“โรงไฟฟ้า-ธรรมกาย”วีรบุรุษสะพาน“ชมัยฯ” บทบาท“บิ๊กแดง”สายตรง“บิ๊กตู่”บทบุ๋น“บิ๊กเจี๊ยบ”กับสัญญาณที่ทัพเรือ

จาก “โรงไฟฟ้า” ถึง “ธรรมกาย” วีรบุรุษสะพาน “ชมัยฯ” บทบาท “บิ๊กแดง” สายตรง “บิ๊กตู่” บทบุ๋นของ “บิ๊กเจี๊ยบ” กับสัญญาณที่ทัพเรือ

กลับมาถูกโฟกัสอีกครั้ง ตั้งแต่มีชื่อปรากฏในโซเชียล ว่า บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. จะใช้มาตรา 44 ออกคำสั่งให้ทหารบุกวัดพระธรรมกาย

เพราะได้เกิดทั้งกระแสเชียร์ และกระแสโจมตี บิ๊กแดง พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 เกิดขึ้นพร้อมๆ กัน

บรรดากองเชียร์ทหาร กองเชียร์ คสช. ก็ยินดีปรีดาที่ พล.อ.ประยุทธ์ เอาจริง ด้วยการส่งน้องรักอย่าง พล.ท.อภิรัชต์ มาคุมทหารเอง

แต่ถึงเวลาจริงๆ คำสั่งหัวหน้า คสช. มอบให้ อธิบดีกรมสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และตำรวจ เป็นกำลังหลักในการบังคับใช้กฎหมาย ส่วนทหารอยู่แค่รอบนอกเท่านั้น

ทั้งนี้ เพื่อป้องกัน “มือที่สาม” เข้าแทรกแซง หรือสร้างสถานการณ์ รวมทั้งในกรณีที่ตำรวจเอาไม่อยู่

แต่ในส่วนของกำลังทหารนั้น พล.อ.ประยุทธ์ มอบให้ พล.ท.อภิรัชต์ ในฐานะที่เป็น ผบ.กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 1 ของ คสช. รับผิดชอบ

พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ และ พล.ต.ธรรมนูญ วิถี

โดย พล.ท.อภิรัชต์ ได้มอบหมายให้ บิ๊กหนุ่ย พล.ต.ธรรมนูญ วิถี รองแม่ทัพภาคที่ 1 น้องรักบูรพาพยัคฆ์อีกคนของนายกฯ บิ๊กตู่ ทำหน้าที่แทน ในการร่วมเป็นกองบัญชาการควบคุม ร่วมกับตำรวจและดีเอสไอ ที่วัดพระธรรมกาย

เช่นเดียวกับตอนที่กองทัพภาคที่ 1 เป็นกำลังหลัก ในกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย บริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง (กอร.รส.) ที่สนามหลวง พล.ท.อภิรัชต์ ก็มอบหมายให้ 3 รองแม่ทัพภาคที่ 1 แบ่งงานกันรับผิดชอบสนามหลวง

ทั้ง บิ๊กโอ พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ บิ๊กหนุ่ย พล.ต.ธรรมนูญ วิถี และ บิ๊กติ่ง พล.ต.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ ที่หมุนเวียนกันไปดูแล และอยู่โยงสนามหลวง โดยมี พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ พี่ใหญ่ ตท.20 เป็นหลัก

เหตุผลคือ ต้องการให้น้องๆ ได้โชว์ฝีมือ แสดงผลงาน เพราะจะต้องนั่งเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 คนต่อไป หรือในอนาคต

อีกทั้ง พล.ท.อภิรัชต์ ก็มีภารกิจมากมาย ไม่อาจมานั่งที่สนามหลวงได้ตลอด

แต่ที่วัดพระธรรมกายนี้ พล.ท.อภิรัชต์ ก็มาร่วมประชุม และมาติดตามสถานการณ์ด้วยตนเองอยู่เป็นระยะๆ แต่จะไม่พยายามปรากฏตัวให้เป็นข่าวเช่นเดียวกับ พล.ต.ธรรมนูญ ก็งดให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อ

ทั้งนี้เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ต้องการให้มีภาพของทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการยึดคืน “วัดพระธรรมกาย” เพราะโดยหน้าที่แล้วทหารอยู่แค่รอบนอกเท่านั้น

แต่เป็นที่ทราบกันดีว่า ดีเอสไอและตำรวจ ทำงานภายใต้อำนาจมาตรา 44 และภายใต้ คสช. ที่ก็มีฝ่ายทหารร่วมวางแผนและตัดสินใจ

เพราะมีรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ สายตรงถึง พล.ท.อภิรัชต์ และ พล.ต.ธรรมนูญ เสมอๆ ด้วยความเป็นห่วงต่อสถานการณ์

แต่คนที่มีบทบาทสำคัญอีกคนคือ บิ๊กเจี๊ยบ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ในฐานะเลขาธิการ คสช. ที่มีส่วนทำให้การใช้กำลังของตำรวจ เป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป

“คนบังคับใช้กฎหมาย ถ้าไม่คิดอะไร มันง่าย แล้วใช้กำลังบุกเข้าไปเลย ก็มีปะทะ เสียเลือดเนื้อ”

“ดังนั้น บางครั้งเราอาจจะต้องยอมเสียเวลา แต่จะไม่ยอมให้มีการเสียเลือดเนื้อ หรือเสียชีวิต” พล.อ.เฉลิมชัยกล่าว

นี่จึงทำให้ปฏิบัติการปิดล้อม และยึดวัดพระธรรมกาย จึงไม่ได้ใช้รูปแบบ “รวดเร็ว รุนแรง เด็ดขาด” แบบทหารม้า แต่ทว่า จะใช้สไตล์รบพิเศษ ที่ เป็น “พลังเงียบ เฉียบขาด” ของบิ๊กเจี๊ยบ

จนทำให้ในช่วงนี้ พล.อ.เฉลิมชัย ออกตัวว่า เปลี่ยนจากการเป็นนายทหารนักรบสายบู๊ มาเป็นสายบุ๋นแล้ว เพราะมีการใช้ความคิดความอ่าน

ด้วยเพราะจากกรณีวัดพระธรรมกาย แล้ว พล.อ.เฉลิมชัย ต้องเตรียมทำหน้าที่ประธานคณะอนุกรรมการร่างข้อเสนอ เพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง หรือร่างสัญญาประชาคม ที่อาจจะต้องมีการคุยนอกรอบ เพื่อเคลียร์กันเสียก่อน

AFP PHOTO / MUNIR UZ ZAMAN

ในสถานการณ์เช่นนี้ พล.ท.อภิรัชต์ จึงยิ่งเป็นที่จับตามอง โดยเฉพาะเมื่อได้รับมอบหมายจากนายกฯ ให้เป็นคนไปเจรจากับแกนนำต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ที่ถูกคุมตัวที่ มทบ.11 จนที่สุด นำมาซึ่งการปล่อยตัว 5 แกนนำ และการที่นายกฯ ยอมถอย ในการให้ทบทวนและศึกษาผลกระทบของโครงการใหม่

โดยที่ พล.ท.อภิรัชต์ มาพบปะพูดคุยกับมวลชนหน้าทำเนียบรัฐบาลด้วยตนเอง เพื่อชี้แจงแทน พล.อ.ประยุทธ์ ที่มีเจตนาที่จะสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน

“แต่นายกฯ ท่านเป็นคนที่ฟังเสียงประชาชน ท่านจึงให้มีการพิจารณาใหม่” บิ๊กแดงกล่าว

แล้วที่สำคัญ ด้านการข่าวพบว่า มีความพยายามของบางกลุ่มการเมือง ที่จะเข้ามาแทรกแซง เพื่อหวังผลทางการเมือง ซึ่งบรรดามวลชนก็ไม่ต้องการที่จะเป็นเครื่องมือทางการเมืองของกลุ่มใดๆ

ที่สะพานชมัยมรุเชษฐ์ วันนั้น 19 กุมภาพันธ์ 2560 พล.ท.อภิรัชต์จึงกลายเป็นวีรบุรุษ สำหรับพี่น้องมวลชนที่ต่อต้านโรงไฟฟ้า ไปโดยพลัน

โดยเฉพาะประโยคที่มีการแชร์กันในหมู่แกนนำและมวลชน ว่า “ถ้ารัฐบาลเบี้ยว พี่จะออกตังค์ให้น้องขึ้นมาใหม่”

แม้ว่า พล.ท.อภิรัชต์ จะออกตัวในภายหลังว่า ไม่ได้พูดเช่นนั้นก็ตาม แต่ทว่า เขาก็กลายเป็นขวัญใจมวลชนไปแล้ว

บทบาทของ พล.ท.อภิรัชต์ จากกรณีวัดพระธรรมกาย มาจนถึงโรงไฟฟ้าถ่านหิน จึงเป็นการสะท้อนถึงความไว้วางใจ ที่นายกฯ มีต่อบิ๊กแดง และเชื่อมือน้องรักคนนี้มาตลอด

นี่จึงทำให้คนในกองทัพ โดยเฉพาะ ทบ. จึงยิ่งพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เขาคือ ผบ.ทบ.คนต่อไป ที่ พล.อ.ประยุทธ์ วางตัวไว้

หากว่า ในปลายปี 2561 เมื่อ พล.อ.เฉลิมชัย เกษียณราชการ วันนั้น ในรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง ยังมีนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ว่าจะในฐานะนายกฯ คนนอก นายกฯ รับเชิญ ของรัฐบาลปรองดองแห่งชาติ

แต่ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงถึงขั้นที่พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งแล้วเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ก็ย่อมส่งผลต่ออนาคตของ พล.ท.อภิรัชต์ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“ไม่ได้กลัวเปลืองตัวอะไร เพราะก็ทำงานเต็มที่มาตลอด ก็โดนมาตลอดเหมือนกัน เหลือเวลาอีก 3 ปีที่เหลือ จะโดนโจมตี โดนอะไรอีก ก็ไม่เป็นไรแล้ว” พล.ท.อภิรัชต์กล่าว

แต่ทั้งนี้ การทำหน้าที่ต่างๆ ที่ได้รับมอบหมายทุกครั้ง ไม่ได้หวังว่าจะต้องสร้างผลงาน หรือหวังที่จะเป็นอะไร

“เป็นมาถึงแค่นี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว ไม่ได้คิดว่าจะต้องเป็นอะไร ทำงาน ทำหน้าที่ ที่ผู้บังคับบัญชามอบหมายให้ดีที่สุด” พล.ท.อภิรัชต์กล่าว

แม้ ทบ. จะเห็นภาพชัดเจนขึ้น ว่าใครจะขึ้นมาเป็นผู้นำกองทัพในช่วงเปลี่ยนผ่านทางการเมืองกันแล้ว

แต่ข้ามฟากไปที่กองทัพเรือ บิ๊กณะ พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ ก็พยายาม “เก็บอาการ” ไม่แสดงให้เห็นว่าได้แอบเลือกใครไว้ในใจ ที่จะให้เป็น ผบ.ทร.คนใหม่ ก็ตาม

แต่ในกองทัพเรือ กลับมีเสียงร่ำลือกันหนาหูว่า แม่ทัพเรือในใจบิ๊กณะ ก็คือ บิ๊กนุ้ย พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ ผช.ผบ.ทร. นั่นเอง

ด้วย พล.ร.อ.ณะ ยึด “ระบบคุณธรรม” ที่ส่วนหนึ่งจะพิจารณาตามอาวุโส ที่ถือว่า พล.ร.อ.นริส อาวุโสสูงกว่า

แม้ว่าก่อนหน้านี้ ชื่อของ บิ๊กลือ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ เสนาธิการทหารเรือ จะมาแรงก็ตาม

แต่ด้วยเพราะ พล.ร.อ.ลือชัย ซึ่งเป็น ตท.18 มีอายุราชการยาวนานถึงกันยายน 2563 หากขึ้นเป็น ผบ.ทร. ในโยกย้ายกันยายนนี้ แล้วนั่งยาว 3 ปี ก็จะเป็นการปิดทางนายทหารรุ่นพี่ ตั้งแต่ ตท.16 และ ตท.17 รวมทั้ง ตท.19 ที่มีอายุราชการถึง 2562 และ 2563 ก็หมดความหวังกันไปเป็นแถว

อาจกล่าวได้ว่า กองเชียร์ พล.ร.อ.ลือชัย จึงน้อยกว่ากองเชียร์ของ พล.ร.อ.นริส

“เป็น ผบ.ทร. ได้ทุกคน ขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชาจะตัดสินใจ แต่ผมก็จะเสนอชื่อคนที่เหมาะสมขึ้นไป” บิ๊กณะเผย

ด้วยความที่ พล.ร.อ.ณะ ไม่ได้แสดงออกให้เห็นว่าใกล้ชิดสนิทสนม หรือเลิฟๆ ใครมากกว่าใคร จึงทำให้บรรยากาศในกองทัพเรือผ่อนคลาย

“กองทัพเรือเราอยู่กันแบบพี่น้องนะ จะเห็นว่าทุกคนทำงานด้วยกัน ทำงานให้กองทัพเรืออย่างเต็มที่ ไม่มีความขัดแย้ง แข่งขัน แย่งชิงอะไรกัน ผมถึงรู้สึกสบายใจ” พล.ร.อ.ณะ กล่าว

แต่ตราบใดที่ยังไม่มีการแต่งตั้งออกมา ทุกคนก็ยังมีความหวัง เพราะยิ่งเมื่อ บิ๊กโชย พล.อ.กัมปนาท รุดดิษฐ์ อดีต ผช.ผบ.ทบ. พี่ชายแท้ๆ ของ พล.ร.อ.ลือชัย ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นองคมนตรีด้วยเล้ว ก็ถูกมองว่าจะช่วยเป็นแรงหนุนสำคัญให้น้องชายด้วย

แต่ก็อย่าลืมว่า พล.อ.กัมปนาท นั้นก็เป็นเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร 16 กับ พล.ร.อ.นริส ด้วยเช่นกัน อีกทั้งพลังของเตรียมทหาร 16 ก็ยังมีอยู่ ที่อาจจะทำให้ พล.ร.อ.ลือชัย ต้องร้องเพลงรอต่อไปก่อน

พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ (คนที่ 2 จากด้านขวา)

ท่ามกลางข่าวสะพัดที่ว่า บิ๊กณะมักจะพูดในหลายวงสนทนาว่า “ผมไม่จำเป็นต้องสร้างทายาท แต่เลือกคนที่เหมาะสมที่สุดให้กองทัพ และกำลังพลของ ทร.”

รวมถึงการที่เคยเชิญ พลเรือเอก 5 คนใน ทร. ที่มีสิทธิ์ชิงเก้าอี้ ผบ.ทร. ไปพบเป็นการส่วนตัว เพื่อมอบหมายงานก่อนหน้านี้ ก็ถูกมองว่าเป็นการให้ทุกคนมีความหวัง ด้วยการให้ทำงานอย่างเต็มที่

แต่ที่มองกันว่า เป็นดัชนีชี้วัด คือการที่ พล.ร.อ.ณะ มอบหมายให้ พล.ร.อ.นริส รับผิดชอบ เตรียมการ สำหรับการสวนสนามทางเรือนานาชาติ หรือ Fleet Review ในเดือนพฤศจิกายน 2560 นี้ ที่จะมีเรือจากอาเซียนและมิตรประเทศต่างๆ รวมกว่า 30 ลำ มาร่วมอวดธง และจะมีการประชุม ผบ.ทร.อาเซียนด้วย

นี่จึงถูกมองว่า พล.ร.อ.ณะ ต้องการให้ พล.ร.อ.นริส เตรียมตัวในการรับงาน สานต่องานสำคัญ นี้หรือไม่

ไม่แค่นั้น หากมองไปที่หลังบ้านทหารเรือแล้ว คุณแมว ปรานี อารีนิจ ก็มีความสนิทสนมกับ คุณเก๋ เกสรา ประทุมสุวรรณ ภริยาของ พล.ร.อ.นริส อย่างมาก

รวมทั้งการแสดงออกหลายๆ อย่างของ พล.ร.อ.ณะ ก็ทำให้คนในกองทัพเรือ มีความเชื่อเอนเอียงไปเช่นนั้น

แต่ใครจะไปรู้ว่า ในที่สุด พล.ร.อ.ณะ แม่ทัพเรือ ที่เห็นนิ่งๆ เงียบๆ ไม่ค่อยพูดคนนี้ ที่สุดแล้ว จะกลายเป็นฉลาม ลับลวงพราง ก็เป็นได้

ทุกอย่าง ทุกเรื่อง มีเริ่มต้น ก็ย่อมมีตอนจบ…ซึ่งอีกไม่นานก็จะได้รู้ตอนจบของทุกเรื่อง และทุกคน

อยู่ที่ว่า จะเป็นตอนจบที่ แฮปปี้ เอนดิ้ง หรือว่า เป็นจุดจบ แค่นั้นเอง…