ขอแสดงความนับถือ/ฉบับประจำวันที่ 29 มี.ค. – 4 เม.ย. 2562

ขอแสดงความนับถือ

 

คําแถลงของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

9 พฤษภาคม 2562 นั่นทีเดียว

ถึงจะมี ส.ส.เพื่อตั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลใหม่ อย่างเป็น “ทางการ”

เส้นทางยังยาวไกลนัก

ไม่รู้ว่า ตลอด 2 รายทาง จะทิ้งซากศพอะไรไว้บ้าง

แน่นอน ไม่เว้นแม้กระทั่ง กกต.เอง

คนไทยจึงต้องตั้งสติกันดีๆ

ขอเชิญชวนอ่าน “บ้านหลังสุดท้าย” ของปิยพงศ์ (เมืองหละปูน)

 

เรียนบรรณาธิการมติชนสุดสัปดาห์

ทรัพย์สินเงินทอง ตำแหน่งหน้าที่ อำนาจ วาสนานั้น

เป็นสุดยอดของความปรารถนาของปุถุชนทั่วไป

ซึ่งต่างยื้อยุดฉุดแย่งกับสิ่งเหล่านี้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย

ไม่ว่าจะโดยวิธีใด ขอให้ได้มาเป็นพอ

หลังได้มาแล้ว ก็ยังปรารถนาอยากจะให้อยู่กับตนตลอดไป

และยังอยากจะได้เพิ่มพูนให้มากขึ้นไปอีกอย่างไม่มีสิ้นสุด

พุทธภาษิตหนึ่ง “นตฺถิ ตณหา สมานที” แม่น้ำเสมอด้วยตัณหาไม่มี

ยิ่งเป็นความจริงคู่กับโลกมาถึงสองพันห้าร้อยกว่าปีเศษมาแล้ว

และคงจะเป็นความจริงต่อไป

ตราบจนโลกใบนี้มีอันต้องแตกสลายไปนั่นแหละ

 

ขอตัดไปยังฉากอีกฉากหนึ่ง

ภาพแรก โรงศพสแควร์ ย่านสามแยก ถนนเจริญกรุง ใกล้กับโรงหนังบรอดเวย์เก่า เมื่อเกือบๆ ห้าสิบปีมาแล้ว

แถวนั้นมีร้านขาย “บ้านหลังสุดท้าย” หรือขายโลงศพ ชุมนุมกันอยู่มากมายหลายร้าน

กิจการเจริญรุดหน้ามาถึงทุกวันนี้ และธุรกิจนี้ไม่มีวันเจ๊งเหมือนธุรกิจอื่น

เพราะมนุษย์ไม่ว่าหน้าไหน จะยากดีมีจน ยาจกเข็ญใจ หรือร่ำรวยมหาศาล เพียบพร้อมด้วยอำนาจวาสนา แต่ไม่ถึงร้อยปี ต่างก็เข้าไปนอนหมดสภาพ ในกล่องไม้เล็กๆ นี้กันทุกราย

ขอคารวะและขอบคุณธรรมชาติ ที่ยังคงความยุติธรรมไว้

แม้ความยุติธรรมจากมนุษย์ด้วยกันมันจะหายากหาเย็นเหมือนงมเข็มในมหาสมุทรก็ตาม

แต่วันหนึ่ง มนุษย์ผู้ทำหน้าที่ประสาทความยุติธรรมมั่ง ไม่ยุติธรรมมั่ง ที่ให้กับมนุษย์ด้วยกัน

ก็หนีความยุติธรรมของธรรมชาติบทนี้กันไม่พ้นสักราย

 

ตัดไปภาพที่สอง

ร้านขายโลงศพข้างถนนสายต้นยาง เชียงใหม่-ลำพูน เขตสารภี

ติดป้ายเชิญชวนลูกค้าเอาไว้ว่า

“ยินดีต้อนรับทุกท่าน”

เหลือบไปมองเห็นป้ายและสินค้าที่ตั้งโชว์แล้ว

เล่นเอาขนลุกขนพอง

ว่าที่จริงแล้ว พระเดชพระคุณนี้เจ้าของร้านไม่ต้องติดป้ายเชิญชวนก็ได้

เพราะทุกคนต่างก็มุ่งหน้าไปใช้บริการของปี้อ้าย แบบหนีไม่รอดสักรายอยู่แล้ว

เฮ้อ…ก่อนจบข้อเขียนวันนี้ ขอปลงหน่อย

“คนหนอคน ไหงถึงได้เห็นแก่ตัว

เอารัดเอาเปรียบแก่งแย่งชิงดี

กดขี่ข่มเหงกันไม่หยุดหย่อน

ก็คงจะสำนึกกันได้บ้างหรอกน่า

ยามเจ็บหนักใกล้ตายและเห็นสินค้าตัวนี้กัน

แบบนิยายกำลังภายใน ที่ให้สติกับผู้คนกัน

‘ไม่เห็นโลงศพ มิหลั่งน้ำตา’ นั่นแหละ

บ้านหลังสุดท้ายของพระเดชพระคุณก็หลังเท่านี้กันจริงๆ”

ปิยพงศ์ เมืองหละปูน

เรื่อง/รูป