพรรคอนาคตใหม่ก็เชียร์กันยกใหญ่ ยกให้เป็นดาวเด่นสภา

ผู้อภิปรายอ้างว่า การทำไอโอดังกล่าวโดยภาครัฐ จะมีพฤติกรรมปลุกปั่นสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชน มีการใช้บัญชีรายชื่อปลอม เพจปลอม หรือที่เรียกว่าอวตาร ออกปฏิบัติการคุกคามประชาชนที่วิจารณ์รัฐบาลด้วยการขุดประวัติบุคคลนั้นมาประจาน เหมือนพฤติกรรมล่าแม่มด

ใช้ถ้อยคำเกลียดชังด่าประชาชน ด่านักการเมือง นักสิทธิมนุษยชนและนักวิชาการฝ่ายตรงข้าม และ “เลือกเอาข้อมูลด้านเดียวมาอวยกองทัพ”

ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่รายนั้น บรรยายต่อไปว่า นอกจากนั้น ปฏิบัติการไอโอดังกล่าวยังทำภารกิจ เข้าไปกดโกรธ กดเศร้า และแสดงความเห็นคุกคามในเฟซบุ๊กหรือโซเชียลมีเดียใดก็ตามที่มีเนื้อหาเป็นลบต่อรัฐบาล

ขณะเดียวกันหากโซเชียลมีเดียใดมีเนื้อหาเป็นบวกต่อรัฐบาล กลุ่มปฏิบัติการไอโอจะเข้าไปกดไลก์ กดเลิฟ

 

หากฟังเผินๆ ผ่านๆ โดยไม่ดูว่าใครเป็นผู้อภิปราย พร้อมทั้งตัดคำว่าภาครัฐและคำว่า พล.อ.ประยุทธ์ออกไป อาจทำให้ผู้ฟังทางบ้านคิดว่ามีคนกำลังอภิปรายถึงพฤติกรรมของอดีตพรรคอนาคตใหม่ เพราะว่าสิ่งที่ ส.ส.คนดังกล่าวพูดมานั้น คล้ายกับที่แนวร่วมและสาวกของพรรคอนาคตใหม่ทำกับฝ่ายตรงข้ามเป๊ะ

เป็นที่ทราบกันว่าพรรคอนาคตใหม่มีความเก่งกาจด้านไอทีและโซเชียลมีเดียในการปลุกระดมมวลชนให้ชื่นชอบพรรคตน จนประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งเกินคาดหมาย

ว่ากันว่าทีมไอทีของที่นี่ “อย่างเทพ” ชนิดที่ว่าเจ้าหน้าที่ไอโอของภาครัฐเทียบไม่ติด

ในเรื่องการอวยนั้น หากความจำไม่สั้นก็คงจำกันได้ว่าทีมไอโอของอนาคตใหม่ก็เคยทำให้กับอดีตหัวหน้าพรรคของตน ทั้งการล้างจานเองบ้าง การได้รับความนิยมจากนิสิตสาวๆ จนกลายเป็น “พ่อฟ้า” ติดเทรนด์อันดับ 1 ทวิตเตอร์บ้างล่ะ แม้แต่เพจที่อวยอนาคตใหม่โดยตรงก็มีเหมือนกัน

ส่วนเรื่องการกดไลก์ กดเลิฟ หรือกดโกรธ กดเศร้า นั้น อนาคตใหม่จะกล้าปฏิเสธหรือว่าตัวเองไม่เคยทำ ไม่ว่าจะทำเองโดยตรงหรือใช้แนวร่วมทำก็เถอะ

ส่วนการอ้างว่าทีมไอโอของภาครัฐใช้บัญชีปลอมเล่นโซเชียลมีเดีย หรือที่เรียกว่า บัญชีอวตาร ไปถล่มฝ่ายตรงข้ามนั้น หากไปดูรายละเอียดจริงๆ ฝ่ายที่ทำแบบนี้มากและเข้มข้นคือฝ่ายที่เชียร์อดีตพรรคอนาคตใหม่มากกว่า

ส่วนเรื่องความหยาบคายนั้นรับรองว่าสาวกส้มติดอันดับแชมป์ และเชื้อความหยาบคายนั้นก็มาปรากฏในแฟลชม็อบของพวกนักศึกษาบางกลุ่มที่กำลังชุมนุมไล่รัฐบาลเพราะไม่พอใจการยุบพรรคอนาคตใหม่อยู่ในขณะนี้

ที่ผ่านมามีหลักฐานประจักษ์ชัดว่ามีการโจมตีดาราหรือคนดังคนใดก็ตามที่พวกเขาเห็นว่าสนับสนุนรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นสินจัย หงษ์ไทย หรือปั้นจั่น-ปรมะ อิ่มอโณทัย รวมไปถึงทาทา ยัง (ที่โพสต์ในประเด็นที่ช่อ-พรรณิการ์ วานิช อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ หมิ่นในหลวงรัชกาลที่ 9)

จะเห็นว่าบรรดาสาวกสีส้มก็เข้าไปไล่ล่าแม่มด ด่าทอ หยาบคาย ชวนให้บอยคอตผลงาน ซึ่งคำที่ฮิตในการด่าก็คือ “สลิ่ม” เช่น หากจะด่าสินจัย ก็มักจะใช้ประโยคว่า “โตไปไม่สินจัย” ความหมายคือโตไปไม่เป็นสลิ่ม และถ้าจะด่าคนอื่น ก็จะแค่เปลี่ยนคำเล็กน้อย เช่น จะด่าปั้นจั่นว่าเป็นสลิ่ม ก็จะปรับเป็น “โตไปไม่ปั้นจั่น”

พวกที่เข้าไปถล่มนี้เห็นชัดว่าใช้บัญชีผี บัญชีอวตาร และเตรียมประโยคสำเร็จรูปไว้พร้อมใช้งาน หากเข้าไปดูคอมเมนต์ของพวกอวตารเหล่านี้ที่ด่าฝ่ายตรงข้าม จะเห็นว่ามีประโยคซ้ำๆ หรือคล้ายกัน

 

ดังนั้น หากไม่หลอกตัวเอง ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ที่อภิปรายโจมตีการไอโอของภาครัฐดังกล่าว ก็คงรู้อยู่แก่ใจว่าฝ่ายตัวเองก็ทำแบบเดียวกันและได้ผลกว้างขวางกว่าด้วย

นี่ยังไม่นับการเผยแพร่แนวคิดของอดีตหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรคและโฆษกพรรคที่มีท่าทีต่อต้านสถาบัน ซึ่งบางคนในจำนวนนี้ถึงขนาดกล้าใส่ร้ายว่าเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแค่วาทกรรมและกดขี่คนจนไม่ให้สามารถขยับฐานะขึ้นมาจากชนชั้นล่าง

ส.ส.คนดังกล่าวโจมตีว่า ไอโอของภาครัฐใช้ข้อมูลด้านเดียวมาโจมตีฝ่ายตรงข้าม แต่ในขณะที่พูดเช่นนี้ คนของอดีตพรรคอนาคตใหม่กล้ารับประกันหรือไม่ว่า ที่ผ่านมาฝ่ายตัวเองเสนอข้อมูลรอบด้านและเป็นกลาง ปราศจากอคติ ไม่ใช่เสนอข้อมูลด้านเดียวเพื่อดึงมวลชนมาเป็นพวก หากสำรวจละเอียดก็จะพบว่าวิธีการของตัวเองในการแย่งชิงมวลชนก็ไม่ต่างจากภาครัฐ

หากอยากรู้ว่าอดีตพรรคอนาคตใหม่มีพฤติกรรมผุดผ่อง ไม่เคยมีส่วนร่วมในการสร้างความเกลียดชังใคร ไม่เคยล่าแม่มด และไม่เคยทำไอโอจริงหรือไม่ อาจดูจากการเปิดเผย (แฉ) ของนายชาญวิทย์ ใจสว่าง อดีตผู้สมัคร ส.ส.ชุมพร เขต 1 พรรคอนาคตใหม่ หรือ ดร.โจ ที่ลาออกจากพรรคนี้เพราะยอมรับระบบเผด็จการในพรรคไม่ได้

และระยะหลังมักจะออกมาวิจารณ์ในลักษณะ “ตอกหน้า-ถลกหนัง” อดีตพรรคอนาคตใหม่อยู่บ่อยๆ

 

ดร.โจได้ตอบคำถามผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่งที่ถามว่า วิจารณ์พรรคอนาคตใหม่แบบนี้ไม่โดนซอมบี้ถล่มหรือ

คำตอบนั้นมีว่า “เฟซบุ๊กที่ไม่มีตัวตน ถูกสร้างมาจากบริษัทดูแลเว็บไซต์ครับ เราตรวจสอบจนพบ มีการใช้ทีมเฝ้าหน้าจอที่วิจารณ์พรรค เขาสร้างไว้เป็นร้อยๆ เฟซบุ๊ก นับไม่ทัน แล้วจะถล่มพร้อมกัน ก๊อบภาษา แต่งคำต่างนิดหน่อย แล้วถล่มเรียงกันเลย เขาติดตามทุกคนที่วิจารณ์พรรค ส่วนที่ตั้งนั้นแยกไปอยู่อีกสถานที่หนึ่ง (ไม่เปิดเผยออกสื่อ) ทำงาน 07.00-24.00 น. เต็มกำลัง รอคิดภาษาสำนวนด่าคน เพื่อให้คนที่ไม่รู้เรื่องราวพลอยเกลียดชังไปด้วยคำเหล่านี้ เฟซบุ๊กเหล่านี้จะไปถล่มพร้อมกับเพื่อนการเมืองของผม ดังนั้น ฝ่ายไอทีของผมตรวจสอบเฟซบุ๊กผี แล้วสกัดไม่ให้เข้ามาด่าทออย่างไร้เหตุผล”

ฟังการแฉของ ดร.โจเรื่องซอมบี้สีส้มแล้ว หลายคนที่โดนซอมบี้พวกนี้เล่นงาน โดยเฉพาะบรรดาคนดัง คงเห็นด้วยว่าเป็นแบบนั้นจริง คือพวกนี้จะมีลักษณะเฝ้าติดตามทุกคนที่วิจารณ์พรรคสีส้ม เสร็จแล้วจะประดิษฐ์ถ้อยคำสำเร็จรูปนำไปโพสต์ด่าในลักษณะเข้าโจมตีเป็นกลุ่มพร้อมกัน เพื่อสร้างกระแสว่ามีคนต่อต้านดาราหรือคนดังคนนั้นมาก

ดังนั้น ฟังการอภิปรายของนายวิโรจน์ แล้วมาฟังการแฉของ ดร.โจ เกี่ยวกับอดีตพรรคอนาคตใหม่ ก็จะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ก่อนที่จะเทความเคลิ้มไปที่นายวิโรจน์และพรรคพวก

เรื่องไอโอโดยภาครัฐ ยุคนี้ไม่น่าตื่นเต้นแล้ว เพราะปัจจุบันโซเชียลมีเดียทำให้รัฐไม่สามารถผูกขาดความเป็นเจ้าของสื่ออีกต่อไป ต่างจากสมัยก่อนที่อำนาจการควบคุมสื่อส่วนใหญ่อยู่ในมือรัฐ ปฏิบัติการไอโอจึงได้ผลและได้เปรียบอยู่ฝ่ายเดียว

แต่ยุคนี้ว่าไปแล้วไอโอของรัฐเพลี่ยงพล้ำให้กับไอโอของพรรคคนรุ่นใหม่ที่มีฝีมือฉกาจด้านไอทีไปแล้ว