วิเคราะห์ : อาการ หัวร่อไม่ได้-ร่ำไห้ไม่ออก กับมาตรการแบบไทยๆ

ในที่สุดธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็ประกาศปรับปรุงเกณฑ์ LTV โดยกำหนดให้การซื้อบ้านหลังแรกราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาทสามารถกู้ได้เต็มมูลค่าหลักประกัน และยังสามารถกู้ซื้อเฟอร์นิเจอร์หรือสิ่งของจำเป็นในการเข้าอยู่อาศัยได้อีก 10%

ส่วนบ้านหลังที่ 2 ให้ดาวน์ 10% หากผ่อนชำระสัญญาที่ 1 มาแล้ว 2 ปีขึ้นไป ซึ่งเงื่อนไขนี้เดิมกำหนด 3 ปีขึ้นไป แต่ถ้ายังไม่ถึง 2 ปีต้องดาวน์ 20% และถ้าเป็นสัญญาที่ 3 หรือหลังที่ 3 ต้องดาวน์ 30%

ธปท.ให้เหตุผลในการปรับปรุงเกณฑ์ LTV ว่า เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนได้เป็นเจ้าของบ้านหลังแรกง่ายขึ้น และช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายจำเป็นในการตกแต่งเพื่อเข้าอยู่อาศัย และเพื่อให้ประชาชนที่มีความจำเป็นต้องมีที่อยู่อาศัยหลังที่ 2 ที่มีวินัยการผ่อนชำระดีซื้อได้ง่ายขึ้น

เป็นเหตุผลที่ฟังดูแล้วดูดีมีน้ำใจกับประชาชนที่ซื้อที่อยู่อาศัยและมีหลักการ

น่าชื่นชมอย่างยิ่ง

 

เมื่อพิจารณาว่าการปรับปรุง ธปท.เป็นเพียงการผ่อนคลาย แต่ยังคงไว้มาตรการ LTV ซึ่งเป็นมาตรการที่สกัดการเก็งกำไรอสังหาริมทรัพย์ ทั้งที่ความเป็นจริงทางเศรษฐกิจและธุรกิจทุกวันนี้ การเก็งกำไรไม่มีแล้ว ไม่คุ้มที่จะทำ และไม่มีใครบ้าทำ

เป็นการสกัดการเก็งกำไรในขณะที่เป็นเศรษฐกิจขาลง แทนที่จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาวะขาลง กระตุ้นให้ประชาชนจับจ่ายใช้สอย กระตุ้นการลงทุนของประชาชน เพื่อให้เศรษฐกิจกลับมาหมุนเวียนคล่องตัว

อันนี้คิดแล้ว ก็อยากจะร้องไห้ เพราะมันกลับตาลปัตร ผิดทิศผิดทาง

การปรับปรุงมาตรการ LTV เป็นสิ่งที่ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย

แต่เชื่อได้ว่า คงไม่มีผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ กับธุรกิจอสังหาฯ และเศรษฐกิจโดยรวม ที่กำลังเผชิญกับปัจจัยลบอีกหลายๆ อย่าง ที่กำลังมุ่งหน้าสู่การชะลอตัวต่อไป

 

จะว่าไปแล้ว มาตรการทางเศรษฐกิจที่แปลกๆ กลับตาลปัตรไม่ได้มีแค่เรื่องนี้เรื่องเดียว

เมื่อเร็วๆ นี้ผู้นำในรัฐบาลออกมาบอกว่า ค่าเงินบาทแข็งเมื่อเทียบกับเงินตราต่างประเทศ ขอให้นักธุรกิจไทยคนไทยฉวยโอกาสในการลงทุน รีบซื้อเครื่องจักรเครื่องมือจากต่างประเทศเพราะเรากำลังได้ประโยชน์จากอัตราแลกเปลี่ยน

ทั้งที่ความจริงนั้น ทุกวันนี้มีการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 60% ของกำลังการผลิตที่มี

จะมีใครที่ไหนบ้าพอที่จะลงทุนเพิ่มกำลังการผลิต ทั้งที่กำลังการผลิตยังเหลืออยู่มากมาย

สิ่งที่นโยบายรัฐต้องทำคือการสร้างความเชื่อมั่น การกระตุ้นกำลังซื้อ เพื่อให้เกิดการใช้กำลังการผลิต

ไม่อยากมองโลกในแง่ร้าย แต่ก็รู้สึกว่าบ้านเมืองมีเรื่องแปลกๆ กลับข้างที่ควรจะเป็นเยอะแยะ จนทำให้ไม่แน่ใจว่า มันจะไหลต่อไปถึงไหน

จะหัวร่อก็ไม่ได้ จะร้องไห้ก็ไม่ออก ฉะนี้แล