ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 27 ธันวาคม 2562 - 2 มกราคม 2563 |
---|---|
คอลัมน์ | คนของโลก |
เผยแพร่ |
อัชราฟ กานี ประธานาธิบดีอัฟกานิสถาน กำลังจะสามารถยึดเก้าอี้เอาไว้ได้เป็นสมัยที่สองในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา
กานีแถลงกับสถานทีโทรทัศน์ท้องถิ่น ตะโกนโห่ร้องโดยมีรองประธานาธิบดีทั้งสองคนอย่าง “อัมรุลลาห์ ซาเลห์” อดีตผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรอง และ “ซาร์วาร์ แดนิช” หนึ่งในสองรองประธานาธิบดีอัฟกานิสถานในปัจจุบันยืนเคียงข้าง พร้อมประกาศชัดถ้อยชัดคำว่า
“รัฐบาลที่ควรค่ากับประเทศที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้จะถูกสร้างขึ้น” กานีระบุ
ด้านคู่แข่งอย่างอับดุลลาห์ ประกาศว่าจะยื่นคำร้องให้ตรวจสอบคะแนนเสียงใหม่อีกครั้ง ก่อนหน้าที่ผลคะแนนอย่างเป็นทางการซึ่งคาดว่าอาจกินเวลานานเป็นสัปดาห์จึงจะประกาศอย่างเป็นทางการ
ซึ่งก็ยังไม่แน่ว่าจะเป็นการตรวจสอบที่ยืดเยื้อหรือไม่ หลังจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2014 สหรัฐต้องเข้ามาเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ย เป็นคนกลางในการจัดสรรและแบ่งอำนาจกัน ระหว่างกานีและอับดุลลาห์ ดำรงตำแหน่งประธานธิบดี และประธานบริหารประเทศ ตามลำดับ
ตลอดช่วงเวลาดำรงตำแหน่ง กานีประสบปัญหาในการร่วมมือกับอับดุลลาห์ ช่วงเวลาเดียวกันกับที่กองกำลังต่างชาติส่วนใหญ่ถอนตัวออกจากประเทศไปตั้งแต่ปี 2014
รวมไปถึงเป็นช่วงเวลาที่กลุ่มทาลิบันกลับมามีอิทธิพลและเคลื่อนไหวก่อเหตุก่อการร้ายมากขึ้นอีกครั้ง นำไปสู่การเจรจากสันติภาพระหว่างสหรัฐอเมริกาและกลุ่มทาลิบัน ที่เวลานี้ยังคงลุ่มๆ ดอนๆ ขณะที่รัฐบาลอัฟกานิสถานของกานีถูกกลุ่มทาลิบันกันออกจากวงเจรจาเนื่องจากถูกมองว่าเป็นเพียงหุ่นเชิดของสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
ระหว่างบริหารประเทศ กานีออกนโยบายต่อต้านการทุจริตหลายนโยบาย แต่ไม่มีความก้าวหน้ามากนัก จนส่งผลให้สหรัฐอเมริกาประกาศระงับเงินโครงการด้านพลังงานมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐลง ด้วยเหตุผลว่ามีการทุจริตในระดับสูงจนไม่สามารถยอมรับได้
สําหรับ “กานี” นั้น เป็นประธานาธิบดีที่ได้ชื่อว่าเป็นนักวิชาการที่มีชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในต่างประเทศ แต่เลือกที่จะกลับบ้านเกิดเพื่อเติมเต็มความฝันเพื่อสร้างประเทศขึ้นใหม่อีกครั้ง
นักการเมืองวัย 70 ปีที่กลุ่มผู้สนับสนุนเรียกด้วยฉายา “กานีบาบา” โดย “บาบา” นั้นมีความหมายว่า “พ่อ” เกิดในจังหวัดโลการ์ เป็นนักมานุษยวิทยา นักวิชาการ และเป็นอดีตพนักงานของธนาคารโลก
กานีตัดสินใจเดินทางออกจากประเทศอัฟกานิสถานตั้งแต่ปี 1977 ไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา และทำงานเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกาหลายมหาวิทยาลัย เวลาเดียวกันกับที่สหภาพโซเวียตยึดครองอัฟกานิสถานในช่วงทศวรรษที่ 80
ปลายปี 2001 หลังจากกลุ่มทาลิบันถูกสหรัฐอเมริกาบุกกวาดล้าง หลังเหตุการณ์ก่อการร้ายวันที่ 11 กันยายน กานีตัดสินใจเดินทางกลับประเทศบ้านเกิดหลังจากไปนานถึง 20 ปี ในฐานะเจ้าหน้าที่อาวุโสที่ปรึกษาพิเศษองค์การสหประชาชาติ ก่อนจะกลายเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลขึ้น
กานีกลายเป็นรัฐมนตรีคลังผู้มีอิทธิพลในระดับสูง ภายใต้ประธานาธิบดีฮามิด คาร์ไซ นับตั้งแต่ปี 2002 ถึงปี 2004 และรณรงค์เรื่องการต่อต้านการทุจริตที่เกาะกินในวงการการเมืองทุกหย่อมหญ้า
กานีผู้ที่มีบุคลิกที่จริงจังและเต็มไปด้วยพลัง ประกาศเงินสกุลใหม่ให้กับประเทศ จัดตั้งระบบภาษี และสนับสนุนให้ชาวอัฟกานิสถานที่ร่ำรวยในต่างประเทศให้กลับสู่บ้านเกิดในช่วงเวลาที่ประเทศฟื้นจากยุคที่ปกครองอย่างเข้มงวดโดยกลุ่มทาลิบัน
กานีลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2014 แม้จะมีคะแนนตามหลังคู่แข่งอย่างอับดุลลาห์ในการเลือกตั้งรอบแรกที่ 31.6 เปอร์เซ็นต์ ต่อ 45 เปอร์เซ็นต์ แต่ในการเลือกตั้งรอบสอง ซึ่งแม้จะมีการกล่าวหาเรื่องโกงเลือกตั้งอย่างมากมาย กานีก็ชนะไปอย่างสบายๆ ด้วยคะแนน 55 เปอร์เซ็นต์ ต่อ 45 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตาม กานีต้องตั้งรัฐบาลร่วมกับอับดุลลาห์ ในชื่อ “National Unity Government” ในการแบ่งอำนาจซึ่งมีสหรัฐอเมริกาเป็นคนกลาง และบริหารประเทศจนถึงการเลือกตั้งครั้งปัจจุบัน
หากได้รับการรับรองผลการเลือกตั้ง กานียังคงยืนยันที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมกับการเจรจากกับกลุ่มก่อการร้ายในอนาคต
และกานี คุณพ่อลูก 2 ยืนยันว่า หากการเจรจาที่ว่านั้นล้มเหลว ตนก็ประกาศจะต่อสู้ให้ถึงที่สุดหากแม้ต้องใช้เวลาชั่วอายุคนก็ตาม