แม้ “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.และเลขาธิการ คสช. จะงดให้สัมภาษณ์ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลังทิ้งวาทะ “ซ้ายจัด ดัดจริต”

แม้ไม่ได้ระบุพุ่งเป้าไปที่ฝ่ายใด แต่เชื่อได้ว่าต้องการพุ่งเป้าไปที่พรรคอนาคตใหม่ นำโดย “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” หน.พรรค และ “ปิยบุตร แสงกนกกุล” เลขาธิการพรรค หลังพรรคอนาคตใหม่ถูกวิจารณ์ถึงแนวคิดที่มีต่อระบอบการปกครอง

รวมทั้งปฏิบัติการขุดอดีตของทั้ง “ธนาธร-ปิยบุตร” ถึงแนวความคิดต่างๆ ที่เคยพูดในที่สาธารณะออกมาด้วย

“เราอยู่กันแบบไทยๆ นี่คือวัฒนธรรมของระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆ ขอให้รักกัน จะไปร่ำไปเรียนที่ไหนมา ไปเอาตำราประเทศไหน ไม่อยากจะเอ่ยชื่อ เอาของเขามาแล้วมาดูด้วย ว่าควรจะมาดัดแปลง แต่ไม่ใช่พยายามจะเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อย่าไปเอาความซ้ายจัดที่ไปเรียนมา แล้วมาดัดจริต”

พล.อ.อภิรัชต์กล่าว 2 เมษายน 2562

ก่อนหน้านั้นช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2562 “บิ๊กแดง” ได้ตอบโต้ฝ่ายการเมืองขั้วต้าน คสช. โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยให้ไปฟังเพลงหนักแผ่นดิน หลังพรรคเพื่อไทยหาเสียงจัดหนักเรื่องการปฏิรูปกองทัพ โดยเสนอให้ตัดลดงบฯ กองทัพ-ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร

ประกอบกับก่อนหน้านั้นได้เกิด “บิ๊กเซอร์ไพรส์” ขึ้นมา เมื่อสื่อถาม “บิ๊กแดง” ถึงกรณีพรรคเพื่อไทย ทำให้ พล.อ.อภิรัชต์ถามกลับว่า รู้ไหมว่าเพลงอะไรกำลังฮิต ซึ่งได้ตอบกลับสื่อมาว่า “เพลงหนักแผ่นดิน” กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก

ต่อมาได้มีการเปิดเพลงผ่านเสียงตามสายในกองบัญชาการกองทัพบก 3 ช่วงเวลา คือ เวลา 07.20 น., 12.20 น. และ 16.20 น. และให้หน่วยทหาร ทบ.ทั่วประเทศเปิดเพลงด้วย

โดยเพลงที่เปิดจะเป็นเพลงปลุกใจให้กำลังพลรู้จักบทบาทหน้าที่ตัวเอง ให้รักชาติบ้านเมือง เช่น เพลงหนักแผ่นดิน มาร์ชกองทัพบก และเพลงความฝันอันสูงสุด เป็นต้น มาถึงปัจจุบัน

ล่าสุด พล.อ.อภิรัชต์ได้ส่ง “เพลงกิเลสมนุษย์” ของธานินทร์ อินทรเทพ ให้กับนายทหารใกล้ชิดและทีมงานหน้าห้อง แม้มีรายงานว่าได้ระบุเหตุผลเพียงสั้นๆ ว่า แม้ย้อนยุคแต่อาจจะเข้ากับสถานการณ์การเมืองในเวลานี้และมีความหมายที่ดี

เมื่อเป็นข่าวจึงเกิดการตีความไปจำนวนมาก โดยเฉพาะสถานการณ์การจัดเก้าอี้ “ครม.ตู่รีเทิร์น” ที่ใช้เวลานานนับเดือนถึงจะลงตัว อีกทั้งมีภาพการต่อรองเก้าอี้เกิดขึ้นระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับพรรคร่วมรัฐบาลที่งัดข้อกันจนถึงที่สุด

แม้แต่พรรคขนาดเล็กก็สร้างเงื่อนไขและทวงบุญคุณขึ้นมา ยิ่งทำให้ภาพของรัฐบาลชุดใหม่มีรอยร้าวตั้งแต่ยังไม่เริ่มเดิน ส่งผลต่อความเชื่อมั่นต่อรัฐบาล แม้แต่ภายในพรรคพลังประชารัฐก็ไม่มีเอกภาพ “4 กุมาร” นำโดย “อุตตม สาวนายน” หัวหน้าพรรค “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” เลขาธิกาพรรค ก็คุมไม่อยู่

เพราะอำนาจบารมีที่แท้จริงอยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ นั่นเอง

สําหรับเนื้อเพลงกิเลสมนุษย์ มีความหมายในเรื่องคนเราจะรวยหรือจนก็คนเหมือนกัน คนทำชั่วหรือทำดีนั้นส่อไปถึงวงศ์ตระกูล กิเลสของคนนั้นหนา ถ้าไม่รู้จักระงับยับยั้งใจ เหล็กเพชรที่ว่าแกร่งแข็งแค่ไหน ยังแพ้เงินฟาด เกลือที่เค็มยังหวานฉ่ำด้วยลิ้นสอพลอ คำหวานที่ลื่นของคน มีพวกมากลากไป มือใครยาวก็สาวได้สาวเอา เป็นต้น

สอดรับกับปรากฏการณ์ก่อนหน้านี้ที่ พล.อ.ประยุทธ์ได้แนะนำหนังสือ Animal Farm โดย พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกรัฐบาล เปิดเผยว่า นายกฯ ไม่อยากให้ไปโยงในเรื่องการเมือง แต่ต้องการสื่อว่าแม้คนเราจะอยากได้ทุกสิ่งที่ดีกว่า แต่ก็ไม่ใช่จะสมหวังทุกอย่าง และไม่มีใครทำให้คนอื่นพอใจได้ทั้งหมด

แน่นอนว่าไม่พ้นการถูกตีความโยงเรื่องการเมือง เพราะมีการมองว่าเกี่ยวข้องกับการจัดเก้าอี้ ครม.ในขณะนั้นหรือไม่ ที่ย่อมมีสมหวังและผิดหวัง

ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ก็ทราบถึงปัญหาเหล่านี้ดี

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีคำสั่งอย่างเป็นทางการให้ทาง ทบ.เปิดเพลงกิเลสมนุษย์ผ่านเสียงตามสายที่ บก.ทบ. หรือหน่วยทหาร ทบ.ทั่วประเทศ รวมทั้งเพจบนเฟซบุ๊กหลักของ ทบ. ได้แก่ ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองทัพบก Army PR Center, Smart Man Smart Soldier, SMART Soldiers Strong ARMY และกองกําลังรักษาความสงบเรียบร้อย คสช. ก็ไม่มีการแชร์หรือโพสต์เกี่ยวกับเพลงกิเลสมนุษย์

ฟากฝั่งการเมือง “หมวดเจี๊ยบ” ร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ก็ออกมาตอบโต้ว่า พล.อ.อภิรัชต์ควรเปิดเพลงนี้ให้ตัวเองฟังเป็นอันดับแรก

และเปิดให้ พล.อ.ประยุทธ์พร้อมเครือข่ายสืบทอดอำนาจฟังด้วย

เพื่อเตือนสติให้เลิกนำกองทัพมาแทรกแซงการเมือง

อย่าปล่อยให้กิเลสหรือความทะเยอทะยานทางการเมืองมีอำนาจเหนือจิตใจ จนทำให้เสพติดการยึดอำนาจ

อาจเพราะนักยึดอำนาจเห็นว่าหลังจากรัฐประหารสำเร็จก็ได้ดีมีตำแหน่งใหญ่โต ราวกับใช้นิ้วจิ้มเลือกตำแหน่งได้ตามใจชอบ เช่น การดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ. ควบ ส.ว.สรรหา

ทั้งที่ตามหลักข้าราชการประจำไม่สมควรรับตำแหน่งทางการเมืองในเวลาเดียวกัน

สัปดาห์นี้ พล.อ.อภิรัชต์ไม่ได้มาร่วมประชุม คสช.ที่ทำเนียบรัฐบาล อยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจที่ต่างประเทศ โดยไม่มีการเปิดเผยว่าปลายทางคือประเทศใด

ก่อนหน้านี้ พล.อ.อภิรัชต์พร้อม ผบ.เหล่าทัพ-ปลัดกลาโหม อยู่ในระหว่างการฝึกหลักสูตรราชองครักษ์ 2 สัปดาห์ ซึ่งขณะนี้การฝึกเสร็จสิ้นแล้ว

โดย พล.อ.อภิรัชต์ได้นำประชุมหน่วยขึ้นตรง ทบ. วาระปกติ 21 มิถุนายนนี้ ที่ บก.ทบ. ถือเป็นการประชุมส่งท้ายก่อนจะมีรัฐบาลใหม่อย่างเป็นทางการ และส่งท้ายภารกิจของ คสช. และ กกล.รส. ก่อนที่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะถวายสัตย์ปฏิญาณตนอย่างเป็นทางการ ซึ่งช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา พล.อ.อภิรัชต์ได้เดินทางมายังทำเนียบ เพื่อเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นการภายในถึง 2 ครั้ง โดยประเด็นที่จับตากันมากที่สุดคือการจัดตั้งรัฐบาลนั่นเอง

บทบาทของ พล.อ.อภิรัชต์ในช่วงรัฐบาลปกติที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จึงต้องติดตามต่อไป แม้ในขณะนี้กองทัพยังคงเป็นเอกภาพกับรัฐบาล ด้วยสายสัมพันธ์ระหว่าง “บิ๊กตู่-บิ๊กแดง” ที่สนับสนุนกันมาตลอด

อีกทั้ง ผบ.เหล่าทัพ-ปลัดกลาโหม ก็เป็น ส.ว.โดยตำแหน่ง ที่พร้อมใจขานชื่อ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ อีกครั้ง

นอกจากนี้ ปลัดกลาโหม-ผบ.เหล่าทัพ ยังเป็นกรรมการในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติโดยตำแหน่งด้วย

ท่ามกลางสถานการณ์ที่มีความพยายามทำให้ “รัฐบาล-กองทัพ” มีรอยร้าวก่อนหน้านี้ หลังเคยมีข่าวปฏิวัติซ้ำ-รัฐประหารซ้อนออกมา รวมถึงการออกราชกิจจานุเบกษาปลอม อ้างคำสั่ง ม.44 ปลด 3 ผบ.เหล่าทัพออกจากตำแหน่ง ซึ่งมีชื่อ พล.อ.อภิรัชต์ด้วย

การส่งสัญญาณออกมาเป็นเพลง 2 ครั้งของ พล.อ.อภิรัชต์ เพียงชื่อเพลงก็กินความหมายทั้งหมด หลัง “บิ๊กแดง” ซุ่มเงียบมานาน

รอฟังเพลงที่ 3 ต่อไป!!