การแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของผู้แทนราษฎรไทย
ที่สร้างความฮือฮาอย่างมาก
คงไม่มีใครเทียบ นายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังไทยรักไทย ที่แจ้งว่ามีทรัพย์ชิ้นหนึ่ง มูลค่าสูงถึง 700 ล้านบาท
คือ เหล็กไหลช่อ หรือ โคตรเหล็กไหล
ใครครอบครอง ถ้าบูชาขออะไรก็จะได้
แต่ ถูกตั้งคำถาม จากคนภายนอกว่า เป็นการสร้างมูลค่าลวงขึ้นมาหรือไม่
โดยอาจใช้เป็นข้ออ้างในการฟอกเงินเพื่อผ่องถ่ายทรัพย์สินแบบหลอกๆ
แต่นายคฑาเทพ ยืนยันความศักดิ์สิทธิ์
และที่ ส้มหล่นได้เป็นส.ส.มาจากความศักดิ์สิทธิ์ของ โครตเหล็กไหล นี้แน่นอน

ถ้าโคตรเหล็กไหล มีพลานุภาพเช่นนั้นจริง
แกนนำในพรรคพลังประชารัฐ(ฟปชร.)ย่อมมองตาเป็นมัน
อยากไป ขอ ส.ส. มาเพิ่มในฟากฝ่ายตนที่ขณะนี้ “ปริ่มน้ำ” อย่างน่ากลัว
แต่ โคตรเหล็กไหลคงพิสูจน์ความศักดิ์สิทธิ์เป๊ะๆไม่ได้
การดูด ส.ส. จึงต้องใช้วิธีอื่น
ซึ่งก็มีอยู่หลายทาง
และตอนนี้ ออกปฏฺบัติการหลายปฏิบัติการ

จนมีปฏิกิริยาไม่พอใจอย่างรุนแรงจากคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และแกนนำ
โดยแฉว่ามีความพยายามทำมาหลายครั้ง พยายามใช้เงิน ข่มขู่เรื่องคดี
เสนออามิสสินจ้าง
ถือเป็นความพยายามอยู่ทุกวี่ทุกวันของรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ที่ได้มาด้วยความพิกลพิการ
“โชคดีที่คนของพรรคเพื่อไทยมีอุดมการณ์ ไม่ทรยศประชาชนและเล่าให้ฟังหมด”
“พรรคได้รวบรวมคลิปเสียง รวบรวมหลักฐาน ขออนุญาตยังไม่เปิดเผยรายละเอียดตอนนี้ โดยจะใช้หลักฐานเหล่านี้ดำเนินการ เพราะคนที่มาเสนอเงินให้ ส.ส.นั้นมีความผิด หากมีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นอีกจะมี ส.ส.พร้อมจะช่วยดำเนินการ”คุณหญิงสุดารัตน์ย้ำ
การกล่าวหาฝ่ายพรรครัฐบาล ที่ร้ายแรงถึงขนาดทำผิดกฎหมายนั้น
นำไปสู่ “วิวาทะ” ทางการเมืองในทันที

โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ท้าคุณหญิงสุดารัตน์โชว์หลักฐาน คลิปเสียง หรือการจ่ายอามิสสินจ้าง ออกมายืนยัน
ยุทธศาสตร์ของ พปชร. ไม่ได้มีแนวทางที่จะดึงคนจากพรรคอื่นมาร่วมด้วยวิธีการดังกล่าว
“แต่ถ้าเขามา ก็เอา”พล.อ.ประวิตร เปิดทาง
แต่ฟากรัฐบาลวางน้ำหนักจุดยืนที่การปฏิเสธ
อย่างไรก็ตาม ฟากแนวร่วมฝ่ายค้าน ก็ยืนยันว่าถูกดูด
และมั่นใจว่า การดูดยังคงดำเนินต่อไป
จนเป็นวิวาทะการเมือง ที่ไม่น่าจะยุติง่ายๆ
เหมือนดังกรณีข้อถกเถียง”เหล็กไหล”
ว่ามีพลังมหาเสน่ห์ และความศักดิสิทธิ์ จนมีมูลค่า 700 ล้านบาทจริงอย่างที่อวดหรือไม่
—————–