ทำไม ‘คลอดลูกให้ได้สัญชาติอเมริกัน’ ถึงตามราวีให้ถอนสัญชาติเด็กทารก

มีข่าวในเฟซบุ๊กและยูทูบเป็นการโพสต์ของผู้ที่ใช้ชื่อว่า “หมอแอร์ ” ซึ่งเป็น พ.ต.อ.หญิง และเป็นแพทย์หญิงประจำ ร.พ.ตำรวจ เธอลงภาพถ่ายตัวเองอยู่ริมทะเลต่างประเทศ

ในภาพเธอถ่ายรูปเปิดหน้าท้องที่กำลังตั้งครรภ์ มีข้อความเขียนไว้ 3 บรรทัดว่า

“แม่ครับ ให้ผมเกิดที่ไมอามี่ได้ไหมครับ”

พร้อมทั้งเขียนว่า ยินดีให้คำปรึกษาแก่ผู้ที่ต้องการคลอดลูกให้ได้สัญชาติอเมริกันโดยไม่คิดค่าที่ปรึกษา และให้ชื่อ www.ที่รับต่างชาติมาคลอดที่ไมอามี่ ฟลอริดา อเมริกา

ปรากฏว่าบรรดาชาวเน็ตต่างเข้ามาคอมเมนต์โจมตีกันถล่มทลายเรื่องที่แนะนำให้ไปคลอดลูกในอเมริกาเพื่อให้ได้สัญชาติอเมริกัน บางรายถึงขั้นบอกว่า เธอไม่รักประเทศชาติ ไม่สมควรอยู่ในเมืองไทย ควรไปอยู่ในอเมริกา

โจมตีกันไปไกลจนขนาดนั้น

ข้างเจ้านายตำแหน่งผู้อำนวยการ ร.พ.ตำรวจแถลงว่า ตอนนี้กำลังตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้นอยู่ แต่ไม่ถึงขั้นตั้งกรรมการสอบสวน เพราะการจะไปคลอดลูกที่ไหนถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ใช่ความผิดแต่อย่างใด ส่วนการลาคลอดนั้นมีกฎว่าสามารถส่งใบลาย้อนหลังได้

ไม่ถือว่าเป็นความผิด

ข้อเท็จจริงเรื่องการไปคลอดลูกในต่างประเทศของคนไทยโดยเฉพาะไปคลอดในสหรัฐอเมริกาเพื่อให้ได้สัญชาติอเมริกันนั้นมีมานานแล้ว แต่เป็นที่รู้กันเฉพาะในวงจำกัด ไม่ได้เผยแพร่ในวงกว้าง มีมานานตั้งแต่ 20-30 ปีที่แล้ว สมัยที่ยังไม่มีการสื่อสารทางอินเตอร์เน็ต มีเพียงแต่โทรศัพท์และเครื่องแฟ็กซ์

ข้อมูลนี้จึงเป็นเพียงการบอกเล่ากันปากต่อปากในคนระดับบน ส่วนคนที่แอบไปคลอดลูกในอเมริกาก็จะปิดบัง ไม่ให้ใครรู้ เพราะเกรงว่าจะเป็นที่อิจฉาริษยา

สมัยนั้นการบินไปคลอดลูกในแผ่นดินใหญ่อเมริกาเป็นเรื่องยากลำบากแทบเป็นไปไม่ได้ คนในระดับที่จะบินไปคลอดในอเมริกาได้จึงเลือกที่จะบินไปคลอดที่

เกาะกวม หรือเกาะไซปัน

ทำไมจึงเลือกเป็นเกาะกวมหรือเกาะไซปัน

ก็เพราะว่าเกาะกวมและเกาะไซปันอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกใกล้แผ่นดินใหญ่เอเชียมากกว่าที่จะบินเข้าสู่แผ่นดินใหญ่อเมริกา

และทั้งเกาะกวมและเกาะไซปันก็เป็นดินแดนของอเมริกา การมาคลอดลูกที่หนึ่งที่ใดใน 2 เกาะนี้ ลูกจะได้สัญชาติอเมริกันเหมือนกัน

เกาะไซปันนั้นอยู่ไกลจากเกาะกวมออกมา ต้องนั่งเครื่องบินต่ออีกทอด เรียกว่าเป็นบ้านนอกกว่าเกาะกวม ค่าใช้จ่ายในการคลอดจึงถูกลงมาหน่อย

แต่ไม่ว่าจะเป็นเกาะไหน ถ้าคุณสามารถจ่ายค่าคลอดลูกใน ร.พ.บำรุงราษฎร์หรือ ร.พ.สมิติเวชในเมืองไทยได้ คุณก็บินไปคลอดที่เกาะกวมหรือเกาะไซปันได้

แถมบางทียังมีเงินเหลือติดกระเป๋ากลับบ้านอีกด้วย

สมัยนั้นบินมาแผ่นดินใหญ่อเมริกาใช้เวลาบินประมาณ 30 ช.ม. ต้องแวะเปลี่ยนเครื่องที่นาริตะ ญี่ปุ่น หรือที่คิมโป (ชื่อสนามบินสมัยนั้น ต่อมาย้ายไปสนามบินอินชอน) เกาหลี หรือที่ไทเป เกาะไต้หวัน

ส่วนเรื่องการบินไปเกาะกวม ต้องบินด้วยเครื่อง Northwest Airlines ของอเมริกา เดี๋ยวนี้ Northwest มารวมกับ Delta Airlines หลายสิบปีแล้ว บินจากดอนเมืองไปนาริตะ จากนั้นจึงต่อเครื่องไปที่กวม ถ้าจะไปไซปันต้องบินอีกต่อ รวมหลายทอดเหมือนกัน

หรือบินจากดอนเมืองไปไทเปด้วย China Airlines แล้วต่อเครื่องไปกวม

ยังมีอีกสายการบินที่บินจากแผ่นดินใหญ่เอเชียไปเกาะกวมคือสาย Laos Airlines บินจากดอนเมืองไปเวียงจันทน์ แล้วเปลี่ยนเครื่องจากเวียงจันทน์บินไปมะนิลาแล้วบินต่อเข้าเกาะกวม

บินด้วย Laos Airlines ค่าตั๋วจะถูกที่สุด

แต่ระยะทางไม่ใช่เหตุผลใหญ่ที่คนไทยระดับบนสมัยนั้นบินไปคลอดลูกที่เกาะกวมหรือเกาะไซปัน

เหตุผลสำคัญที่คนไทยบินไปคลอดลูกที่เกาะกวมหรือเกาะไซปันก็คือ

มีหมอสูตินรีแพทย์ที่นั่นเป็นหมอไทย บินทำคลอดไปมาทั้ง 2 เกาะ

หมอท่านนี้เป็นหมอผู้ชาย จบจากจุฬาฯ มีชื่อเสียงทำคลอดให้คนระดับสูงเมืองไทยมายาวนาน

วันนี้ก็ยังทำคลอดอยู่

จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนเป็นพ่อเป็นแม่จะวางแผนอนาคตให้ลูกในท้อง ดังนั้น เมื่อมีโอกาสจะบินไปคลอดให้ลูกได้สัญชาติอเมริกันเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งสัญชาตินอกจากสัญชาติไทยแล้ว จึงเป็นเรื่องของโอกาสและโชควาสนาจะชักนำให้ทำได้

เป็นการสร้างโอกาสให้ลูกในท้อง

เรื่องแค่นี้ ขออย่าได้ตัดสินด้วยอคติคับแคบแบบ “องุ่นเปรี้ยว” ว่าเป็นคนไม่รักชาติเลย

เรื่องไม่ได้จบลงแค่นี้ ยังมีสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาอีกคือ

เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2019 เพจเฟซบุ๊กชื่อดัง CSI LA ได้โพสต์ข้อความว่า “ตอนนี้คนไทยในอเมริกาได้ทำการล่ารายชื่อแจ้งทำเนียบขาวให้เอาเรื่องหมอแอร์ กรณีเชิญชวนคนให้มาคลอดลูกที่อเมริกา ซึ่งเป็นสิ่งผิดกฎหมายและหลอกลวง เพราะเดินทางเข้าสหรัฐด้วยวีซ่า B1 แล้วมาคลอดลูก เพื่อให้ลูกได้สัญชาติอเมริกัน ขอให้คนไทยร่วมลงชื่อร้องเรียนกล่าวโทษหมอแอร์ต่อทางการอเมริกา

และขอให้อเมริกาถอนสัญชาติเด็กทารก

ผมขอคัดค้านข้อความทั้งหมดนี้ด้วยเหตุผลว่า

1. “การที่อ้างว่าคนไทยในอเมริกาทำการล่ารายชื่อ” นั้นเป็นการกล่าวอ้างที่เกินความจริง ส่งข่าวกลับมาเมืองไทยให้มองดูเหมือนว่าเป็นความเห็นของคนไทยส่วนใหญ่ ซึ่งที่จริงไม่ใช่ อาจจะมีแค่ CSI LA คนเดียวด้วยซ้ำไป

2. การกล่าวหาว่าการมาคลอดลูกด้วยวีซ่า B1 (วีซ่าท่องเที่ยว) เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย (อเมริกา) ก็เป็นข้อความอันเป็นความเท็จ ปั้นน้ำเป็นตัว เพราะอเมริกาไม่เคยมีกฎหมายห้ามคนถือวีซ่า B1 คลอดลูก

3. การกล่าวหาว่าหมอแอร์โพสต์ข้อความชวนคนมาคลอดลูกในอเมริกามีความผิดตามกฎหมายอเมริกา ยิ่งเป็นคำกล่าวหาที่ไร้สาระ

4. เรื่องการขอให้ “อเมริกาถอนสัญชาติเด็กทารก” เป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้โดยสิ้นเชิง เพราะรัฐธรรมนูญอเมริกาเขียนไว้ว่า

ต้องให้สัญชาติแก่ทุกคนที่ถือกำเนิดในอเมริกา ไม่ใช่แต่เฉพาะพลเมืองอเมริกันเท่านั้น

ในตุรกีมีการเสนอแพ็กเกจให้คนเติร์กมาคลอดลูกในอเมริกาตั้งแต่ปี 2003

เม็กซิโกก็มีแพ็กเกจให้คนเม็กซิกันมาคลอดลูกในอริโซนา

เศรษฐีเอเชีย จีน ฮ่องกง ไต้หวัน มาเก๊า เกาหลี ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น ฯลฯ มาคลอดลูกในอเมริกากันทั้งนั้น

จากประสบการณ์ของผมที่พบเห็นมาในอเมริกา บรรดาผู้อพยพทั้งหลาย ไม่ว่าจะสัญชาติอะไร ต่างมีกลุ่มหรือชมรมให้ความช่วยเหลือผู้อพยพที่มาใหม่ให้มีโอกาส “ตั้งหลักได้ ”

เพราะดินแดนอเมริกานั้นยังมีพื้นที่อีกกว้างใหญ่ไพศาล หากจะมีผู้อพยพเพิ่มอีกกี่หมื่นกี่แสนคนก็ยังมีพื้นที่มากพอให้แบ่งกันทำมาหากิน ไม่ต้องแย่งกันกินเหมือนที่อื่น

จะมีก็แต่คนไทยบางส่วนนี่แหละที่ไม่เคยช่วยเหลือคนไทยด้วยกัน แถมยังอิจฉาริษยาไม่อยากเห็นใครได้ดี ใจแคบ ขนาดกล่าวโทษทำร้ายเด็กทารกได้ลงคอ

คนจิตใจเช่นนี้ สมควรที่จะโดนเรียกร้องให้ถอนสัญชาติแทนเด็กทารก