ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 25 - 31 มกราคม 2562 |
---|---|
คอลัมน์ | ท่าอากาศยานต่างความคิด |
เผยแพร่ |
รัก/หลง/เมือง (7)
ร่างกายของเขาเย็นเฉียบ อากาศเบื้องนอกในเมืองเล็กๆ แห่งนี้ที่ว่าหนาวเย็นกลับอบอุ่นกว่าอุณหภูมิในร่างกายของเขา
เสียงหัวเราะของหญิงสาวผู้นั้นกระทบโสตสัมผัสของเขาเป็นระยะ
เธออยู่ในท่วงท่าแห่งการพักผ่อน
แน่นอน เธอมาที่เมืองแห่งนี้เพื่อการพักผ่อน ผู้คนทั้งหลายมาที่เมืองแห่งนี้เพื่อการพักผ่อน
มีแต่เขาเพียงผู้เดียวที่มาที่เมืองแห่งนี้เพื่อหลบหนี
แต่แล้วเขากลับพบว่าการหลบหนีนั้นไม่มีอยู่จริง
มันเป็นเพียงแค่ความคิดของเขา
มันเป็นเพียงแค่ความเพ้อฝันของเขาว่าการหลบหนีนั้นกระทำได้
แต่บัดนี้เขาประจักษ์แล้ว ทุกการหลบหนีเป็นเพียงการผัดผ่อนของเวลา
ทุกการหลบหนีเป็นเพียงการประวิงเวลาก่อนการเผชิญความจริง
เขาลุกออกจากเก้าอี้ ชำระค่าเครื่องดื่มคว้าเป้สะพายหลังและเดินออกจากร้านเล็กๆ แห่งนั้นไป
เขาอยากเข้าไปทักทายหญิงสาวผู้นั้น
การได้พบกับคนคุ้นเคยในสถานที่แปลกหน้าล้วนเป็นเรื่องน่ายินดี
แต่เขาจะทักทายเธอในฐานะใดกันเล่า
ในฐานะของผู้คนที่คุ้นเคยกันในเมืองหนึ่ง
หรือในฐานะของผู้คนที่เคยพบหน้ากันในเมืองหนึ่ง
และบัดนี้รู้สึกว่าควรจะทำความคุ้นเคยกันมากกว่านี้
สำหรับหญิงสาวผู้นั้นแล้ว ฐานะเดียวที่เขามีสำหรับเธอคือการเป็นคนแปลกหน้า
และสำหรับการเป็นคนแปลกหน้าแล้ว การทักทายใดๆ ล้วนไม่จำเป็น
ถนนสายที่นำไปสู่นอกเมืองมืดมิดและทอดยาว
เป้สะพายหลังของเขาดูหนักอึ้งกว่าเดิม
มันหนักอึ้งขึ้นเพราะความหนักและเหนื่อยใจของเขา
หรือมันหนักอึ้งขึ้นเพราะร่างกายของเขาอ่อนแอลง เขาไม่รู้สาเหตุที่แท้จริง
แต่เขารู้ว่าหากเขาไม่กลับถึงกระท่อมที่เขาใช้พำนัก
หากเขาไม่กลับถึงสถานที่ที่เขารู้สึกปลอดภัยโดยเร็วแล้ว เขาคงต้องพังทลายและย่อยยับลงเป็นแน่
เขาอาจทรุดกายลงกับพื้นถนน นอนขดตัว ร่ำไห้ให้ใครสักคนเห็นใจ
หรืออาจเลวร้ายกว่านั้น เขาอาจทิ้งตัวลงไปกับพงหญ้ามืดทะมึนข้างทาง ซบหน้ากับดิน อ้าปากกลืนกินเม็ดทราย และเฝ้ารอเวลาที่จะตายจากโลกนี้ไป
เพราะเหตุใด ความผิดหวังจากความรักจึงส่งผลรุนแรงนัก
เขาอยากล่วงรู้เหตุผลที่ว่า เขาอดทนกับสิ่งต่างๆ นานาได้อย่างเข้มแข็ง การเรียน การสอบ การดั้นด้นหางาน ทุกอย่างที่ต้องใช้พลังงานมหาศาล หากแต่เขากลับผ่านมันมาอย่างราบรื่น
แต่เหตุใดไฉนเล่าเพียงแค่ภาพใบหน้าของผู้หญิงคนหนึ่ง เพียงแค่ภาพเรือนร่างของผู้หญิงคนหนึ่งก็ทำให้ความรู้สึกที่มีเจ็บปวด
เขาอ่อนแอถึงเพียงนี้เทียวหรือ
เขาไร้ซึ่งพลังถึงเพียงนี้เทียวหรือ
เขาอยากเดินออกไปให้ไกลจนสุดขอบโลก
เขาอยากหนีออกไปยังดินแดนที่ห่างไกลจนหญิงสาวผู้นั้นไม่อาจติดตามมาถึง
แต่เขารู้ดีว่าไม่มีสถานที่แห่งนั้นอยู่จริง หญิงสาวผู้นั้นสถิตอยู่ในใจของเขา
และไม่มีใครหลบหนีใจของตนเองได้
ไม่มีใครหลบหนีใจของตนเองได้สำเร็จ ไม่มีเลย
เขาฝืนเดินต่อไปเรื่อยๆ ลากขาไปบนถนนมืดมิดและเหน็บหนาว
ค่ำคืนเช่นนี้ควรมีใครสักคนเคียงข้าง
เขานึกถึงภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่เขาเคยได้ชมในอดีต
หนุ่มสาวแปลกหน้าคู่หนึ่งพบกันบนรถไฟที่มุ่งหน้าสู่นครเวียนนา
พวกเขาชื่ออะไรกันแน่
เขาพยายามทบทวนความจำ
ใช่ เจสซี่กับไอรีนไหม
ไม่สิ เจสซี่กับเซลีนต่างหาก
ชายหนุ่มผู้นั้นเป็นคนอเมริกันนามเจสซี่เดินทางมายุโรปเพื่อการท่องเที่ยว
แนวคิดดั้งเดิมของชายหนุ่มอเมริกันผู้ที่ต้องการการเติบโต
พวกนายควรเห็นโลกกว้างก่อนการเริ่มต้นการทำงาน พวกนายควรเห็นโลกกว้างก่อนการเข้ามหาวิทยาลัย
มีเสียงตะโกนแบบนั้นล่องลอยอยู่ในอากาศเหนือศีรษะของชายหนุ่มอเมริกันทุกคน
และเมื่อเสียงนั้นทำงานได้ผล ชายหนุ่มสักคนจะเก็บสิ่งของและออกเดินทาง เอเชีย อินเดีย ศรีลังกา ไทย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น แล้วแต่ที่ที่พวกเขาคิดว่าจะได้พบความจริงของชีวิต
ยุโรป อังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน อิตาลี หรือออสเตรีย แล้วแต่ที่ที่พวกเขาคิดว่าจะได้เจอองค์ความรู้อันมีประวัติศาสตร์ยาวนาน
เจสซี่เลือกยุโรปเป็นสถานที่เดินทางและในรถไฟมุ่งหน้าสู่นครเวียนนา
เขาได้พบกับเซลีน หญิงสาวที่เขาไม่อาจลืมเลือนได้
ภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายในโรงหนังขนาดเล็กประจำมหาวิทยาลัยของเขา
มันถูกฉายพร้อมกับภาคต่ออีกสองตอนของมันในวันต่อไปและต่อไป
ในภาคนี้ เจสซี่และเซลีนออกเดินสนทนาไปรอบๆ นครเวียนนา ในค่ำคืนที่เรากลายเป็นคนแปลกหน้าของเมืองนั้นการมีใครสักคนมีความหมายมาก
เขาคิดถึงใครสักคนที่จะเดินเคียงข้างเขาขึ้นอีกครั้งในยามนี้
เป็นการคิดถึงมันอย่างจริงจัง
มนุษย์ไม่ได้ต้องการความรักเพียงเพราะความพึงพอใจ
มนุษย์ต้องการความรักเพื่อให้ตนเองอบอุ่นขึ้นด้วย โลกอันกว้างใหญ่หนาวเหน็บเกินไป และความหนาวเหน็บที่ว่านั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับเมืองใดเมืองหนึ่งโดยเฉพาะ
อาจเป็นเวียนนา ลอนดอน นิวยอร์ก กรุงเทพฯ หรือแม้แต่เมืองเล็กๆ ในหุบเขาเช่นเมืองนี้
เมืองที่เขากำลังเดินท่องไปตามท้องถนนของมันเพียงลำพัง
เจสซี่ลาจากเซลีนในยามอรุณรุ่ง ทั้งคู่ล้วนมีสิ่งที่ต้องไปจัดการ หากต้องการเป็นคู่รักกันมีหลายสิ่งที่เขาทั้งคู่ต้องจัดการ
ภาพบรรยายในภาพยนตร์บ่งบอกว่าทั้งคู่ได้ตกอยู่ในห้วงรักซึ่งกันและกันอย่างดูดดื่ม
หกเดือนสำหรับการจัดการปัญหาไม่ใช่เวลาที่ยาวนาน
“มาพบกันที่สถานี” คำมั่นที่รอวันสายฝันให้เป็นจริง
ผู้ชมใจจดใจจ่อกับความสมหวังของเจสซี่และเซลีน
แต่เมื่อเวลาผ่านไปหกเดือน เช้าวันนั้นที่สถานี ไม่มีใครปรากฏตัวขึ้นเลย
ภาพยนตร์รักกลายเป็นภาพยนตร์เศร้า เขานึกถึงตนเองในยามนี้ ในยามที่เราปรารถนาให้ใครบางคนปรากฏตัวขึ้น ใครบางคนนั้นกลับหายไป
ในยามที่เราปรารถนาให้ใครบางคนหายไป ใครบางคนนั้นกลับปรากฏตัวขึ้น
เฉกเช่นกับที่หญิงสาวผู้นั้นปรากฏตัวต่อเขาในยามนี้
ความรักคือเขาวงกตอันแสนมากเล่ห์ คุณปรารถนามัน คุณจะไม่ได้มัน
เขาจำได้ว่าเขาแทบจะอดทนรอการเข้าดูภาคต่อไปของภาพยนตร์เรื่องนี้ในวันรุ่งขึ้นไม่ไหว
เมื่อได้เวลาเปิดขายบัตรชมภาพยนตร์ เขาเป็นคนแรกที่พุ่งไปคว้าบัตรใบแรกมาครอบครอง
เขาเข้าไปนั่งอยู่ในโรงภาพยนตร์เป็นคนแรก
ได้ยินเสียงหัวใจของตนเต้นแรง
อะไรบ้างที่เกิดขึ้นกับเจสซี่และเซลีน
เป็นข่าวดีหรือข่าวร้ายที่ภาพยนตร์จะมอบให้เขาในตอนต่อของความสัมพันธ์ของคนคู่นี้
และเมื่อภาพยนตร์เริ่มต้นขึ้น
เขาก็พบว่าเวลาของเจสซี่และเซลีนผ่านไปนับเก้าปี
เจสซี่ในภาพยนตร์ไม่ใช่หนุ่มน้อยช่างฝันอีกต่อไป
เขากลายเป็นนักเขียนวัยกลางคนที่มีครอบครัวแล้วและมีลูก เขาเดินทางมายังอีกนครหนึ่งในยุโรป อีกเมืองหนึ่งในยุโรป ปารีสเมืองเอกด้านวรรณกรรม
นักเขียนอเมริกันผู้มีชื่อเสียงเดินทางมายังเมืองแห่งนี้เพื่อเปิดตัวหนังสือเล่มใหม่
เจสซี่หวังว่าจะได้พบกับนักอ่านที่รอผลงานเล่มใหม่ของเขาอย่างใจจดใจจ่อ
เจสซี่หวังว่าจะได้พบกับงานเปิดตัวหนังสือที่อบอุ่น
เขาได้ในสองสิ่งนี้อย่างครบถ้วน
แต่ที่เหนือกว่านั้นและเขายังได้พบกับเซลีน เซลีนผู้ไม่ปรากฏตัวในวันนัดหมายเมื่อเก้าปีก่อน
เซลีนยืนอยู่อย่างเงียบๆ เพียงลำพัง ที่ประตูทางออกแถวหลังสุดของผู้อ่าน
เธอส่งยิ้มให้เจสซี่ เธอส่งยิ้มให้เจสซี่ราวกับว่าไม่เคยมีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงความรู้สึกที่เธอมีต่อเขาได้
ผู้ชมในโรงภาพยนตร์รู้สึกได้ถึงความรักที่เคยมีและยังมี แม้เขาเองก็รู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นแรง
การได้พบกับบุคคลที่เราใฝ่ฝันอย่างไม่คาดฝันนำพามาซึ่งความตื่นเต้นเสมอ
เวลาเก้าปีไม่ใช่เวลาที่เนิ่นนานเกินไป
โดยเฉพาะสำหรับบุคคลที่เราคาดคิดว่าจะอยู่กับเขาไปจนตลอดชีวิตของเรา
รถมอเตอร์ไซค์หนึ่งคันแล่นผ่านเขาไป เสียงรถปลุกเขาจากภวังค์ เขากลับมาเห็นภาพของตนเองอยู่บนท้องถนนที่มืดมิดไม่ใช่ในโรงภาพยนตร์ที่ไร้แสงสว่าง
เขาเร่งฝีเท้าขึ้น
เขาขบคิดถึงหลายสิ่งมากไป เขาควรเร่งฝีเท้าไปถึงกระท่อมที่พัก อากาศที่หนาวเย็นทำให้การอยู่ภายนอกสถานที่ปกคลุมเป็นสิ่งที่อันตราย
นอกจากเพื่อน นอกจากคู่สนทนาแล้ว เขาพบว่าตนเองยังอ่อนแอมากจนต้องการที่พักพิง
สิ่งนั้นสินะที่เรียกว่าบ้าน
สถานที่ที่ปกปักเราจากโลกภายนอกและมีใครสักคนเฝ้ารอเราอยู่ที่นั่นเสมอ
เพื่อสนทนา เพื่อโอบกอดเรา
ใครบางคนที่จะกระซิบกับเราว่า
“คุณไม่ได้อยู่เพียงลำพังในโลกนี้”
การสนทนาเป็นสิ่งสำคัญ เราสนทนาเพื่อเข้าใจกัน เพื่อแปรความไม่เข้าใจให้เป็นความเข้าใจ เพื่อแปรความแปลกหน้าให้เป็นความคุ้นเคย
ในตอนต่อของภาพยนตร์เรื่องนั้น เจสซี่และเซลีนกลับมาสนทนากันอีกครั้ง
ทั้งคู่ต่างเล่าถึงสาเหตุที่ต่างฝ่ายไม่ได้ปรากฏตนขึ้นในวันที่นัดหมาย
บทสนทนายืดยาว ต่อเนื่องไปยังห้องพักของเซลีน เจสซี่มีกำหนดที่ต้องขึ้นเครื่องบิน
แต่ดูเหมือนเขาไม่แยแสในกำหนดที่ว่า เขานั่งลงฟังเพลงกับเซลีนเพลงแล้วเพลงเล่าไม่นับเพลง Just in Time ของ นิน่า ซีโมน
ชายหนุ่มเดินทางมาถึงกระท่อมในที่สุด เขาเปิดประตูเข้าไป ความอบอุ่นภายในกระท่อมโอบกอดเขา
ชายหนุ่มหวังว่าจะมีใครสักคนยืนรอเขาอยู่ในกระท่อม
เป็นการปรากฏตัวแบบไม่คาดฝันแบบเดียวกับที่เซลีนปรากฏตัวต่อเจสซี่
แต่ไม่มี ภายในกระท่อมนั้นมีเพียงเขาและเงาของตนเอง