โมเมนต์น่าจับตา วงการกีฬาปี 2017

เมื่อเทียบกับปี 2016 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ถือว่าปฏิทินกีฬาของปี 2017 นี้ค่อนข้างจะ “เรียบง่าย” กว่า เพราะไม่ได้มีรายการสำคัญแบบเฉพาะกิจเหมือนอย่าง “ยูโร 2016” หรือ “โอลิมปิกเกมส์ 2016” ที่แฟนกีฬาทั่วโลกติดตามการแข่งขันอย่างใกล้ชิด

กระนั้น ปี 2017 นี้ก็ยังมีเหตุการณ์สำคัญๆ ในวงการกีฬาที่น่าจับตามองไม่น้อยเช่นกัน เป็นวาระพิเศษที่เน้นตัวบุคคลหรือทีมต่างๆ เป็นหลัก จึงถือโอกาสยกตัวอย่างน่าสนใจมาเตือนความจำกันไว้ล่วงหน้า

เพื่อไม่ให้พลาดช่วงเวลาสำคัญเหล่านั้น…

 

อนาคตของเลสเตอร์ ซิตี้

หลังจากสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ แบบเหนือปาฏิหาริย์เมื่อปีที่แล้ว มาปีนี้ทีมสุนัขจิ้งจอกอยู่ในสถานการณ์ไม่สู้ดีนัก อยู่เหนือโซนตกชั้นเพียง 6 คะแนน ขณะที่ยังเหลืออีกเกือบครึ่งทาง เรียกว่าสุ่มเสี่ยงจะชะตาพลิกผันตกชั้นเอาได้ถ้าไม่ระวังให้ดี

แต่ขณะที่ผลงานในเกมลีกเป็นไปอย่างน่าผิดหวัง เลสเตอร์ก็สร้างรอยยิ้มให้แฟนๆ กับเส้นทางน่าประทับใจในถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อสามารถผ่านเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม และในรอบ 16 ทีมสุดท้ายซึ่งเป็นรอบน็อกเอาต์ จะพบกับ “เซบีญ่า” จากลาลีก้า สเปน กำหนดฟาดแข้งแบบเหย้า-เยือน คืนวันที่ 22 กุมภาพันธ์ และคืนวันที่ 14 มีนาคม

ถึงจะไม่ใช่งานง่าย แต่ถ้าเคยคว้าแชมป์บอลลีกที่ต้องกรำศึกกันหลายเดือนได้ บอลถ้วยที่เตะกันไม่กี่นัด อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น!

การคัมแบ๊กของ ไทเกอร์ วู้ดส์

หลังจากเรียกเสียงฮือฮาด้วยการกลับมาแข่งขันแบบเต็มตัวครั้งแรกในรายการที่ตัวเองเป็นเจ้าภาพเมื่อต้นเดือนธันวาคม หลายคนจับตามองว่า การคืนสนามแบบจริงๆ จังๆ ในทัวร์นาเมนต์อย่างเป็นทางการของไทเกอร์จะเป็นอย่างไร เพราะเท่าที่ดูจากการคัมแบ๊กหนก่อน วู้ดส์ในวัย 41 ปี ยังมีปัญหาเรื่องการรักษาฟอร์มให้สม่ำเสมอ

เพราะบทจะดีก็ดีใจหาย แต่บทจะแย่ก็แทบกู่ไม่กลับ

ขณะที่เจ้าตัวยืนยันว่าอาการเจ็บหลังซึ่งทำให้ห่างสนามไปนานเกือบ 16 เดือนนั้นแทบไม่รู้สึกเจ็บปวดใดๆ แล้ว

ยิ่งพออายุเพิ่มขึ้น ก็ต้องคิดถึงเรื่องยืนระยะแข่งกับโปรรุ่นน้องๆ ด้วยว่าจะหวังผลได้หรือไม่ แต่ผู้สังเกตการณ์หลายคนก็มองว่า ถ้าเขากลับสู่ฟอร์มเก่งของตัวเองได้ อายุก็ไม่ถือเป็นอุปสรรคสำหรับกีฬากอล์ฟสักเท่าไร

ยืนยันได้จากสถิติการคว้าแชมป์เมเจอร์ “เดอะ มาสเตอร์ส” ของ “แจ๊ก นิคลอส” เมื่อปี 1986 ด้วยวัย 46 ปี

และการเกือบๆ คว้าแชมป์ ดิ โอเพ่น ของ ทอม วัตสัน วัย 59 ปี เมื่อปี 2009 เป็นตัวอย่าง

ความไม่แน่นอนในวงการเทนนิส

ปีที่แล้ววงการเทนนิสโลกมีความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงที่เรียกเสียงฮือฮาได้เป็นระยะๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนมือในบัลลังก์อันดับ 1 ของโลกทั้งชายและหญิง เมื่อ “อังเกลิค แคร์เบอร์” นักหวดสาวชาวเยอรมัน แย่งมือ 1 มาจาก “เซเรน่า วิลเลียมส์” ขณะที่ “แอนดี้ เมอร์เรย์” นักหวดชาวสก๊อต ก็เบียดแซง “โนวัก โยโควิช” ในการแข่งขันแมตช์สุดท้ายของปี

นอกจากนี้ อดีตมือ 1 โลกอย่าง “โรเจอร์ เฟเดอเรอร์” ชาวสวิส และ “ราฟาเอล นาดาล” จากสเปน ต่างเจอปัญหาบาดเจ็บรุมเร้าจนหายหน้าหายตาจากวงการในช่วงครึ่งหลังของปี

ปีนี้จึงน่าจับตาว่า โนเล่ซึ่งเริ่มฟอร์มตกและหมดไฟจะทวงมือ 1 ของโลกคืนจากเมอร์เรย์ได้หรือไม่?

และเซเรน่าที่เพิ่งประกาศหมั้นหมายจะเริ่มเสียสมาธิกับกิจกรรมนอกสนามจนไม่ได้เน้นการแข่งขันจริงจังเหมือนก่อนหรือเปล่า?

เช่นเดียวกับการกลับคืนสนามอีกครั้งของเฟเดอเรอร์กับนาดาล ซึ่งอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญต่อการตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของทั้งคู่?

อีกคนที่ลืมไม่ได้ (แต่ด้วยเหตุผลที่ต่างออกไป) คือ “มาเรีย ชาราโปว่า” นักเทนนิสสาวชาวรัสเซียซึ่งจะพ้นโทษแบนกรณีไม่ผ่านการตรวจสารต้องห้ามในเดือนเมษายนนี้

ถือเป็นวาระสำคัญที่สื่อทั่วโลกต้องจับตามองแน่นอน

เวทีสั่งลาของโบลต์

ยู”เซน โบลต์” ยอดลมกรดชาวจาเมกา ฝากผลงานยิ่งใหญ่ไว้ในโอลิมปิกเกมส์เมื่อปีที่แล้ว เมื่อกลายเป็นนักวิ่งชายคนแรกของโลกที่กวาด 3 แชมป์วิ่งระยะสั้น 100 เมตร, 200 เมตร และวิ่งผลัด 4×100 เมตร ได้ในโอลิมปิกเกมส์ถึง 3 สมัย

แต่เจ้าของท่า “สายฟ้าฟาด” ยังไม่ได้หันหลังให้กับวงการกรีฑาในตอนนี้ เพราะต้องการสั่งลาในการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์โลกที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในเดือนสิงหาคม

สื่อกีฬาส่วนหนึ่งยังไม่ปักใจเชื่อว่าเขาจะอำลาลู่อย่างถาวรเพราะเจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์แบ่งรับแบ่งสู้ว่าอาจจะวิ่งต่อถึงศึกคอมมอนเวลธ์เกมส์ในปีหน้า หรือถ้าเลิกวิ่งจริงๆ ก็อยากรอพิสูจน์ว่า ที่เจ้าตัวเคยปรารภว่าอยากจะหันไปเป็นนักฟุตบอลอาชีพ อีกหนึ่งกีฬาที่รักอย่างจริงๆ จังๆ นั้น จะเอาจริงแค่ไหน?

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมโปรดอันดับ 1 ซึ่งเจ้าตัวพูดเสมอว่าอยากไปทดสอบฝีเท้ากับเขาสักครั้ง!