ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต [email protected]

ส่องความคูล ‘มาสด้า 3’ ใหม่

เรียบหรูแฝงอารมณ์สปอร์ต

โหมโรงมาพักใหญ่ๆ กับ “มาสด้า 3” ใหม่ เจเนอเรชั่นล่าสุด

โดยเจนฯ แรกอวดโฉมมาตั้งแต่ปี 2546 ตอนนั้นฉีกทุกปรากฏการณ์ของรถยนต์ในกลุ่ม “ซี-เซ็กเมนต์” ออกแบบได้โฉบเฉี่ยวและสวยหยดติ๋งๆ

ทำให้มาสด้า 3 สร้างกระแสในทุกประเทศที่เปิดตัว กวาดยอดขายทั่วโลกกว่า 6 ล้านคัน ในเมืองไทยกว่า 1 แสนคัน และคว้ารางวัลต่างๆ กว่า 200 รางวัล

เรียกว่าประสบความสำเร็จทั้งเงินและกล่อง

รวมถึงเครื่องยนต์ “สกายแอคทีฟ” ที่ถือว่าเป็นสุดยอดเครื่องยนต์สันดาปจากภายใน สร้างความฮือฮาเพราะให้ทั้งความแรงและประหยัดในเครื่องเดียวกัน

เมื่อ “มาสด้า 3” ใหม่ อวดโฉมในเมืองไทย จึงเรียกเสียงฮือฮาอย่างมาก

 

“มาสด้า 3” ใหม่ เป็นปฐมบทการนำแนวคิดออกแบบ “KODO” รุ่นใหม่มาใช้ ผสานกับ “การเคลื่อนไหวที่เป็นหนึ่งเดียว” (One motion) อย่างง่ายที่สุดในรูปแบบโดยรวม ทิศทางของแสงและเงาสะท้อนได้เคลื่อนที่และสะท้อนไปบนตัวรถ ทำให้เกิดการแสดงออกที่มีความสำคัญ

เป็นต้นแบบของความสง่างาม เรียบหรูเสมือนงานศิลปะ บ่งบอกสไตล์พรีเมียม

รุ่นใหม่นี้ยังมีให้เลือก 2 แบบ คือซีดาน 4 ประตู เน้นความโฉบเฉี่ยว หรูหรา สง่างาม ฝากระโปรงหน้า ห้องโดยสาร และกระโปรงท้ายไหลลื่นจากด้านหน้าไปด้านหลัง ด้วยการเคลื่อนไหวที่เป็นหนึ่งเดียว และทรงพลัง

ส่วนรุ่น 5 ประตู ที่มาสด้าให้นิยามใหม่ว่าเป็นรุ่น “ฟาสท์แบค” มีแนวคิดการออกแบบคือหนักแน่นและเร้าใจ มุ่งเน้นไปที่การสร้างรถที่ดูแข็งแกร่ง และมีเสน่ห์ดึงดูดซึ่งสื่อถึงการแสดงออกที่สดใหม่ของสไตล์ฟาสท์แบค ด้านข้างใช้การสะท้อนแสงที่สร้างการแสดงออกถึงความมีชีวิตชีวา

ออกแบบกระจังด้านหน้าอยู่ในระดับที่ต่ำลง เพิ่มการไหลลื่นและความสวยงามให้กับสัดส่วนของรถมากขึ้น

รูปทรงของโคมไฟใหม่องค์ประกอบที่ไม่จำเป็นทั้งหมดถูกตัดออก เพื่อให้เหลือเพียงสาระสำคัญของโคมไฟเท่านั้น มีขนาดเรียวเล็กลง ระบบไฟหน้า โปรเจ็กเตอร์ LED อัจฉริยะ ALH (Adaptive LED Headlamps) พัฒนาให้ลำแสงละเอียดยิ่งขึ้น

ไฟท้าย LED มีขนาดเรียวเล็กลง

ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว

มองผาดๆ ดูเรียบๆ แต่ให้ความหรูหราและอารมณ์สปอร์ตในตัว

 

ภายในเน้นความสะดวกสบายภายใต้หลักการอุดมคติ “เรียบง่ายแต่งดงาม” หรูหราด้วยวัสดุเกรดพรีเมียมเน้นสีดำตัดด้วยสีโครเมียม

แผงคอนโซลหน้าหุ้มด้วยวัสดุอ่อนนุ่ม ออกแบบและพัฒนาในทุกรายละเอียดโดยยึดหลักมนุษย์เป็นศูนย์กลาง ในการจัดวางตำแหน่งอุปกรณ์ต่างๆ ในตำแหน่งที่เหมาะสม

พวงมาลัย 3 ก้านขนาดกระชับมือ พร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่นแผงหน้าปัดและมาตรวัดดิจิตอลแบบ TFT LCD แยกเป็น 3 วงกลม ตรงกลางเป็นมาตรวัดความเร็วขนาดใหญ่ ด้านซ้ายเป็นวัดรอบเครื่องยนต์ และด้านขวาอุณหภูมิเครื่องยนต์และปริมาณน้ำมัน

มีหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้า

ขยับมาตรงกลางติดตั้งหน้าจอสี Center Display แบบ Widescreen ขนาด 8.8 นิ้ว ควบคุมด้วยปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander บริเวณคอนโซลกลางให้เกียร์ เชื่อมต่อ Mazda Connect ที่มาพร้อม Apple CarPlay

ระบบเสียง “Bose” รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง

เบาะนั่งดีไซน์ใหม่โอบกระชับรองรับสรีระช่วยให้กระดูกเชิงกรานตั้งตรง แนวกระดูกสันหลังคงรูปตัว S เหมือนขณะเดิน เพื่อให้การขับขี่ทำได้อย่างเป็นธรรมชาติและสมดุล ช่วยลดความเมื่อยล้า เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง พร้อมหน่วยความจำ 2 ตำแหน่ง

ระบบแอร์อัตโนมัติ

ภาพรวมภายในดูเรียบๆ เพราะย้ายปุ่มควบคุมต่างๆ ไปไว้ด้านล่างของคอนโซลหน้าบริเวณด้านขวาของคนขับ

 

ขุมพลังเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน รุ่นล่าสุด แบบ DOHC 4 สูบ 16 วาวล์ ความจุ 1,998 ซีซี พัฒนาให้ใช้วาล์วควบคุมน้ำหล่อเย็นที่ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ และระบบการจ่ายน้ำมันแบบใหม่ มีอัตราการเร่งแรงและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร

ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด สกายแอคทีฟ

แน่นอนว่าไม่พลาดกับระบบการควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง “G-Vectoring Control Plus” (GVC Plus) ที่ติดตั้งเฉพาะในมาสด้า 3 ใหม่ ใช้เบรกเพื่อเพิ่มการควบคุมการหันเหของตัวรถ เป็นการเพิ่มเสถียรภาพในการควบคุมรถ เมื่อผู้ขับขี่ขับรถออกจากโค้งโดยคืนพวงมาลัยกลับไปที่ตำแหน่งกึ่งกลาง

GVC Plus เพิ่มแรงเบรกเพียงเล็กน้อยไปที่ล้อด้านนอก ทำให้เกิดเสถียรภาพซึ่งจะช่วยให้รถกลับมาวิ่งตรงเหมือนเดิมได้ง่ายขึ้น ระบบสามารถรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องของการหันเห การโคลงของตัวรถ และการกระดกหน้า-หลัง เพิ่มเสถียรภาพการทรงตัวของรถจากการหมุนพวงมาลัยอย่างกะทันหัน และการออกจากโค้งที่แม่นยำมากขึ้น

ช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังกึ่งอิสระทอร์ชั่นบีม

มิติตัวถังรุ่นซีดาน (กว้าง x ยาว x สูง) 1,795 x 4,460 x 1,440 ม.ม. ส่วนรุ่นฟาสท์แบค กว้างและยาวเท่านั้น แต่ความสูงลดลงเหลือ 1,435 ม.ม.

 

ความปลอดภัยและเทคโนโลยีช่วยขับขี่ มาสด้า 3 ไม่าเป็นรองใครอยู่แล้ว เพราะใช้มาตรฐานความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยี “i-ACTIVSENSE” เน้นการป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

เด่นๆ เช่น ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย และถุงลมบริเวณหัวเข่าด้านคนขับ รวม 7 ตำแหน่ง

ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติแบบ Advance หรือ Advanced SBS (Advanced Smart Brake Support) ที่สามารถตรวจจับรถคันหน้า จักรยาน รวมถึงคนเดินถนน

ระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า CTS (Cruising & Traffic Support) ที่สามารถควบคุมความเร็วของรถ ช่วยลดความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่

ระบบช่วยหยุดรถเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง SBS-RC (Smart Brake Support-Reverse Crossing)

ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)

ระบบช่วยเบรกและหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SBS-R (Smart Brake Support-Reverse) ที่สามารถตรวจจับวัตถุในวงกว้างและสูงขึ้น ด้วยจำนวนเซ็นเซอร์ที่มากขึ้น

ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360 View Monitor)

ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LAS (Lane Keep Assist System)

ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System)

ระบบเตือนเมื่อเกิดความอ่อนล้าขณะขับขี่ DAA (Driver Attention Alert) ฯลฯ

มาสด้า 3 ใหม่ มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ราคาเท่ากันทั้งแบบซีดาน และฟาสท์แบค

รุ่น 2.0 C 969,000 บาท

รุ่น 2.0 S 1,069,000 บาท

และรุ่น 2.0 SP 1,198,000 บาท