จดหมาย/ฉบับประจำวันที่ 22-28 พฤศจิกายน 2562

จดหมาย

0 แฟน “ปิยบุตร”

 

ผมอ่านมติชนสุดสัปดาห์มานานแล้ว

ผมไม่อ่านที่ ดร.วิษณุ เครืองาม เขียนในมติชนสุดสัปดาห์

เพราะหมดความเชื่อถือแล้ว

แต่อ่านของ อ.ปิยบุตร แสงกนกกุล ไม่ว่าท่านเขียนหรืออภิปราย ติดตามมาตลอด

บอกตรงๆ ท่านเหมาะเป็นอาจารย์กฎหมาย อธิบายอะไรก็เข้าใจ

ผมเรียนกฎหมายเบื้องต้นจากอาจารย์ชวลิต ตันไชย ตั้งแต่ปี 2499

ต่อมาติดตามอาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์

รับราชการมาด้วยความราบรื่นจนเกษียณ

“คนไทยเป็นอะไรก็ได้ทุกอย่าง ยกเว้นการเป็นคอมมิวนิสต์”

โปรดอย่ากลัว

ตะวันรอน

อ.ลอง จ.แพร่

 

เพื่อความเป็นธรรมกับ “วิษณุ เครืองาม”

ข้อเขียนของ ดร.วิษณุ ในมติชนสุดสัปดาห์ “ลงเรือแป๊ะ”

บ.ก.ไปขอจากสำนักพิมพ์มติชน นำมาเผยแพร่ให้อ่านบางส่วนเอง

มิได้เป็นความประสงค์โดยตรงของ ดร.วิษณุ

อนึ่ง การชื่นชอบ อ.ปิยบุตร และอนาคตใหม่

ส่วนใหญ่มักจะบอกว่าเป็นคนรุ่นใหม่

แต่ระดับ “ตะวันรอน” และ “ธานินทร์ ฝั่งพิมาย”

ล้วนต้องถือว่าอยู่ในรุ่นอาวุโส

แสดงว่า อาวุโส หัวใจรุ่นใหม่ ก็มีไม่น้อย!

 

0 หนาวที่ใต้

 

เหตุการณ์ร้ายแรงในพื้นที่ชายแดนใต้

ยังคงตอกย้ำให้สังคมไทยตื่นตระหนก-ตกอยู่ในภาวะวังเวงอ้างว้างขาดที่พึ่ง

จะหวังให้ใครมาช่วยปัดเป่าเยียวยาก็ดูเหมือนว่าชีวิตนั้นได้จมอยู่ในความมืดมนอนธการเสียแล้ว

ถ้อยคำปลอบประโลมจากผู้ห่วงใยในความเป็นไปของพี่น้องชาวใต้จึงมีคุณค่าให้รักษาชีวิตอยู่อย่างเข้มแข็งและดำเนินต่อไปอย่างสันติอดทนตามหลักคำสอนแห่งศาสนา

ซึ่งเมื่อประเมินความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินที่พี่น้องชาวใต้ได้ประสบในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา

จะเห็นได้ว่าการแก้ปัญหาความรุนแรงด้วยยุทธศาสตร์การปราบปรามโดยการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ทางการทหารนั้นไม่เป็นผลให้เกิดความสงบราบคาบได้อย่างมีเสถียรภาพมั่นคงยืนยาว

ระยะกาลที่ผ่านมาสังคมจึงมีความคลางแคลงใจ

ไม่เชื่อถือว่ารัฐบาลมีความมุ่งหวังจริงจังในกลยุทธ์

และจะต้องทุ่มเทงบประมาณในการจัดจ้างจัดซื้ออาวุธไปอีกมากมายมหาศาลเพียงใดจึงจะสามารถกอบกู้สถานการณ์ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้กลับคืนสู่ความสงบเรียบร้อยได้ในเร็ววัน

ด้วยความหวังของประชาชนแต่ไหนแต่ไรมานั้นฝากฝังไว้กับฝ่ายความมั่นคงของประเทศภายใต้การกำกับดูแลของแม่ทัพภาค-ผบ.ทบ.-รมว.กลาโหมและนายกรัฐมนตรี

ซึ่งเป็นเรื่องยากที่ตำแหน่งดังกล่าวจะทำงานได้สอดคล้องต้องกันอย่างมีเอกภาพ

เพราะบางรัฐบาลผู้นำกองทัพกับผู้นำรัฐบาลอยู่กันคนละขั้วการเมือง

การขบเหลี่ยม-ไม่นำพาต่อภาระหน้าที่ของกองทัพจึงมีให้เห็นในยุคสมัยที่รัฐบาลมาจากเสียงส่วนใหญ่ในการเลือกตั้งของประชาชน

…มาเบ็ดเสร็จเด็ดขาดอำนาจรวมเป็นหนึ่งก็ช่วงห้าปีที่ผ่านมานี่แหละ

ที่นายกรัฐมนตรี, รมว.กลาโหม, รมว.มหาดไทย-แต่ละท่านได้ผ่านตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกมาด้วยกันอย่างเจนจบครบถ้วนกระบวนยุทธ์-อุปถัมภ์ค้ำชูผนึกแน่นเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว

แถมยังมีกล่องดวงใจเป็นเด็กในคาถาอย่าง ผบ.ทบ. ที่คอยให้การสนับสนุนกองกำลังหลัก

ซึ่งคงไม่มี พ.ศ.ไหนในประวัติศาสตร์ชาติไทยที่ฝ่ายความมั่นคงของประเทศจะทรงพลานุภาพในการเอื้ออำนวยช่วยเหลือให้พี่น้องประชาชนชายแดนใต้ได้ดำรงชีวิตอยู่อย่างสงบเป็นปกติสุขเท่ากับยุคสมัยของรัฐบาล คสช.นี้อีกแล้ว

…ครั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์ลอบยิงชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน ต.ลำพะยา จ.ยะลา เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา

จึงทำให้บรรยากาศการอยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์ปรองดองในบ้านเมืองเรานั้นอึมครึมวังเวง

หนาวเย็นเยียบ…

สงกรานต์ บ้านป่าอักษร

 

หนาวที่เหนือ

แต่ยะเยียบที่ใต้

คนไทยทุกภาค

ดูจะรู้สึกร่วมกับ “สงกรานต์ บ้านป่าอักษร”