ศัลยา ประชาชาติ : เจ้าสัว-ยักษ์รับเหมาระทึกเลือกตั้ง สัมปทาน-นโยบาย “ขอให้เหมือนเดิม” ลุ้นรัฐบุรุษ สานต่อ 5G-ไม่มีพลิกล็อก

การเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ 24 มีนาคม 2562 ไม่ใช่แค่เกมการแข่งขันที่ดุเดือด-พิสดารของบรรดานักการเมือง

แต่เป็นเกมที่นักธุรกิจ เจ้าสัว พ่อค้า นักสัมปทาน หลังม่านการเมือง ต่างลุ้นระทึกถึงผลการเลือกตั้ง ที่หวังไม่ให้ “พลิกล็อก”

ที่เปิดหน้าออกมาชี้ทางชัดๆ “เลือกข้าง” ก็มีให้เห็น

ที่ปิดเสียง-ป้องปาก บอกภาษากาย ในฐานะ “สปอนเซอร์” หลักอย่างเป็นทางการ แต่ไม่เปิดหน้า ก็ปรากฏตัว

 

เจ้าสัว-บุญสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ เป็นหนึ่งในนักธุรกิจที่เลือก “เปิดหน้า” โบกธงให้ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคพลังประชารัฐ ได้ไปต่ออีกสมัย

เขาส่งสัญญาณต่อสาธารณะ ถึงหูพนักงานในเครือกว่า 1 แสนคนทั่วประเทศ ภายใต้บริษัทกว่า 200 แห่งว่า “เกือบ 10 ปีที่ไม่มีการเลือกตั้ง ครั้งนี้ประชาชนตื่นตัวมาก คนไทยต้องไปเลือกตั้ง เขตไหนมีภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ให้ลงคะแนนให้ได้…ไม่ผิด เขามีโอกาสเป็นรัฐบุรุษ”

เจ้าสัวรุ่นเก๋า วัย 83 ทำการค้ามาตั้งแต่วัย 18 เห็นการเมืองมาแล้วทุกยุค ดีลมาแล้วทุกรูปแบบ อยู่ในวงการธุรกิจมาแล้วเกือบ 7 ทศวรรษ บอกว่าเมืองไทยมี “ป๋า” ที่เป็นรัฐบุรุษมาแล้ว 1 คน และ พล.อ.ประยุทธ์มีโอกาสจะเป็นคนที่ 2

“ในทัศนะผม มีรัฐบุรุษอยู่ 4 คน สมัยก่อนก็มี จอมพลสฤษดิ์ จอมพล ป. แล้วป๋าเปรม ยุคนี้ดีไม่ดีจะมีป๋าอีกหนึ่งก็ไม่แน่…จริงๆ เมืองไทยรัฐประหารอย่าไปดูว่าไม่ดี เหมือนกับบริษัทสมัยก่อน เปลี่ยนผู้บริหารคือเปลี่ยนหลงจู๊ รัฐประหารก็คือเปลี่ยนหลงจู๊”

“หากรัฐบาลหลังเลือกตั้งมีความต่อเนื่องจากชุดเดิม รู้ทิศทางเศรษฐกิจ พรรคไหนก็ได้ ขอให้ต่อยอดนโยบายเดิม ประเทศไทยอาจแซงสิงคโปร์ได้ แต่ถ้าไม่ได้ ก็จะกลายเป็นถอยหลังไป 10 ปี”

“นักธุรกิจต่างชาติเขารอแน่นอน รอดูผลการเลือกตั้งหลัง 24 มีนาคม จะได้รู้ว่าก้าวหน้าหรือถอยหลัง แต่ถ้าพลิกล็อกนะ ก็น่าเศร้า เวียดนามกับอินโดนีเซียจะยิ้มเลย นักลงทุนก็จะหันเหไปทางนั้นหมด ผมคิดอย่างนี้นะ” นายบุญสิทธิ์กล่าว

 

เช่นเดียวกับนักสัมปทาน-ยักษ์รับเหมาก่อสร้าง ที่รอธงคำตอบ-ผลเลือกตั้ง เพื่อลงทุนต่อ และ “ขอให้เหมือนเดิม”

นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง (BTS) บอกซ้ำๆ ไม่น้อยกว่า 2 ครั้งก่อนถึงวันเลือกตั้งว่า “รัฐบาลที่จะมาจากการเลือกตั้ง ขอให้เดินหน้าลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมขนส่ง อยากให้เร่งเร็วขึ้น จัดลำดับความสำคัญของโครงการรถไฟฟ้า รถไฟทางคู่ มอเตอร์เวย์ รถไฟความเร็วสูง เพราะยิ่งสร้างเร็ว จะยิ่งส่งผลดีต่อจีดีพีของประเทศให้เติบโตขึ้น นักลงทุนก็รอการลงทุน รอคำตอบ รอโอกาส แต่ถ้ากลัวการเมืองจนไม่ลงทุนก็ไม่ใช่วิสัยธุรกิจ”

แม้กระทั่งผู้รับเหมาก่อสร้างอาคาร “รัฐสภา” อย่างนายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น ก็ยังลุ้นว่ารัฐบาลใหม่จะมีเสถียรภาพแค่ไหน แต่คาดการณ์ไว้ว่าต้องสานต่อโครงการเก่า เฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง จะสามารถทลายข้อจำกัดการลงทุนจากต่างชาติในบางประเทศได้

เจ้าของกิจการที่เป็นยิ่งกว่าห้างสรรพสินค้า “ไอคอนสยาม” อภิมหาโครงการเมืองแห่งการใช้ชีวิต “นางชฎาทิพ จูตระกูล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด มองโลกหลังเลือกตั้งไว้สวย หากรัฐบาลแข็งแรง-ชัดเจน

“ประเทศเราทำเลดี ต้นทุนทางธุรกิจดี จึงเป็นโอกาสที่ทุนต่างชาติจากฮ่องกง สิงคโปร์ เข้ามาตั้งไทยเป็นฮับธุรกิจ ถ้าประเทศเราสงบสุข มีการแก้กฎหมายที่ทำให้ต่างชาติสามารถเข้ามาลงทุนได้อย่างสะดวกมากขึ้น ไม่อลวนอลเวง จะทำให้เมืองไทยมีโอกาสที่ดีมาก”

 

นักบริหารชาวต่างชาติ ในกิจการที่เชื่อมคนทั้งโลกแค่ลัดนิ้วมือ ด้วยโทคโนโลยี 5G ก็จดจ่อเลือกตั้งไทย ไม่แพ้คนทั้งโลก “นางอเล็กซานดรา ไรซ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือดีแทค ส่งสัญญาณว่า “5G จะสร้างมิติใหม่ของการสร้างเศรษฐกิจดิจิตอลและการเปลี่ยนผ่านสังคมของประเทศไทย จำเป็นที่รัฐต้องกำหนดกลยุทธ์ของประเทศ…เชื่อว่าภาครัฐควรสนับสนุนระบบเปิด การจัดสรรคลื่นความถี่และการออกใบอนุญาตที่รวดเร็ว มีความยืดหยุ่น ประเทศจึงจำเป็นต้องมีแผนการจัดสรรคลี่นความถี่ที่ระบุชัดเจนว่ามีคลื่นความถี่ใดที่สามารถนำมาใช้งานได้ และจัดสรรได้เมื่อไร เพื่อให้ผู้ประกอบการวางแผนการลงทุนระยะยาวได้”

ขณะที่ค่ายอุตสาหกรรมรถยนต์-อาหารและยา ทั้งฮอนด้าและโอสถสภา ต่างเห็นไปทิศทางเดียวกันว่า “รัฐควรคลี่คลายปัญหาหนี้ครัวเรือน” ปลดล็อกไปสู่พลังแห่งการจับจ่าย

“นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด บอก แม้มั่นใจว่าการเลือกตั้งจะสร้างความชัดเจนเรื่องนโยบาย แต่สิ่งที่กังวลคือปัญหาหนี้ครัวเรือน ปัจจัยเศรษฐกิจในและต่างประเทศ ที่ยังคงมีผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ส่วนอุตสาหกรรมรถยนต์ก็ยังเชื่อว่ามีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง

ตรงกับปัญหาและความต้องการของนางวรรณิภา ภักดีบุตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) ที่หวังว่า หลังการเลือกตั้งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจภาพรวมให้ดีขึ้น ขอให้รัฐบาลใหม่เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนก่อนอันดับแรก

เหล่าบรรดาซีอีโอ เจ้าของกิจการ นักบริหารอาชีพ ทั้งค่ายอสังหาริมทรัพย์ ไปจนถึงพ่อค้าข้าว ส่งสารถึงว่าที่รัฐบาลใหม่ในทิศทางไม่ต่างกัน

ขอเปลี่ยนผ่านด้วยการเลือกตั้ง สู่การมีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพและนิ่ง-นาน ไม่มีม็อบ-ไม่มีแนวต้าน ปรับโหมดประเทศไปสู่ Chapter ใหม่ที่ไม่สะดุดขากันเอง!!