อุรุดา โควินท์ / อาหารไม่เคยโดดเดี่ยว : รักคือการตักเตือน

เขาวางถุงตรงหน้าฉัน หรือให้ถูกต้องกว่า วางไว้ข้างเครื่องคอมพิวเตอร์ของฉัน และว่า “เผื่ออยากทำอะไรกิน”

ชายตามองแวบหนึ่ง อืม แต่ฉันกำลังง่วนกับหนังสือที่จะออก ฉันจดรายชื่อนักอ่านที่สั่งจองลงสมุดชัดเจนที่สุด เร็วที่สุด แต่ดูเหมือนมันยังเร็วไม่พอ

“หน่อไม้” ฉันพูด โดยไม่มองทั้งเขาและหน่อไม้ “ซื้อน้ำพริกมามั้ยอ่ะ กินกับน้ำพริกอร่อย”

“ซื้อมาก็กินนิดเดียว ตั้งแต่เช้า เห็นกินข้าวนิดเดียว” เขาว่า

“ฮือ…เวลายุ่งๆ มันไม่หิว” ตายังจ้องรายชื่อ “แล้วซื้อเขากินมันไม่อร่อยไง พอไม่อร่อย กินสองคำก็อิ่ม”

“เจอหน่อที่ตลาด หน่อต้มเมื่อเช้า แม่ค้าบอก ได้แคบหมูมาด้วย”

ฉันยังจดๆๆๆๆ ฮือ ดีใจ มีรายชื่อให้จดเยอะแยะ กลัวแต่จะจดไม่ทัน จดไปด้วย ตอบคอมเมนต์ไปด้วย

“ต้องกินข้าวบ้างมั้ย” เสียงเขาหนักแน่นขึ้น

“ฮือ แต่อยากได้กาแฟอ่ะตอนนี้” ฉันพูด มองหน้าเขา “กาแฟเย็นร้านเดิม” ยิ้มหวาน

“สามแก้วล่ะ”

“เพราะกินกาแฟเยอะด้วยล่ะ ถึงไม่ค่อยหิว”

เขาระบายลมหายใจ เบา แต่ฉันรู้ ว่าเขาหนักใจ

“เดี๋ยวไปซื้อให้ ต้องทำเองอ่ะ กับข้าว ถึงกินได้เยอะ”

มันก็จริงของเขา ฉันเป็นคนอร่อยยาก และฉันเหมือนคนบ้า เมื่อมีหนังสือออกใหม่ มันบอกไม่ถูก จิตใจจดจ่อกับหนังสือ คล้ายว่าวันหดสั้นลง ยังไม่ทันทำอะไรก็มืดแล้ว

 

“มีหนังสือเกี่ยวกับอาหารออกมา คนเขียนดื่มแต่กาแฟ” เขาพูดตอนเปิดประตู

นั่นทำให้ฉันหยุด

หยุดจดรายชื่อ หยุดดูหน้าจอ หยุดคิด

เมื่อหยุด ฉันเริ่มหิว…ตั้งแต่เช้า ฉันจ้องหน้าจอไม่วางตา ตักข้าวมันไก่เข้าปาก ตาก็ยังดูจอ ถ้าเขาไม่พูด ฉันก็ไม่ตระหนัก-ว่ามากไป

เราควรคำนึงถึงร่างกาย

ร่างกายต้องการอาหาร

พอหยุด ก็ได้ฟังร่างกาย และมันกำลังบอกว่า ฉันต้องการอาหารดีๆ หมายถึงอาหารที่ฉันลงมือทำเอง

ดีจัง ที่เขาซื้อหน่อไม้มา ฉันคิด ปิดคอมพิวเตอร์ แล้วเดินถือหน่อไม้กับแคบหมูเข้าครัว

ฉันหิวมาก จู่ๆ ก็หิวขึ้นมา อยากกินข้าวเหนียวกับยำหน่อ และแคบหมู อาหารง่ายๆ ต้นทุนไม่เกินร้อย แต่อร่อยกว่าไปกินนอกบ้าน

รีบโทร.บอกเขา ให้ซื้อข้าวนึ่งมาด้วย “ร้านน้องไก่นะ ร้านอื่นนึ่งไม่เป็น”

ได้ยินเสียงหัวเราะจากปลายสาย ดูเขาดีใจที่ฉันอยากทำกับข้าว ซึ่งมันหมายถึง ฉันจะกินข้าวเยอะ

ทำไมเขารู้น่ะเหรอ เขาต้องรู้สิ ถ้าฉันบอกให้เขาซื้อข้าวนึ่งมาน่ะ

“ครึ่งกิโลเลยนะ” เขาว่า

ตามนั้นล่ะ ตอนนี้เราจะซื้อทีละ 10 บาท 20 บาท ก็ไม่รู้จะได้ข้าวนึ่งเท่าไร แต่ละเจ้า แต่ละวัน ขายไม่เท่ากัน ข้าวเหนียวแพงขึ้นมาก แพงเท่าไรคนเชียงรายก็ยังมัก (ชอบ) เราต้องกินกับแกงเมืองกับน้ำพริกหนุ่ม ข้าวเจ้าทำแทนไม่ได้

แม่ค้าข้าวบอกฉันว่า ปีนี้แล้ง ปลูกข้าวเหนียวได้น้อย เราต้องทำใจ ห่อสิบบาทจะเหลือราวสามในสี่ของห่อเดิม

เรากินข้าวไม่มากหรอก ยำหน่อต่างหากที่จะเปลือง ถ้าทำเอง

แคบหมูดูดี มีชั้นไขมันนิดหน่อย ตัวอ้วน กรอบ และใหม่

ยำหน่อง่ายมาก ถ้าคุณมีน้ำพริกหนุ่มเจ้าที่ถูกใจ เอาน้ำพริกหนุ่มมาคลุกหน่อต้มที่ฉีกเป็นเส้น ใส่น้ำปูลงไปหน่อย แล้วปรุงรสด้วยเกลือ

บังเอิญว่าฉันถูกใจยาก จึงต้องทำเอง

 

เริ่มจากย่างพริกหนุ่ม (แอบย่างพริกขี้หนูด้วยหน่อย) หัวหอม กระเทียม ระหว่างที่รอ เอาหน่อต้มเป็นหางๆ มาลอกเปลือกออก ใช้ส้อมขูดหน่อให้หลุดเป็นเส้น ง่ายกว่าหั่น เร็วกว่า และอร่อยกว่า

เก็บหน่อขูดไว้ในจาน รอพริก หอม กระเทียมสุก

เขาวางกาแฟบนเคาน์เตอร์ครัว “ทำยำหน่อเหรอ”

ฉันพยักหน้า “กินให้อร่อยเลยนะ เสร็จแล้วเล่นกับฮุ่งแป๊บ”

เขายิ้ม

เขารอประโยคเหล่านี้มากกว่าอะไรทั้งหมด และมันแทนคำขอบคุณที่เขาเตือนฉันเรื่องอาหาร

ไม่ใช่แค่ไม่กินข้าว ฉันแทบไม่ได้ลูบหัวท้าวฮุ่ง-หมาของฉันเลย มันเป็นหมาวัยรุ่น ติดฉันที่สุด มันเดินตามฉันต้อยๆ แต่ฉันไม่สนใจมันทั้งวัน

 

เอาล่ะ พริก หอม กระเทียมได้ที่แล้ว เอามาลอกเปลือกดำๆ ออก ตำให้เข้ากัน ตักใส่ชามหน่อขูด ใส่น้ำปูลงไปนิด โรยเกลือหน่อย คนให้เข้ากัน โรยผักชีฝรั่งซอย

ฉันตักใส่จานพาสต้า จานหวานขัดกับสีน้ำปู แต่มันจะทำให้ฉันกินข้าวอร่อยขึ้น มีใบแมงลักเหลืออยู่ในตู้เย็น เด็ดโรยหน้าสักนิด

กวักมือเรียกเขามาชิม

เขากินไปคำหนึ่ง แล้วพยักหน้า

“แคบหมูอร่อยมาก ชิมแล้ว ข้าวเหนียวยังร้อน กินเลยมั้ย” ฉันถาม

เขาหัวเราะลั่นครัว เสียงหัวเราะแรกของวันนี้ มันทำให้บ้านสว่าง ทั้งที่ฝนกำลังตั้งเค้า