ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต [email protected]

จัดหนัก ‘มาสด้า ซีเอ็กซ์-5’

ครอสส์โอเวอร์สุดไฮเทค

เติบโตต่อเนื่องมาหลายปีติดกันแล้วกับค่าย “มาสด้า” ที่เรียกว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมามียอดขายทะลุทะลวงเหลือเกิน

โดยเฉพาะในปี 2561 มาสด้า ประเทศไทย ถือว่าเป็นประเทศที่มียอดขายเติบโตมากที่สุดของมาสด้า คอร์ปอเรชั่น

ส่วนสำคัญไม่พ้นเทคโนโลยีต่างๆ ที่มาสด้าใส่มาในรถหลากหลายรุ่น รวมไปถึงเครื่องยนต์ “SKYACTIV” ที่เลื่องชื่อ

รถรุ่นแรกของค่ายที่ใช้เทคโนโลยี “SKYACTIV” ทั้งคันคือซีเอ็กซ์-5ž รถเอสยูวีขนาดกลาง

รุ่นล่าสุดที่มาทำตลาดในเมืองไทย ถือเป็นรุ่นที่โดดเด่นมากในเรื่องเทคโนโลยีความปลอดภัย และความไฮเทค

ผมเองเคยไปทดสอบรถรุ่นนี้ที่ประเทศมาเลเซีย ก่อนที่จะเข้ามาเปิดตัวในเมืองไทย

แต่ด้วยเป็นการขับรถระยะสั้นๆ ในสนามจำลอง จึงไม่ได้ข้อมูลหรือการใช้งานจริงมากนัก

จนเมื่อมาสด้าเปิดตัว “ซีเอ็กซ์-5” ในเมืองไทย จนแล้วจนรอดผมก็ไม่มีโอกาสได้จับต้องรถรุ่นนี้

แต่ท้ายที่สุดหลังผ่านไปพักใหญ่ๆ ก็ได้มาจ๊ะเอ๋กันจนได้

 

มาสด้า “ซีเอ็กซ์-5” รุ่นล่าสุดยังใช้แนวคิดการออกแบบ KODO DESIGN แต่พัฒนาให้โดดเด่นเหนือระดับยิ่งขึ้น

สีแดงใหม่ “Soul Red Crystal” ยังช่วยยกระดับให้มาสด้า CX-5 โฉมใหม่ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยมิติความลึกของสี

กระจังหน้าขนาดใหญ่ดูมีมิติมากขึ้น รับกับไฟหน้าที่มีขนาดเรียวลง

ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า สามารถเปิด-ปิดได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัสและรีโมตคอนโทรล สามารถปรับตั้งระดับการเปิดได้ตามที่ต้องการ

ภายในยังเด่นด้วยปรัชญา “HUMAN-CENTERED DESIGN” จัดวางฟังก์ชั่นการใช้งานในตําแหน่งศูนย์กลาง เหมาะสมกับการใช้งาน โดยผู้ขับไม่ต้องละสายตาจากถนน

ห้องโดยสารกว้างขวาง พนักพิงเบาะหลังปรับเอนได้และสามารถแยกพับได้ 3 ส่วน แบบ 40:20:40 อิสระจากกัน

เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า พร้อมระบบบันทึกตําแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ที่สามารถบันทึกได้ 2 ตําแหน่ง

ติดตั้งหลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า ELECTRONIC PARKING BRAKE ระบบเบรกมือไฟฟ้า พร้อมระบบ Auto Hold เพื่อเพิ่มความสบายในการขับขี่ พวงมาลัยดีไซน์ใหม่แบบสปอร์ตพรีเมียม จับกระชับมือพร้อมปุ่มควบคุมการทํางานที่พวงมาลัย

ระบบเสียง BOSE รอบทิศทาง ลำโพง 10 ตำแหน่ง พร้อมเทคโนโลยี AUDIOPILOTTM2 และ Centerpoint2 ที่ช่วยชดเชยและปรับแต่งเสียงให้สมจริงมากยิ่งขึ้น

 

สะดวกสบายและปลอดภัยมากขึ้นด้วย CENTER COMMANDER ปุ่มควบคุมระบบ MZD CONNECT ที่คอนโซลกลางตรงตําแหน่งใกล้มือ ผู้ขับใช้งานง่ายเพียงหมุนหาคําสั่งที่ปรากฏขึ้นบนจอ ใช้ได้ทั้งขณะรถวิ่งหรือรถจอดนิ่ง ให้ผู้ขับใช้สมาธิกับการขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น

มี WINDSHIELD ACTIVE DRIVING DISPLAY แสดงข้อมูลสําคัญในการขับขี่แบบสี บนกระจกหน้ารถ ในระดับสายตาผู้ขับ

มาถึงขุมพลังมีให้เลือก 2 บล็อกเครื่องยนต์ SKYACTIV-D 2.2 คลีนดีเซล 175 แรงม้า แรงบิดสูง 420 นิวตัน-เมตร ประหยัดสูงสุด 17.5 กิโลเมตร/ลิตร เทอร์โบชาร์จเจอร์แบบสองขั้น ช่วยให้เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซลมีแรงบิดสูงแม้ในรอบต่ำ

เครื่องยนต์ SKYACTIV-G เบนซิน 2.0 ลิตร ให้กําลัง 165 แรงม้า แรงบิดสูง 210 นิวตัน-เมตร ประหยัดสูงสุด 13.9 กิโลเมตร/ลิตร

ทำงานควบคู่กับเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ 6 สปีด ระบบ i-ACTIV AWD ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ

ติดตั้ง i-Stop (Idling Stop System) ระบบประหยัดน้ำมันที่สั่งให้เครื่องยนต์หยุดการทํางานชั่วคราวเมื่อรถจอดนิ่งขณะที่อุปกรณ์ต่างๆ ภายในรถยังคงทํางานตามปกติ ทําให้ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเครื่องยนต์จะกลับมาทํางานอัตโนมัติทันทีเมื่อรถพร้อมออกตัว

ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดภายใต้ชุดเทคโนโลยี SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS ระบบ GVC จะช่วยควบคุมสมรรถนะในการขับขี่ให้แม่นยําและสมดุลมากขึ้น

การทํางานของระบบ GVC จะประมวลผลจากการบังคับพวงมาลัยของผู้ขับขี่ ความเร็วของรถ รวมถึงน้ำหนักของเท้าที่กดลงบนแป้นคันเร่ง จากนั้นระบบจะควบคุมแรงบิดของเครื่องยนต์ และเกิดการถ่ายน้ำหนักที่เหมาะสมไปสู่แต่ละล้อ ทําให้รถเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น ควบคุมได้แม่นยําในทุกสถานการณ์

ทำให้รถคันนี้ขับได้ง่ายและปลอดภัยมากขึ้น

 

ระบบความปลอดภัย “i-ACTIVSENSE” ต้องถือว่าไม่น้อยหน้ารถยุโรป มาครบ อาทิ

ALH (Adaptive LED Headlamps) ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ปรับการทํางานของไฟสูง-ต่ำ แยกอิสระซ้าย-ขวาโดยอัตโนมัติ ให้เหมาะสมกับสภาพถนน ระยะห่างจากตําแหน่งของรถคันหน้า หรือรถที่วิ่งสวนมา เพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ยามค่ำคืน และช่วยให้การทํางานของไฟสูงไม่ไปรบกวนรถคันอื่น

MRCC (Mazda Radar Cruise Control) ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ พร้อมปรับระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันหน้า หากพบรถคันหน้าที่มีความเร็วน้อยกว่า ระบบจะทำการปรับลดความเร็วลงตามความเร็วของรถคันหน้าและรักษาระยะห่างกับรถคันหน้าให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ สามารถปรับระยะห่างจากรถคันหน้าได้จากสวิตช์ที่พวงมาลัย

LDWS (Lane Departure Warning System) ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน ระบบจะส่งสัญญาณเตือนไฟกะพริบบนหน้าปัด พร้อมส่งเสียงเตือนเมื่อตรวจพบการเบี่ยงออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ

SBS (Smart Brake Support) ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ ตรวจจับระยะห่างระหว่างรถของคุณและรถคันหน้า หากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากการชนรถคันหน้า ระบบจะส่งสัญญาณเตือนและเสียงเตือนอย่างต่อเนื่อง ถ้าผู้ขับไม่เบรก ระบบจะช่วยทําการเบรกโดยอัตโนมัติ เพื่อลดโอกาสในการชนรถคันหน้า

SCBS (Smart City Brake Support) ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ หากระบบตรวจสอบพบว่าไม่สามารถเลี่ยงการชนได้ ระบบจะช่วยเบรกอัตโนมัติ เพื่อลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุจากการชนปะทะด้านหน้าเมื่อขับด้วยความเร็วต่ำ ฯลฯ

 

การทดสอบครานี้ผมเน้นวิ่งรอบๆ กรุงเทพฯ เป็นหลัก มีบางจังหวะที่ยิงยาวออกไปปริมณฑลบ้าง

อัตราเร่งตีนต้นมาเร็วและแรงเกินคาด ส่วนความเร็วกลางและปลายไหลได้เรื่อยๆ

เครื่องเสียงแจ่มว้าวมาก แทบไม่ต้องไปทำอะไรเพิ่มแล้ว

ระบบช่วงล่างมาสด้าขึ้นชื่อไม่ใช่น้อย การเข้าโค้งหรือกระชากเปลี่ยนเลนเร็วๆ ไม่มีไหววูบให้ตื่นตระหนก

แต่ขอสารภาพว่าด้วยเทคโนโลยีตัวช่วยต่างๆ มีมาให้เยอะเหลือเกิน ไม่สามารถใช้ได้ครบทุกอันในระหว่างการทดสอบ

ภายในเวลานั่งแล้วค่อนข้างโปร่ง ไม่อึดอัด เช่นเดียวกับที่นั่งตอนหลังมีที่วางเท้าได้เหลือเฟือแม้จะไปกันเต็มความจุ 3 คน

“มาสด้า ซีเอ็กซ์-5” มีให้เลือก 5 รุ่นย่อย ทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล ราคาเริ่มต้น 1,290,000-1,770,000 บาท