หลังปล่อยให้ “นิสสัน โน้ต” อีโคคาร์รุ่นใหม่ล่าสุดของเมืองไทย ออกมาวาดลวดลายได้ราว 1 เดือน “มาสด้า 2” ก็รับน้องด้วยการส่งรุ่นปรับโฉมออกมาสกัดดาวรุ่งทันที

อีโคคาร์คู่นี้ถือว่ามีความได้เปรียบ-เสียเปรียบที่ค่อนข้างสูสีกว่ารถของค่ายอื่นๆ

เพราะแม้ “นิสสัน โน้ต” จะเป็นโมเดลใหม่กิ๊กๆ ขณะที่ “มาสด้า 2” นั้นออกมาตั้งแต่ปี 2558 แต่เป็นรถอีโคคาร์ใน “เฟส 2” ได้เปรียบเรื่องเครื่องยนต์ที่ใหญ่กว่า

แต่เรื่องความสะดวกสบาย “นิสสัน โน้ต” ได้เปรียบที่ตัวถังขนาดบิ๊กไซซ์

ส่วนความปลอดภัยและเทคโนโลยีต่างๆ หากเทียบกันแล้วถือว่าสูสี เพราะ “มาสด้า 2” ใหม่ ใส่เพิ่มเทคโนโลยีที่หลายอย่างขอยืมมาจากรุ่นพี่ “มาสด้า 3” นั่นเอง จึงทำให้พอเปรียบเทียบกับนิสสัน โน้ต ได้พอฟัดพอเหวี่ยง

เช่นเดียวกับเรื่องราคา หากเทียบรุ่นต่อรุ่นถือว่าห่างกันไม่มากนัก

และเพราะนิสสัน โน้ต มีแต่เครื่องยนต์เบนซิน จึงขอนำมาสด้า 2 เครื่องเบนซิน มาเปรียบเทียบ เพื่อความเหมาะสม

เริ่มกันที่รุ่นที่เปิดตัวทีหลังคือ “มาสด้า 2” ไมเนอร์เชนจ์ ภายนอกปรับเปลี่ยนไม่มากนักเนื่องจากของเก่าออกแบบได้ลงตัวตามสไตล์ “โคโดะ ดีไซน์” อยู่แล้ว

เน้นความสปอร์ตสะท้อนจิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหวที่งดงามและทรงพลังของสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติ ด้วยท่วงท่าที่สง่างาม ปราดเปรียว เช่นเดียวกับเสือชีตาห์ขณะซุ่มรอจังหวะกระโจนเข้าตะครุบเหยื่อ

โดยเฉพาะไฟหน้าแบบฮาโลเจน โคมรีเฟล็กเตอร์ ออกแบบคล้ายกับตาของสัตว์ ซึ่งเป็นแนวทางการออกแบบให้รถมาสด้ารุ่นหลังๆ เกือบทั้งหมด

กระจกมองข้างปรับพับด้วยไฟฟ้าพร้อมติดตั้งไฟเลี้ยว

ดีไซน์ภายนอกออกแบบให้เป็นไปตามหลักแอโรไดนามิก ทั้งในส่วนการออกแบบการไล่อากาศด้านบนของตัวถังรถ (Upper Body) และด้านใต้ตัวถังรถ (Under Body) ช่วยลดแรงต้านและเสริมให้การไหลของกระแสและทิศทางลมที่ปะทะตัวถังรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ภายในห้องโดยสารสปอร์ตพรีเมียมสไตล์รถยุโรปตกแต่งแบบทูโทน พร้อมเบาะหนังดีไซน์ใหม่ ห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบาย อุปกรณ์ภายในจัดวางในตำแหน่งที่สะดวกใช้งาน

พวงมาลัยดีไซน์ใหม่ กระชับมือ ตกแต่งด้วยโครเมียม พร้อมปุ่มควบคุมการทำงานที่พวงมาลัย

มี Active Driving Display จอสกรีนใส แสดงข้อมูลการขับขี่ที่สำคัญ ระดับความเร็ว และข้อมูลระบบนำทาง Navigator ในรูปแบบสีที่ชัดเจนและอ่านง่ายในระดับสายตา

ระบบ Sports Paddle Shift ระบบการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ระบบ Cruise Control ระบบควบคุมความเร็วคงที่

พนักพิงเบาะนั่งด้านหลังแบบพับได้ ช่วยเพิ่มพื้นที่กว้างให้กับสัมภาระขนาดใหญ่ และแยกพับซ้าย-ขวา 60:40 ได้อิสระตามความต้องการ

ขณะที่ “นิสสัน โน้ต” ออกแบบกระจังหน้าแบบ V-Motion เอกลักษณ์การออกแบบภายของนิสสัน ในรถหลายๆ รุ่นที่ผ่านมา โคมไฟหน้าแบบ LED โปรเจ็กเตอร์ สามารถปรับระดับสูงต่ำได้ พร้อม LED Signature Light ไฟตัดหมอกคู่หน้า

เส้นสายด้านข้างเน้นความสปอร์ต พลิ้วไหวมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน (CD) ต่ำสุดเพียง 0.30 ช่วยให้รถมีการทรงตัวที่ดี ลดเสียงรบกวน และประหยัดเชื้อเพลิง

ไฟท้าย LED แบบ Signature รูปทรงบูมเมอแรง พร้อมไฟเบรกแบบ LED

ภายในออกแบบด้วยโทนสีดำ แซมด้วยวัสดุสีเงิน เช่น หัวเกียร์ ฐานเกียร์ ส่วนวัสดุตกแต่งคอนโซลกลางสีเปียโน แบล็ก

พวงมาลัยทรงสปอร์ต D-Shape แบบแร็ก แอนด์ พิเนียน พร้อมระบบเพาเวอร์ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS) มีระบบมัลติฟังก์ชั่น สามารถควบคุมระบบการทำงานของเครื่องเสียงและระบบเชื่อมต่ออื่นๆ

มาตรวัดเรืองแสงอัจฉริยะมัลติฟังก์ชั่น ดิสเพลย์ (MID) แสดงข้อมูลการขับขี่ แสดงระยะการเข้ารับบริการ อุณหภูมิภายนอก นาฬิกาดิจิตอล เสียงสัญญาณเตือนลืมปิดไฟหน้า ระบบเตือนเมื่อลืมกุญแจ

วิทยุ ซีดี เอ็มพี 3 แบบ 1 แผ่น หน้าจอ LED แบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว เพิ่มความสะดวกในการควบคุม ระบบเชื่อมต่อ AUX, USB, Bluetooth และช่องเชื่อมต่อ AV-in, HDMI ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบ Bluetooth ลำโพง 4 ตำแหน่ง

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า ไฟเรืองแสงบริเวณสวิตช์กระจกไฟฟ้าด้านคนขับ

ระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีไฮเทค “มาสด้า 2 ใหม่” ใส่มาแน่นคัน ไม่ว่าจะเป็น ระบบ i-ACTIVSENSE : Worry-free Excitement ช่วยเตือนเมื่อมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ ให้คุณมั่นใจและพุ่งทะยานไปกับทุกเส้นทางที่เป็นตัวเองได้ ไม่มีอะไรต้องกังวล

ระบบ MZD CONNECT: CONNECTIVITY AT YOUR FINGERTIPS เชื่อมต่อออนไลน์ MZD CONNECT ในมาสด้า 2 ใหม่ ที่สะดวกและครบทุกฟังก์ชั่นให้คุณเพลิดเพลินกับไลฟ์สไตล์ดิจิตอลบนรถทุกที่ ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นโซเชียลมีเดีย หรือรับ-ส่งข้อความ SMS จากสมาร์ตโฟนผ่านสัญญาณ Bluetooth

ระบบ ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน

ระบบ RCTA (Rear Cross Traffic Alert) เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาในขณะถอยหลัง

ส่วน “นิสสัน โน้ต” ต้องถือว่าเป็นผู้นำของกลุ่มรถอีโคคาร์ก็ว่าได้ เพราะใส่มาเยอะเหลือเชื่อ ไม่ว่าจะเป็น “ระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ” เซ็นเซอร์จากกล้องด้านหน้ารถจะตรวจจับบุคคล และยานยนต์บริเวณหน้ารถ แล้วส่งสัญญาณเสียงพร้อมสัญลักษณ์เตือนบนหน้าปัด

“ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ” วิเคราะห์ระยะห่าง และความเร็วด้วยกล้องด้านหน้า แล้วช่วยชะลอความเร็วและหยุดรถบรรเทาอุบัติเหตุ

“ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเส้นทาง” ด้วยเสียงและสัญญาณไฟที่บริเวณหน้าปัดเมื่อรถออกนอกช่องทางโดยไม่ได้ตั้งใจ

แต่ทีเด็ดสุดยกให้ “กล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง” (Around View Monitor-AVM) มองเห็นได้ทุกจุดรอบคัน ตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุ และบุคคลที่เคลื่อนไหว จากกล้องรอบคัน MOD (Moving Object Detection) โดยแสดงผลที่กระจกมองหลัง

ไฮเทคเทียบเท่ารุ่นใหญ่อย่าง “นิสสัน เทียน่า” ได้เลย

 

มาถึงหัวใจสำคัญคือเครื่องยนต์ ณ จุดๆ นี้ “มาสด้า 2” ได้เปรียบแน่นอน เพราะเครื่องยนต์ใหญ่กว่า เป็นแบบ SKYACTIV-G แถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว 1,299 ซีซี กำลังสูงสุด 93 แรงม้า และแรงบิดสูง 123 นิวตัน-เมตร ทำงานควบคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมแมนวลโหมด

ส่วนนิสสัน โน้ต แบบแถวเรียง 3 สูบ 12 วาล์ว 1,198 ซีซี กำลังสูงสุด 79 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 106 นิวตัน-เมตร ทำงานควบคู่กับระบบเกียร์ XTRONIC CVT D-Step Logic รุ่นปรับปรุงใหม่

ช่วงล่างทั้งคู่เหมือนกัน ด้านหน้าเป็นแบบแม็กเฟอร์สัน สตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลัง ทอร์ชั่นบีม

มิติตัวถังนิสสัน โน้ต ได้เปรียบกว่า (กว้าง x ยาว x สูง) 1,695 x 4,105 x 1,535 ม.ม. ระยะฐานล้อ 2,600 ม.ม.

ส่วนมาสด้า 2 (กว้าง x ยาว x สูง) 1,695 x 4,060 x 1,495 ม.ม. ฐานล้อ 2,530 ม.ม.

สนนราคา มาสด้า 2 รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน มี 4 รุ่นย่อย 530,000-670,000 บาท ทั้งแบบ 4-5 ประตูราคาเท่ากัน

นิสสัน โน้ต มี 2 รุ่นย่อย ราคา 568,000-640,000 บาท