กาละแมร์ พัชรศรี : บ้านใหม่ ของใหม่ และคนใหม่ๆ

นี่เป็นอีกครั้งที่เกือบลืมส่งต้นฉบับ (ฮา) ซึ่งมติชนสุดฯ คงจะไม่ตลกไปกับฉันแน่นอน!

คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้ค่ะคุณตำรวจ ฉันเพิ่งย้ายบ้าน ซึ่งมันเป็นเรื่องใหญ่ของชีวิตนะคะคุณตำรวจ มีเรื่องที่ต้องคิด ทำ ซื้อ จัดแจง ปรับตัว เรียนรู้กับที่ใหม่มากมาย ทำให้ฉันหลงลืมการส่งต้นฉบับไปค่ะ (อะไรนะคะ ฟังไม่ขึ้นหรือคะคุณตำรวจ)

แต่ยังไงก็ตามฉันก็ส่งในเสี้ยววินาทีสุดท้ายทันเวลาค่ะ

ดังนั้น เรื่องที่จะเล่าก็หนีไม่พ้นเรื่องบ้านนะคะ เพราะตอนนี้เห่อบ้านหนักมาก เอะอะอยากกลับบ้านค่ะ ไม่ใช่อะไร กลัวรถติด (ฮา)

บ้านใหม่อยู่แถวสาทร วันย้ายมาอยู่เกิดไฟไหม้ตรงสะพานไทยเบลเยียมพอดี สะพานปิดซ่อม 45 วันเป็นการต้อนรับผู้มาอยู่ใหม่ ดี๊ดี!

การเรียนรู้เส้นทางลัดเลาะกลับบ้านจึงเกิดขึ้น คุณขา…แค่จำทางให้ได้ก็เยอะแล้ว ใครจะจำวันส่งต้นฉบับได้

(อุ๊บส์! มันยังไม่สำนึกนะคะ)

นอกจากนั้น ต้องไปซื้อเฟอร์นิเจอร์ ของแต่งบ้านนานา อะไรขาด อะไรเสียต้องซ่อม ที่ผ่านมาก็ต้องตะลอนไปตามที่ต่างๆ เที่ยวมองเก้าอี้ โต๊ะกินข้าวไม่ให้ซ้ำแบบกัน สนุกตรงที่เจอเก้าอี้เมื่อไหร่ก็ต้องไปลองนั่ง เจอแบบที่ชอบยังไม่พอ ต้องนั่งแล้วสบายด้วย อ้อ ราคาก็ต้องพอรับได้ (สำคัญที่สุดก็ตรงนี้)

บ้านเดิมๆ เพิ่มเติมคือของแต่งบ้าน เพราะมันจะแสดงความเป็นตัวเรามากที่สุด เมื่อไหร่ที่เราเห็นของที่เราคุ้นเคย ของที่มีความหมาย ของที่เราประทับใจ มองไปเมื่อไหร่ก็ดีต่อใจทุกครั้ง

ของแต่งบ้านของฉัน บางชิ้นมีราคาบ้าง ไม่มีราคาบ้าง แต่มีเรื่องเล่าความเป็นมา ไปได้มาจากที่จังหวัดใด เมืองไหน ประเทศอะไร ใครเป็นคนทำ ตอนซื้อเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง ทุกอย่างที่อยู่ในบ้านจึงมีเสียงบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองทั้งสิ้น

เพราะคนที่อยู่บ้านก็คือตัวของเราเอง ไม่ใช่ดีไซเนอร์หรืออินทีเรีย เขาอาจจะออกแบบเบื้องต้นให้เราได้ เห็นความสวยงามเหมาะสมให้เราได้ แต่สุดท้ายเราจะต้องใช้ชีวิตอยู่ที่ “บ้านหลังนี้” เราจึงต้องมีส่วนเราในบ้านของตัวเองด้วย

ความสนุกของการอยู่บ้านใหม่จะทำให้เราได้ตกแต่งบ้านไปเรื่อยๆ ไม่ต้องรีบให้เสร็จในคราวเดียว เพราะจากประสบการณ์ตรง การแต่งบ้าน 2 ครั้งที่ผ่านมา ทำให้รู้ว่า เราต้องใจเย็นๆ อย่ารีบ เพราะของที่มันใช่ มันมักรอเราอยู่เสมอ รอให้เราไปเจอมันเท่านั้น ต้องเอาที่ชอบจริงๆ ไม่อย่างนั้นมันจะกลายเป็นขยะในบ้านไป หรือไม่อย่างนั้นพอเราเจอที่เราชอบและใช่ แต่กลับไม่มีที่วางสำหรับมันแล้ว เจ็บใจไหมคะ

นอกจากนี้ การอยู่ที่ใหม่ ยังทำให้เราได้เรียนรู้บ้านของเราไปทุกวัน บางวันนั่งมุมนี้ดีจังเลย อีกวันนั่งมุมนั้น เอ้อ ดีไปอีกแบบ หรือลองนั่งต่างเวลากันก็ให้อีกความรู้สึก

ความสุขตอนนี้คือ วันนี้นั่งกินข้าวเช้ามุมนี้ พรุ่งนี้ลองอีกด้าน เปิดหน้าต่างรับลมจากหลายๆ ทาง นั่งดูแสงไฟยามค่ำคืน เฝ้ารอยามเย็นเพื่อชมพระอาทิตย์ตกดิน และรอว่าเมื่อไหร่จะเช้าอีกเพื่อจะได้ไปนั่งในมุมที่ชอบ

ก็คนมันเห่ออะนะคะ ของใหม่ก็อย่างนี้ (ฮา)

และสิ่งที่ตื่นเต้นมากกว่านั้นคือ การมีแม่บ้านเป็นของตัวเองค่ะ นางเป็นสาวชาวพม่าที่อยู่ไทยมาหลายปี มีบัตรทำงานถูกต้อง เพื่อนของนางทำงานอยู่ที่คอนโดฯ เดียวกันนี้เป็นคนพามา

ตลอดชีวิตของฉัน ไม่เคยมีแม่บ้านหรือคนแปลกหน้าใดอยู่ในบ้านเดียวกัน การมาของแม่บ้านสาวพม่าจึงเป็นสิ่งแปลกใหม่ของชีวิต

นางทำงานคล่องแคล่วแบบคนเป็นงานมาแล้ว เรื่องทำความสะอาดไม่ต้องพูดถึง สะอาด เรียบร้อย มีมารยาทดี พูดจาไพเราะ รู้งาน ยิ่งตอนจัดบ้าน ถ้าไม่มีแม่บ้านนี่ตายแน่ๆ นางเรียนรู้ไว จัดของเป็นระเบียบเข้าที่เรียบร้อย

นางคอยกระตือรือร้นเรียนรู้ในสิ่งที่ฉันต้องทำ เช่น การเตรียมอาหาร การเตรียมกระเป๋าอาหารว่างออกไปกินข้างนอก เห็นฉันต้องกินน้ำตอนกลางคืนก็เอาแก้วพร้อมขวดน้ำ ใส่ถาดวางไว้บนหัวนอน ใช้อะไรก็รู้เรื่องราว ต้มไข่ปอกไข่สวยงาม สอนให้ทำสลัดก็ทำได้

และที่ประทับใจสุดๆ คือ นางพับและจัดระเบียบชุดชั้นใน เสื้อผ้าออกกำลังกาย ชุดนอน เป็นระเบียบเรียบร้อยอย่างที่ฉันไม่เคยมีมาก่อนในชีวิต เปิดลิ้นชักออกมา ถึงขั้นช็อกและค่อยๆ หยิบกางเกงในออกมาใช้ ไม่อยากให้กระทบกระเทือนตัวอื่น และจะไม่ทำขยำย่นยู่ยี่อีกต่อไปแล้ว

บ้านใหม่ คนใหม่ สิ่งแวดล้อมใหม่ มีอะไรใหม่ๆ ให้ได้สนุกสนานตื่นเต้นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

และที่สำคัญ ทำให้เราสุขใจในทุกๆ วันของชีวิตค่ะ