คุยกับทูต ‘เยฟกินี โทมิคิน’ วันแห่งรัสเซีย

คุยกับทูต เยฟกินี โทมิคิน วันแห่งรัสเซีย

“วันที่ 12 มิถุนายน เป็นวันที่สหพันธรัฐรัสเซียเฉลิมฉลองวันชาติ ซึ่งเรียกกันว่าวันแห่งรัสเซีย (Day of Russia) วันชาติถือเป็นโอกาสทองของทุกประเทศที่จะนำเสนอประเทศของตนเอง และในฐานะเอกอัครราชทูต ผมจึงไม่อาจพลาดโอกาสนี้เพื่อจะมาบอกเล่าแก่ท่านให้มากขึ้นเกี่ยวกับประเทศของเรา ตลอดจนเรื่องราวแห่งความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซีย-ไทย”

นายเยฟกินี โทมิคิน (H.E. Evgeny Tomikhin) เอกอัครราชทูตสหพันธรัฐรัสเซีย ให้สัมภาษณ์พิเศษแก่มติชนสุดสัปดาห์อีกครั้งหนึ่งเกี่ยวกับวันชาติ ซึ่งหลายๆ ประเทศก็มีวันชาติเช่นเดียวกัน

และเป็นที่ทราบกันดีว่า 12 มิถุนายน เป็นวันชาติรัสเซีย ซึ่งมีการจัดงานเฉลิมฉลองทั่วโลก และในกรุงเทพฯ ก็เช่นกัน

“ปีที่ผ่านมานับเป็นปีที่ประเทศรัสเซียประสบผลสำเร็จยิ่ง อันเนื่องจากการพัฒนาประเทศของเราเองและการพัฒนาระหว่างประเทศที่สำคัญมากมาย โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 18 มีนาคม ค.ศ.2018 ท่านวลาดิมีร์ ปูติน (Vladimir Putin) ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง โดยได้รับการสนับสนุนจากชาวรัสเซียที่ไปออกเสียงเลือกตั้งกันอย่างมากมายเป็นประวัติการณ์”

“กล่าวคือ คะแนนเสียงเลือกตั้งที่พึงพอใจในตัวท่านมีถึงร้อยละ 78 จนมาถึงวันนี้ เรากำลังดำเนินอยู่บนหนทางแห่งการบรรลุถึงความก้าวหน้าทางด้านวิทยาการ ความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ และการพัฒนาสังคมทั่วทั้งประเทศ”

“คงไม่จำเป็นต้องย้อนรำลึกว่า เมื่อปี ค.ศ.2018 รัสเซียได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาอันสำคัญแห่งปี คือการแข่งขันชิงถ้วยรางวัลฟุตบอลโลกฟีฟ่า ปี ค.ศ.2018 (FIFA World Cup 2018) ผมเชื่อว่าไม่ได้เป็นการกล่าวเกินจริง ถ้าจะบอกว่า เราได้จัดการแข่งขันกีฬาอันเหลือเชื่อและไม่อาจลืมได้สำหรับผู้คนที่เดินทางมาชมการแข่งขันมากกว่าหนึ่งล้านคนที่สนามกีฬา 12 แห่งทั้งที่สร้างใหม่และที่ปรับปรุงใหม่”

“และสำหรับคนอีกนับพันล้านที่เฝ้าชมการแข่งขันอยู่ที่บ้านและสปอร์ตบาร์ทั่วโลก”

“เมื่อวันที่ 18 มีนาคมปีนี้ รัสเซียได้เฉลิมฉลองเหตุการณ์สำคัญ นั่นคือการครบรอบปีที่ห้าของการกลับมารวมตัวกันของสาธารณรัฐไครเมีย (Republic of Crimea) และนครเซวาสโตโปล (City of Sevastopol) เข้ากับสหพันธรัฐรัสเซีย นับตั้งแต่ปี ค.ศ.2014 เป็นการประสบผลสำเร็จครั้งสำคัญ เมื่อไครเมียประกาศเอกราช และกลับมารวมตัวกับสหพันธรัฐรัสเซีย อันเป็นไปตามผลของการลงประชามติที่เสรีและสันติ” ท่านทูตกล่าว

“เพียงเวลา 5 ปี ผลิตภัณฑ์มวลรวมภูมิภาคของไครเมียเติบโตขึ้นถึงร้อยละ 55 มีหน่วยงานนับพันถูกสร้างขึ้น สถานการณ์ทางสังคมและเศรษฐกิจของไครเมียได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว มีการลงทุนหลักในโครงสร้างพื้นฐานเป็นมูลค่านับพันล้านเหรียญสหรัฐ และในปี ค.ศ.2018 มีการเริ่มใช้งานท่าอากาศยานนานาชาติซิมเฟอโรโปล (Simferopol International Airport) โดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยถึงสะพานไครเมีย ซึ่งได้เปิดให้รถยนต์สัญจรแล้วเมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ.2018”

“นอกจากนี้ แรงผลักดันเพิ่มเติมในการพัฒนาภูมิภาค คาดว่าเป็นเพราะการก่อสร้างถนนหลวงสี่เลนแห่งสหพันธ์ คือ ถนนทาฟริดา (Tavrida) ซึ่งทอดตัวข้ามคาบสมุทรจากตะวันออกสู่ตะวันตก เช่นเดียวกับการก่อสร้างการเชื่อมต่อทางรถไฟตามปกติโดยผ่านเส้นทางการขนส่งข้ามช่องแคบเคิร์ช (Kerch Strait)”

“สหพันธรัฐรัสเซียเป็นประเทศที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งแต่ภาคตะวันตกคือคาลินินกราด (Kaliningrad) ไปสู่ภาคตะวันออกคือซาคาลิน (Sakhalin) ประเทศของเราจึงเป็นหนึ่งในประเทศชั้นนำของโลกและเป็นประเทศที่เป็นอุตสาหกรรมสูง”

“แหล่งน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ทองคำ ป่าไม้ และแหล่งน้ำจืดมหาศาลของรัสเซีย ทำให้รัสเซียเป็นหนึ่งในประเทศที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในโลก ทว่า แน่นอนว่าสินทรัพย์หลักของเราคือ ประชาชนที่กำลังขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้าด้วยศักยภาพอันยิ่งใหญ่ทางด้านวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม รัสเซียเป็นบ้านของประชาชนที่เอื้ออาทร มีการศึกษาดี มีวัฒนธรรมชั้นสูง และมีจิตใจดี ซึ่งประชาชนเหล่านี้อยู่ในกลุ่มชาติพันธุ์และมีความเชื่อทางศาสนาต่างกัน”

“ผมมั่นใจว่าทุกคนที่ได้เดินทางมายังประเทศของเรา ซึ่งรวมถึงชาวไทยนับหมื่นคนต่างก็ทราบดี”

“เราคงไม่ต้องพูดถึงว่า รัสเซียเป็นดินแดนที่หลากหลายและสวยงามอย่างน่าทึ่ง มีมรดกทางวัฒนธรรมอันรุ่งโรจน์ ทั้งบัลเล่ต์ มหรสพ ภาพยนตร์ของรัสเซีย ต่างก็เป็นที่ตระหนักและยอมรับไปทั่วโลก และปีนี้ได้รับการประกาศให้เป็นปีแห่งมหรสพในรัสเซีย (2019 – Year of Theatre in Russia)”

“ในกิจการระหว่างประเทศ รัสเซียเป็นสมาชิกประชาคมระหว่างประเทศที่เชื่อถือได้และเป็นผู้เล่นที่ขันแข็งในกิจการของโลก รัสเซียเป็นหุ้นส่วนที่ไว้เนื้อเชื่อใจได้และไม่เคยหักหลังพันธมิตร นี่จึงเป็นเหตุผลที่รัสเซียมีมิตรต่างชาติมากมาย และในสภาพแวดล้อมโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วนั้น หากบางประเทศพยายามเปลี่ยนโฉมโลกให้เป็นไปตามที่ตนต้องการ หรือหากการแทรกแซงกิจการภายในและการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมกลับกลายเป็นเรื่องธรรมดาแล้ว รัสเซียก็จะเป็นผู้สนับสนุนสำคัญของหลักนิติธรรมระหว่างประเทศ”

“เราร่วมกับประเทศอื่นๆ ในการทำดีที่สุดเพื่อหาทางออกต่อปัญหาและการท้าทายทั้งที่มีอยู่เดิมและที่เกิดขึ้นใหม่มากมายที่ประชาคมระหว่างประเทศกำลังเผชิญหน้าอยู่ในปัจจุบัน เพราะเราจะไม่มีทางหยุดยั้งในการทำงานในประเด็นสำคัญ เช่น การต่อสู้กับการก่อการร้ายและพวกคตินิยมสุดขีด การต่อต้านยาเสพติดและการค้ามนุษย์”

“ตลอดจนการยุติความขัดแย้งในระดับภูมิภาคอย่างสันติ”

“รัสเซียเป็นหนึ่งในห้าสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เรามีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในองค์การและกลุ่มระหว่างประเทศชั้นนำมากมาย เช่น G20, BRICS, OSCE, สภายุโรป (CoE) องค์กรความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) ความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) เป็นต้น”

“การเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ทั้งในทวีปยุโรปและเอเชียนั้น ทำให้รัสเซียมีคุณลักษณะเด่นในการส่งเสริมความร่วมมือกับประเทศต่างๆ ในเอเชีย-แปซิฟิก ให้หันหน้าเข้าสู่ภูมิภาคอันมีพลวัตให้มากยิ่งขึ้นนี้ ความเหนือกว่าโดยไม่มีเงื่อนไขของเรา คือการที่นายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ตระหนักถึงการริเริ่มสร้างความเป็นหุ้นส่วนยูเรเชีย (Eurasian Partnership) ที่ยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีก อันรวมทั้งประเทศสมาชิก EAEU, SCO และ ASEAN และเรายังคงเปิดประตูอยู่เสมอต่อประเทศอื่นๆ บนผืนแผ่นดินใหญ่ยูเรเชียอันกว้างขวาง”

“ยิ่งไปกว่านั้น เราให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อการพัฒนาความสัมพันธ์กับอาเซียนซึ่งเราถือว่าเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนที่น่าเชื่อถือและไว้ใจได้ มติที่จะยกระดับความเป็นหุ้นส่วนของเราสู่ระดับยุทธศาสตร์ เกิดขึ้นเมื่อครั้งการประชุมสุดยอดอาเซียน-รัสเซีย ครั้งที่ 3 (The 3rd ASEAN-Russia summit) เมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.2018 ที่ประเทศสิงคโปร์เป็นข้อพิสูจน์ การเจรจาทางการเมืองของเราก็เข้มข้น การค้าระหว่างรัสเซียกับประเทศสมาชิกอาเซียนกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว การลงทุนสะสมร่วมกันนั้นเกิน 25 พันล้านเหรียญสหรัฐ”

“เรายินดีที่จะกระชับความเป็นหุ้นส่วนเบ็ดเสร็จยิ่งขึ้นกับทุกประเทศสมาชิกอาเซียน รวมทั้งประเทศไทยซึ่งเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของเราในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราร่วมแบ่งปันเป้าหมายจากการที่ไทยเป็นประธานอาเซียนในปีนี้ ค.ศ.2019 และพร้อมที่จะส่งมอบความช่วยเหลือแก่มิตรชาวไทยเพื่อให้ได้มาซึ่งเป้าหมายเหล่านี้”

“ในฐานะเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย ผมภูมิใจที่จะกล่าวว่า วันนี้ ด้วยแรงผลักดันอันเหลือเชื่อที่ได้รับ ความสัมพันธ์ของเราทั้งสองประเทศกำลังทะยานขึ้น มีการเห็นชอบให้สร้างความร่วมมือทวิภาคีที่แน่นแฟ้นขึ้นโดยมีมุมมองที่จะยกขึ้นสู่ระดับความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ การเจรจาทางการเมืองระหว่างประเทศของเรา การปฏิสัมพันธ์ทางการค้าและเศรษฐกิจ ความสัมพันธ์ทางการทหาร ความร่วมมือทางเทคนิคด้านการทหาร การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และการติดต่อระหว่างประชาชนกับประชาชนก็กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว”

“ที่เป็นเช่นนี้เพราะเรามีรากฐานอันมั่นคง ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างรัสเซียและไทยย้อนไปเมื่อปี ค.ศ.1897 เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ทรงนำคณะเสด็จประพาสรัสเซีย จากการเสด็จประพาสครั้งนั้น พระเจ้าซาร์ นิโคลัส ที่ 2 และรัชกาลที่ 5 ก็ทรงกลายเป็นพระสหายที่ดีต่อกันมาก ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ความสัมพันธ์อันพิเศษที่มีขึ้นระหว่างราชวงศ์ทั้งสองก็ได้กระตุ้นสายสัมพันธ์ระหว่างประเทศของเรา”

“มอสโกและกรุงเทพฯ เป็นหนึ่งเดียวกันในพันธกิจที่มีต่อหลักการเรื่องการเคารพอำนาจอธิปไตยและการบูรณาการของประเทศทั้งสอง และการไม่แทรกแซงกิจการภายในกัน เราแบ่งปันวิถีทางที่เหมือนหรือคล้ายกันเพื่อแก้ปัญหาในระดับโลกและระดับภูมิภาค รวมทั้งการต่อสู้กับความท้าทายและการคุกคามใหม่ๆ” ท่านทูตชี้แจงเพิ่มเติมว่า

“ประเทศไทยเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนทางการค้าหลักของรัสเซียในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การค้าที่มีต่อกันแสดงถึงแนวโน้มการเจริญเติบโตอย่างสม่ำเสมอเมื่อไม่นานนี้ และความร่วมมือในการลงทุนก็กำลังขยายตัวอย่างมั่นคง ในปี ค.ศ.2018 การค้าของทั้งสองประเทศเดินสะพัดถึงร้อยละ 17.6 และสูงถึง 3.56 พันล้านเหรียญสหรัฐ วิทยาศาสตร์และวิทยาการกลายเป็นหนึ่งในสาขาที่มีชีวิตชีวาที่สุดของความร่วมมือรัสเซีย-ไทย และจะดำรงต่อไปอีกหลายปี อีกทั้งเรายังสนใจในการจัดตั้งการลงทุนร่วมภายใน EEC ด้วย”

“ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวสำหรับพลเมืองรัสเซีย ในปี ค.ศ.2018 ชาวรัสเซีย 1.5 ล้านคนเดินทางมาเยือนไทย การพัฒนาที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ จำนวนที่พุ่งขึ้นของนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางไปเยือนรัสเซีย ท่านจะประหลาดใจที่ทราบว่า ชาวไทยเป็นหนึ่งในสิบชาติที่เดินทางไปเยือนรัสเซียมากที่สุดในไตรมาสแรกของปี ค.ศ.2019”

ท่านทูตเยฟกินี โทมิคิน เสริมตอนท้ายว่า

“รัสเซียมีศักยภาพอันยิ่งใหญ่ในการพัฒนาความสัมพันธ์อันเปี่ยมด้วยมิตรภาพและเป็นคุณร่วมกัน สำหรับเพื่อนชาวไทย รัสเซียจะทำอย่างดีที่สุดในการส่งเสริมความร่วมมือกัน ทั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์ของชาวรัสเซียและชาวไทยนั่นเอง”

ว่าแล้วก็ขอแสดงความยินดีล่วงหน้า เนื่องในโอกาส Day of Russia วันชาติแห่งสหพันธรัฐรัสเซียไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย