คนของโลก : เคลาส์ อิโอฮานิส ประธานาธิบดีโรมาเนียสมัยที่ 2

เคลาส์ อิโอฮานิส ผู้ที่ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีโรมาเนียเป็นสมัยที่สอง ด้วยคะแนนเสียงถล่มทลายเมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา พูดถึงตัวเองในฐานะ “นักดับเพลิงผู้พิทักษ์โรมาเนียจากความล่มสลาย”

อดีตอาจารย์สอนฟิสิกส์ ที่รู้จักกันในนาม “เดอะเยอรมัน” จากชาติพันธุ์ที่สืบเชื้อสายจากบรรพบุรุษ ใช้อำนาจในตำแหน่งประธานาธิบดีที่มีอยู่อย่างจำกัด สนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านการทุจริตในประเทศ และสร้างสัมพันธ์อันดีกับสหรัฐอเมริกามาโดยตลอด

แม้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นผู้ที่มักหลบเลี่ยงการดีเบต รวมไปถึงขาดเสน่ห์

แต่ด้วยความไม่พอใจที่ประชาชนมีกับพรรครัฐบาลอย่างพรรคสังคมประชาธิปไตย (พีเอสดี) ส่งผลให้นักการเมืองวัย 60 ปีได้รับชัยชนะเหนืออดีตนายกรัฐมนตรี “ไวโอริกา ดันซิลา” ไปได้

 

5ปีแรกในการดำรงตำแหน่งของอิโอฮานิส ผู้ที่ได้รับชัยชนะอย่างเหนือความคาดหมาย เหนือตัวเต็งจากพรรคพีเอสดีอีกคน ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2014 เป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งกับพรรคพีเอสดี พรรคปีกซ้ายที่ครองอำนาจตั้งแต่สิ้นสุดยุคคอมมิวนิสต์

อิโอฮานิสเป็นประธานาธิบดีที่มักจะปฏิเสธแนวคิดนโยบายของพรรคพีเอสดีมากมายหลายเรื่อง โดยเฉพาะความพยายามในการยกเลิกกฎหมายเกี่ยวกับการทุจริตบางอย่าง

อิโอฮานิสกลายเป็นประธานาธิบดีที่ออกตัวสนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วงจำนวนนับแสนคน รวมไปถึงสหภาพยุโรป ที่แสดงออกต่อต้านนโยบายการปฏิรูปกฎหมายดังกล่าวของพรรครัฐบาลโรมาเนีย

ในการหาเสียงรอบสุดท้ายก่อนหน้าการลงคะแนนเสียงในวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา อิโอฮานิสให้คำมั่นในการกวาดล้างหน่วยงานและองค์กรที่มีการคอร์รัปชั่นในประเทศ ด้วยความช่วยเหลือจากรัฐบาลใหม่ที่จะนำโดยพรรคเสรีนิยมแห่งชาติ (พีเอ็นแอล) พรรคที่อิโอฮานิสเคยเป็นหัวหน้าพรรค

“โรมาเนียธรรมดาๆ ที่เป็นยุโรป และทันสมัยได้รับชัยชนะในวันนี้” อิโอฮานิสระบุกับผู้สื่อข่าวหลังจากได้รับชัยชนะ

 

อิโอฮานิสเป็นประธานาธิบดีที่มีความสัมพันธ์อันดีกับโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ มีโอกาสเดินทางเยือนทำเนียบขาวมาแล้ว 2 ครั้ง และได้รับยกย่องจากทรัมป์ในฐานะ “ผู้ที่สามารถแก้ปัญหาทุจริตในโรมาเนียได้”

“อิโอฮานิสเป็นสะพานเชื่อมในการสื่อสารกับพันธมิตร ในช่วงเวลาที่การให้คุณค่าแบบตะวันตกของโรมาเนียถูกตั้งข้อสงสัย” คริสเตียน เดียโคเนสคู อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศโรมาเนียระบุ

อย่างไรก็ตาม แม้แต่ผู้สนับสนุนอิโอฮานิสเองบางครั้งยังวิพากษ์วิจารณ์ว่า อิโอฮานิสไม่หนักแน่นเพียงพอ โดยเฉพาะการตกอยู่ภายใต้แรงกดดันและเปิดทางให้มีการปลดพนักงานอัยการผู้ทำคดีทุจริตออกจากตำแหน่ง

อิโอฮานิสมักถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าขาดเสน่ห์ และเป็นคนที่พูดในที่สาธารณะไม่เก่ง ส่งผลให้ตลอดเทอมแรก อิโอฮานิสปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์เชิงลึกกับสื่อใดๆ

ในช่วงการหาเสียง อิโอฮานิสถูกโจมตีจากฝ่ายตรงข้ามอย่างหนัก เมื่อเขาปฏิเสธที่จะขึ้นเวทีดีเบตกับอันซิลา คู่แข่งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในครั้งนี้

“ผมไม่สามารถตอบรับการดีเบตกับบุคคลที่เป็นตัวแทนการเมืองโรมาเนียที่แย่ที่สุดในช่วง 30 ปีที่ผ่านมาได้” อิโอฮานิสระบุ

 

อิโอฮานิสยินดีที่จะจัดการแถลงข่าว รวมไปถึงตอบคำถามจากผู้สื่อข่าว และยึดแนวทางการรณรงค์หาเสียงที่มักจะถูกรายล้อมไปด้วยพันธมิตรจากพรรคพีเอ็นแอล

อิโอฮานิสเคยต้องเผชิญกับความอับอายก่อนหน้านี้ จากการถูกถามเกี่ยวกับความร่ำรวย โดยเฉพาะการเป็นเจ้าของบ้านถึง 6 หลังด้วยกัน

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนหน้าที่อิโอฮานิสจะได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีโรมาเนียสมัยแรก โดยผู้สื่อข่าวถามคำถามว่า เพราะเหตุใดอาจารย์คนอื่นๆ ถึงไม่สามารถมีบ้านได้ถึง 6 หลัง โดยอิโอฮานิสเลือกที่จะตอบว่า มันคงเป็นความ “โชคร้าย” ของพวกเขา

ก่อนหน้านี้อิโอฮานิสเป็นนายกเทศมนตรีเมืองซีบิว เมืองบ้านเกิดตอนกลางของโรมาเนีย เมืองซึ่งเป็นที่อาศัยของชนกลุ่มน้อยที่มีเชื้อสายเยอรมันจำนวนหนึ่ง เป็นเวลายาวนานถึง 14 ปี

โดยในช่วงหลังการล่มสลายของคอมมิวนิสต์ บวกกับการที่โรมาเนียเข้าร่วมเป็นชาติสมาชิกสหภาพยุโรปในปี 2007 ชาวโรมาเนียที่มีเชื้อสายเยอรมันจำนวนมากเลือกที่จะย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศเยอรมนี และพ่อ-แม่ของอิโอฮานิสก็เป็นหนึ่งในคนกลุ่มนี้

เวลานั้นมีชาวโรมาเนียจำนวนมากถึง 4 ล้านคนที่ตัดสินใจเคลื่อนย้ายไปยังชาติอียูที่ร่ำรวยเพื่อโอกาสที่ดีกว่า

แม้จะมีพื้นเพครอบครัวอย่างที่ว่า แต่อิโอฮานิสเองก็เรียกร้องให้ชาวโรมาเนียกลับสู่ถิ่นเกิด

“ผมเป็นชาวโรมาเนีย…ผมเลือกที่จะอยู่ และผมก็ภูมิใจกับสิ่งนี้” อิโอฮานิสระบุ