อัญเจียแขฺมร์ : เทต สมบัติ-ธี สุวันทา : โลกใหม่ในมือเขา-โลกเก่าในมือเนียง

เขาเกิดมาอยู่ในโลกแห่งสงครามกลางเมือง ความแร้นแค้น และการสูญเสียครอบครอบ ชีวิตแห่งวัยเยาว์ไปกับระบบปกครองสุดโต่งที่โหดร้าย จนผ่านพ้นวันเวลาแห่งร้าย

แต่แล้ววันคืนก็เล่นตลกให้เขาต้องย้อนเวลากลับไปค้นหาการชำระสะสางจิตใจด้วยปฏิสัมพันธ์กับชายแก่แปลกหน้าซึ่งได้ชื่อว่าอดีตผู้นำเขมรแดงอย่างมีเงื่อนงำแห่งเงื่อนไขในภารกิจ

เธอเกิดในปีที่บ้านเมืองเพิ่งจะฉลองการปรองดองและเสรีภาพ ซึ่งเธอได้เสพมันเป็นครั้งแรกตอนอายุ 18 เมื่อมีการเลือกตั้งทั่วประเทศ ชีวิตที่เหมือนกับดอกไม้แรกแย้มที่เบิกบาน แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปอย่างสุดโต่งในชั่วเวลาแค่ข้ามปี

ธี สุวันทา

และนี่คือช่วงพล็อตของชีวิตบางตอนของ เทต สมบัติ และ ธี สุวันทา ที่บังเอิญโลกของเธอ-เขาต่างผูกไว้กับขื่อคาทางการเมือง ที่ให้คำตอบอัน “น่าทึ่ง” อย่างเหลือประมาณไปตามเงื่อนไขของแต่ละฝ่าย

อย่าได้สะท้าน

เมื่อปรากฏตัวต่อสาธารณะอีกครั้งในการยื่นฟ้องเอาผิด สม รังสี ที่ออกมาเปิดโปงว่าเธอเป็นหนึ่ง ในแผนเพื่อทำลายพรรคฝ่ายค้านของ ฮุน เซน

ธี สุวันทา เสียงแข็งปฏิเสธ ประกาศกร้าวจะเรียกค่าเสียหายจากเขานับล้านบาท

แม้ลุงๆ อาๆ ในพรรคที่เธอไปปั่นป่วนพวกเขาไว้ ก็ไม่เคยมีใครกล่าวร้ายต่อเธอให้เจ็บช้ำน้ำใจ

เช่นเดียวกับแฟนคลับชายหนุ่ม ลุงๆ/อมๆ จำนวนหนึ่งขอความเห็นใจและอยากให้เธอได้เริ่มต้นใหม่ พวกเขาหวังว่า เธอจะกลับไปเป็นเด็กสาวคนเก่าที่พวกเขารู้จัก

พวกเขายังฝัน และยังหวังว่าจะเป็นไปได้

“เธอยังอายุน้อย ผู้คนจะให้โอกาส”

“ด้วยสติปัญญาและความกล้าหาญเท่านั้น จะนำพาให้เธอประสบความสำเร็จ”

ไม่มีใครทราบ เพราะ ธี สุวันทา คนเก่าที่เคยทแกล้วทกล้านั้นหายไปแล้ว เหลือแต่ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นใบหน้าแห่งความหลอนหลอกของสังคม

ปกติคนที่อยู่บนนั้นกับ “บองทม” พวกเขาจะมีชีวิตอีกแบบหนึ่ง ซึ่งสำหรับ ธี สุวันทา แล้ว

นี่คือโลกเดียวที่เธอต้องเหลือรอด

เทต สมบัติ

“2-CTW-885” คือพยานลำดับที่ 885 บุคคลที่คณะอัยการแห่งศาลเขมรแดงต้องการเรียกตัวมาให้การต่อศาล แต่ เทต สมบัติ อดีตนักข่าวพนมเปญโพสต์ที่ใกล้ชิดกับ นวน เจีย ที่เนื้อหาในเรื่องราวตอนหนึ่งของภาพยนตร์สารคดี “Enemies of the People”

ไม่มีข้อกังขา สำหรับมิตรภาพบริสุทธิ์ที่กลายมาเป็นภาพยนตร์สารคดีในปี 2009 ที่ นวน เจีย ถูกส่งไปอยู่ในคุกชั่วคราวศาลเขมรแดงแล้วสิตอนนั้น ขณะที่ เทต สมบัติ ก็ได้รับความชื่นชมในสิ่งที่เขาทำไว้แก่ประวัติศาสตร์

และเครดิตของมันก็ตามมาอย่างมากมาย รวมทั้งงานวิจัยอย่างสถาบันในฮาร์วาร์ดอย่างสหรัฐซึ่งมาจากที่เขาขอลี้ภัยจากการถูกคุกคามความปลอดภัยจากรัฐบาล หาใช่ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับอดีตอดีตผู้นำเขมรแดง

ซึ่งแนบแน่นมั่นคง ไม่นานจากความสัมพันของตานวน เจีย กับเจ้าหน้าที่ไทยซึ่งมีภารกิจดูแล “ความอบอุ่นใจ” ให้เจีย โดยการแวะเวียนไปเยี่ยมเยียนอยู่เสมอ

และเจียก็คุ้นเคยให้ความเอ็นดู คนเล็กๆ กลุ่มนี้ ซึ่งทราบดีว่า (พวก) เขาคือสาย (ลับ) และเป็นคนของทางการจากประเทศเพื่อนบ้าน

ก็ถ้าเจียไม่ระแวงคนกลุ่มนั้น เจียก็ไม่ควรจะระแวง เทต สมบัติ ซึ่งเป็นพลเมืองเดียวกับเขา แม้อาชีพของสมบัติจะเป็นนักข่าว ซึ่งเขารู้ดีว่าต้องการเข้ามาเพื่อหาผลประโยชน์

แต่เจียก็มีความเอ็นดูต่อเขาเป็นพิเศษ

ซึ่ง เทต สมบัติ เอง ก็ไม่ได้อยู่ในข้อยกเว้นนั้น เมื่อต่อมา “ภารกิจฉบับพิเศษ” ของสมบัติก็ปรากฏ โดยความยินยอมของเจีย แบบเดียวกับที่หน่วยงานของไทยถ่ายทำคลิปวิดีโอไม่กี่วันล่วงหน้า ก่อนที่ตาเจียจะถูกซิวเข้าเรือนจำชั่วคราวที่พนมเปญ

เจียอาจจะมีมุมมองที่เปิดกว้างในมิตรภาพ เพียงแต่เขาไม่ทราบมาก่อนว่า มันจะถูกนำไปประดิษฐ์ไฉนในชื่อ “Enemies of the People” ในกรณีของ เทต สมบัติ ซึ่งข้อนี้ต่างหากที่ทนายความของเขาไม่เห็นพ้อง สำหรับการเห็นแก่มิตรภาพที่มาจากการอำพรางความจริงของอีกคู่ภาคี

แม้กรณีนี้ นวน เจีย เสียเองที่อาจอยากให้แซะ เพราะไหนๆ ก็ทราบดีแล้วว่าชีวิตจะจบแปะลงที่ใด

และเพื่อรักษาไว้ซึ่งมิตรภาพ

ดูจากตอนที่เขาเบิกความที่ศาลครั้งแรก (2011) ตอนหนึ่งผู้พิพากษาถามว่ารู้จัก เทต สมบัติ มั้ย? นวน เจีย ตอบด้วยสุ้มเสียงที่ดูมีความสุข เหมือนตาแก่ที่เอ็นดูหลานชายคนหนึ่ง

แม้ว่าทีมฐานะนักกฎหมาย ทนายความ นวน เจีย กลับเห็นต่างว่า นี่คือ “พล็อต” เรื่องของการกระทำต่อจำเลยในการกระทำหลักฐานต่อลูกความ ซึ่งเท่ากับว่า เป็นหลักฐานที่สร้างจากความอคติที่มีต่อลูกความของตน

หนังสือที่ทีมทนายความ นวน เจีย ส่งไปถึงใต้เท้า-ท่านเจ้ากรม/ผู้พิพากษาระหว่างปี 2013-2015 อย่างน้อยราว 2 ฉบับที่ระบุชัดว่าพวกเขาต้องการจะไต่สวนพยานปากเอกของฝ่ายโจทก์ที่ชื่อ เทต สมบัติ โดยหากว่าฝ่ายอัยการจะสามารถเบิกตัวพยานปากนี้ รวมทั้งโปรดิวเซอร์ชาวอังกฤษคนนั้น

แต่ 2-CTW-885 ก็เคยมาขึ้นศาล คำปฏิเสธของเขาปรากฏอยู่ในสื่อต่างๆ และเอกสารสถาบัน

สมบัติกล่าวว่า เขาจะไปที่ศาลแห่งนี้ก็ต่อเมื่อ “ECCC ยอมตั้งข้อกล่าวหาอดีตผู้นำเขมรแดงซึ่งมี ฮุน เซน/และแกนนำในรัฐบาล ส่วนทางการเวียดนาม รัสเซียและจีน นั่นก็ด้วย” (18 พฤษภาคม 2015)

ช่างเป็นคำพูดแปลกๆ และที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น ก็ช่างบังเอิญไปตรงกับถ้อยคำเบิกความของจำเลย นวน เจีย ที่เคยให้การต่อศาลไว้เสียอีก

อ่ะ! ผูกพันอย่างบังเอิญไม่ว่า แต่พยานของอัยการปากนี้ยังกล่าวหาว่า ECCC หรือศาลเขมรแดง “เป็นเครื่องมือสร้างความชอบธรรมทางกฎหมายให้บุคคลต่อไปนี้อันมี ฮุน เซน, เฮง สัมริน, เจีย ซิม และพวกตอลดจนกองทัพเวียดนามที่รุกรานกัมพูชาในปี 1979”

ผิว์ว่านวน เจีย-1 (ตัวจริง) เคยพูดไว้อย่างไร

เทต สมบัติ ก็เหมือนกับ นวน เจีย-2 มาก๊อบปี้คำและพูดซ้ำอย่างเดิม

วนกันไปสิ

ธี สุวันทา

ย้อนไปราวปี 1999 ที่ เทต สมบัติ บังเอิญเป็นนักข่าวท้องถิ่นเพียงคนเดียวเวลานั้นที่เข้าถึงตัว นวน เจีย

และก็เจีย/ดีมาตลอด

เป็นความสัมพันไว้วางใจที่มั่นคงที่ดูเหมือนทั้ง 2 คนเพียรจะรักษาไว้ ในสถานะของความเป็นมนุษย์คนหนึ่ง เทต สมบัติ เคยบอก

นั่นคือสิ่งที่ เทต สมบัติ เคยกล่าวต่อสถาบันมานุษยวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดที่ซึ่งเขาทำงานในฐานะนักวิจัยคือ “ผมไม่เคยโกรธเกลียดเขมรแดง”

ต่างจากห้วงเวลาที่เขาอยู่เขมรแดงต้องประดิษฐ์ไฉนภาพยนตร์ฉบับดังกล่าว ที่เขาตอบคำถามของการเป็นเหยื่ออย่างซ้ำซาก และที่สำคัญมันได้กลายเป็นเอกสารสำคัญของดีซี-แคม (DC-CAM) หน่วยงานที่ป้อนข้อมูลดิบเบื้องต้นต่อฝ่ายอัยการ ซึ่งประเด็นเบื้องหลังหลักฐานที่ เทต สมบัติ ทำขึ้นมานี้ ก็มีหน่วยงานที่ให้เงินสนับสนุนเขาอยู่เบื้องหลัง

ไม่มีความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นมาโดยไม่มีค่าใช้จ่ายของการเดินทางจากพนมเปญถึงไพลินในระหว่างหลายปีที่เขาไปนั่งคุยกับ นวน เจีย นั้นหลังมื้ออาหารค่ำและวันหยุด และกลายเป็นที่มาของ “Enemies of the People” ไปในที่สุด

ซึ่งเวลานี้ เทต สมบัติ กลับมีเป้าหมายอื่นที่ตามหา ซึ่งเขามองว่า “Enemies of the People” เป็นเพียงตัวหลอก จริงๆ แล้ว “Suspicious Minds” ภาพยนตร์สารคดีเรื่องใหม่ที่เขากำลังผลิตต่างหากที่ตอบโจทย์ความจริง

นั่นคือเหตุผลว่า ทำไมเขาจึงกลายเป็นพลเมืองที่เป็นศัตรูกับรัฐบาลของตัวเองจนไม่สามารถจะกลับไปขึ้นศาลเขมรแดงที่กรุงพนมเปญได้

ซึ่ง “กับดัก” แห่งหลักฐานอันใหม่ที่เขากำลังรวบรวมไว้ใน “Suspicious Minds” นี่เอง ที่บ่งบอกว่า บางทีชายคนนี้นี่แหละที่อาจเป็นภัยคุกคามของรัฐบาล ฮุน เซน

เมื่อ เทต สมบัติ กำลัง “เพาะชำ” หลักฐานและรอคอยที่จะชำระสะสาง หลังคดีต่างๆ ในศาลเขมรแดงสิ้นสุดลง

หรือหมายความว่า นี่เป็นหลักที่รอจะลงดาบ หาก “คำร้อง” หลายสำนวนใหม่ ที่ส่งไปยังศาลอาญาระหว่างประเทศอาจจะมีโอกาสหยิบยกขึ้นมา “ไต่สวน”

และนั่นก็คือโปรเจ็กต์ “Suspicious Minds” ที่เขาบุกเบิกทำไว้เวลานี้ จะมีความหมายต่อไปในอนาคต

เป็นสิ่งเดียวที่ นวน เจีย อยากเห็นและเรียกร้องอยู่ในศาลเวลานี้

ถึงเวลานั้น เจียก็อาจจะหมดลมหายใจไปแล้ว

แต่ความสัมพันธ์ที่ประหลาดระหว่างเขากับหลาน เทต สมบัติ กลับเป็นคบไฟอันลุกโชนและปลุกมิตรภาพที่ไม่น่าจะจบลงด้วยไมตรีที่อบอุ่นต่อกันเช่นนี้ได้

ราวกับอุดมคติที่ได้มาจากความตายอันเจ็บปวดจากยุคเขมรแดง และมันคือผลิตผลอันจดจาร ระหว่าง “พยาน : 2-CTW-885 กับจำเลยหมายเลข : 002”

และเป็นเวลาสุดท้ายที่ เทต สมบัติ ได้ลุกขึ้นมาชำระสะสางทั้งอดีตอันเจ็บปวดของตนและปัจจุบันที่เขากำลังทำอยู่

มันคือการแสวงหาคำตอบที่ได้มาจากช่วงเวลากับตาเจีย