วิถีแห่งกลยุทธ์ เหมยฉางซู / เสถียร จันทิมาธร /สลับ ซับซ้อน ซ่อนปม (29)

เสถียร จันทิมาธร

วิถีแห่งกลยุทธ์ เหมยฉางซู/เสถียร จันทิมาธร

สลับ ซับซ้อน ซ่อนปม (29)

 

เป็นอันว่าเหมยฉางซูมีภารธุระที่จะต้องจัดการไปพร้อมกัน 2 กรณี 1 คือการต่อสู้ระหว่างเด็กไร้วิทยายุทธ์ 3 คนกับจอมยุทธ์จากแคว้นต้าอวี่ 1 การรับปากจากพระขนิษฐาลี่หยางให้คลี่คลายปัญหาให้หนีหวงจวิ้นจู่

ระหว่างรอภารธุระแรก เหมยฉางซูไม่อ้อมค้อม หาเงื่อนไขบอกหนีหวงจวิ้นจู่โดยตรง

“มีคนไหว้วานข้าให้เตือนท่าน คนในวังบางคนคล้ายว่าไม่มีหวังในตัวท่าน ดังนั้น คิดใช้วิธีรวบหัวรวบหาง ท่านต้องระวังอวี้หวังและหวงโฮ่วให้มาก หากเชิญให้ไปร่วมงานเลี้ยงตามลำพัง ไม่ไปได้ก็อย่าไป”

“พวกเขาจะใช้วิธีอะไร” เป็นคำถามจากหนีหวงจวิ้นจู่

เป็นเรื่องยากอย่างยิ่งที่เหมยฉางซูจะอรรถาธิบาย จึงได้แต่กล่าวโดยอ้อมๆ “วิธีการของวังหลังท่านอย่าได้ดูแคลนไป ของที่เข้าปากต้องระวังไว้”

สถานการณ์ทำให้ไม่สามารถบอกเล่ารายละเอียดได้

ต่อเมื่อการประลองสิ้นสุดเป็นไปตามเป้าหมายของเหมยฉางซู หนีหวงจวิ้นจู่จึงนำความมากระซิบบอก

“หวงโฮ่วเชิญข้าไปร่วมงานเลี้ยงที่ตำหนัก ข้าไม่อาจไม่รับปาก ดังนั้น ต้องไปแล้ว”

“จวิ้นจู่” เหมยฉางซูรีบร้องเรียกไว้ คิดไปคิดมาไม่มีอะไรต้องกำชับอีก ได้แต่ถอนใจคำหนึ่งแล้วกล่าว

“ระวังตัวด้วย”

 

ต้องยอมรับว่าเหมยฉางซูปล่อยให้หนีหวงจวิ้นจู่จากไปพร้อมกับความเป็นห่วง เดิมทีเห็นว่าแผนการสุราใยพิศวาสน่าจะมาจากอวี้หวังและหวงโฮ่ว เพราะประเมินว่าพระขนิษฐาลี่หยางได้ข่าวมาจากเซี่ยปี้ซึ่งมีความใกล้ชิดกับอวี้หวัง

แต่แล้วเมื่อได้ข่าวจากเหยียนอวี้จิงและเซียวจิงรุ่ยมีนัดตีลูกหนังกับเลี่ยวถิงเจี๋ยก็เริ่มฉุกใจคิด

ข้อมูลที่เหมยฉางซูได้มาก็คือ ตามเหตุผลหวงโฮ่วกับอวี้หวังสมควรจัดการแต่ละส่วนของแผนการเรียบร้อยแล้วถึงจะถูก เพราะอะไร เพราะอะไร เลี่ยวถิงเจี๋ยที่ถูกอวี้หวังลอบหมายมั่นปั้นมือให้เป็นคู่ครองของจวิ้นจู่ตามแผนการ

กลับนัดหมายคนอื่นตีลูกหนังที่นอกวังเล่า

พระขนิษฐาลี่หยางกล่าวว่า ที่ล่วงรู้แผนการร้ายนี้เป็นเพราะท่าทีกระวนกระวายของเซี่ยปี้ แต่แผนครั้งนี้หากเป็นของหวงโฮ่วกับอวี้หวังย่อมไม่มีทางแพร่งพรายถึงหูคนนอก อีกทั้งอุบายลับเฉพาะวิธีนี้เซี่ยปี้ยิ่งช่วยอะไรไม่ได้ อยู่ดีๆ อวี้หวังจะบอกเขาเพื่ออะไร

จึงเป็นไปไม่ได้ที่พระขนิษฐาลี่หยางจะล่วงรู้เรื่องนี้จากปากเซี่ยปี้ ดังนั้น ที่มาของข่าวนี้สมควรจะเป็นสามีของนาง หนิงกั๋วโหวเซี่ยอวี้

นี่คือความสลับซับซ้อนของสถานการณ์

 

วิธีของไท่โฮ่วในอดีตมีเพียงไม่กี่คนที่ทราบ เซี่ยอวี้ก็เป็น 1 ในนั้น หากขณะที่เขากำลังออกอุบายให้คนที่ตัวเองสนับสนุนอยู่บังเอิญถูกพระขนิษฐาลี่หยางได้ยินเข้า

ต่อให้เป็นแค่บางส่วน นางพอฟังก็จะเข้าใจทันที เข้าใจอย่างลึกซึ้ง

กระนั้น ที่กรณีนี้เพิ่มความสลับซับซ้อนเนื่องจากพระขนิษฐาลี่หยาง เพื่อกลบเกลื่อนว่าเรื่องที่เล่าไม่ใช่ตัวนาง จึงอ้างว่าล่วงรู้จากเซี่ยปี้

และเหมยฉางซูรู้ดีว่าเซี่ยปี้เป็นคนของอวี้หวัง ดังนั้น โดยสัญชาตญาณย่อมคิดโยงไปถึงหวงโฮ่ว

แต่สิ่งที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงในตอนนั้นก็คือ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเซี่ยปี้ แต่เป็นแผนการของเซี่ยอวี้บิดาของเซี่ยปี้ต่างหาก

มาถึงตอนนี้เหมยฉางซูก็มองทะลุ ลมหายใจหอบถี่ ขบกรามแน่น

รักษาความเป็นกลางอะไรกัน ไม่สนใจแย่งชิงบัลลังก์อะไรกัน ผู้อื่นไม่ทราบแต่เขาควรชัดเจนที่สุดว่าเซี่ยอวี้เป็นคนเช่นไร เพราะเซี่ยอวี้ทราบดีว่าตัวเองมีความสกปรกแปดเปื้อน ไม่อาจเป็นขุนนางสะอาดบริสุทธิ์

ดังนั้น ในยามที่องค์จักรพรรดิล่วงเข้าวัยชรา เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่ขบคิดถึงอนาคต

เซี่ยปี้สนับสนุนอวี้หวังอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้เท่ากับล่วงเกินรัชทายาท หากวันหนึ่งรัชทายาทประสบผลสำเร็จ ตระกูลเซี่ยไยมิใช่ถึงคราววิบัติ ดังนั้น การรักษาความเป็นกลางภายใต้สภาวะเช่นนี้กลับไม่มีความหมายใดๆ ทั้งสิ้น

ด้วยสติปัญญาของเซี่ยอวี้ ไหนเลยจะกระทำเรื่องที่ไม่เกิดประโยชน์

อันตรายที่แท้จริงไม่ใช่ตำหนักเจิ้งหยางของหวงโฮ่ว แต่เป็นตำหนักเจาเหรินของเยว่กุ้ยเฟย พระมารดาผู้ให้กำเนิดองค์รัชทายาท

นี่คือความสลับซับซ้อนของสถานการณ์

 

ถามว่าเหมยฉางซูจะคลี่คลายสถานการณ์จากที่ตกเป็นฝ่ายรับของหนีหวงจวิ้นจู่ให้คลี่คลายออกจากความเลวร้ายได้อย่างไร

นี่คือโจทย์อันรีบด่วนอย่างยิ่งสำหรับเหมยฉางซู