จากหัวใจของ “นาดาล-เฟด-โนเล่” ถึง “เมอร์เรย์” เพื่อนที่กำลังจะกลายเป็นตำนาน

“แอนดี้ เมอร์เรย์” นักเทนนิสชาวสกอตแลนด์ ออกมาแถลงข่าวยอมรับว่าอาการเจ็บสะโพกเรื้อรังกว่า 20 เดือน ทำให้เขาไม่มีความสุขและเตรียมจะเลิกเล่นหลังจบแกรนด์สแลมวิมเบิลดันที่ประเทศอังกฤษในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้

เมอร์เรย์ที่กำลังเรียกความฟิตก่อนศึกออสเตรเลียน โอเพ่น มีอาการเจ็บขณะฝึกซ้อม และต้องแถลงข่าวทั้งน้ำตาว่า ตลอด 20 เดือนที่ผ่านมา พยายามทำทุกอย่างให้อาการเจ็บดีขึ้น แต่มันไม่ดีขึ้นเลย ซึ่งก็น่าจะยังเล่นเทนนิสได้ แต่คงไม่ได้อยู่ในระดับท็อปอย่างที่เคยทำได้

จึงตัดสินใจที่จะเลิกเล่นหลังจบวิมเบิลดัน และอยากจะคว้าแชมป์วิมเบิลดันให้ได้อีกสักครั้ง

เรื่องนี้ถือว่าน่าตกใจ แต่ไม่ผิดคาดนัก เพราะนักเทนนิสความหวังสูงสุดของสหราชอาณาจักรไม่สามารถกลับมาสู่จุดที่ควรจะเป็นในวงการเทนนิสมาเกือบ 2 ปีแล้ว

จนปัจจุบันอันดับโลกร่วงลงไปอยู่ที่ 230 ของโลก ในวัย 31 ปี ก็น่าจะเป็นเวลาที่ไม่แปลกนักที่นักเทนนิสอาชีพสักคนจะโรยราลงไป แต่ก็ไม่คิดว่าการยุติเส้นทางของเขาจะลงเอยในลักษณะนี้

นักเทนนิสระดับท็อปของโลกหลายคนก็ผ่านจุดที่บาดเจ็บจนถูกมองว่าจะไม่สามารถกลับมาได้อีกแล้วเหมือนกัน โดยเฉพาะ “ราฟาเอล นาดาล” ราชาแห่งคอร์ตดินที่หายไปช่วงหนึ่ง แต่ก็ยังกลับมาทวงมือ 1 ของโลกได้มาแล้ว

นาดาลเคยเจ็บทั้งเข่าและข้อมืออย่างหนัก บอกว่า ในวันที่บาดเจ็บจะมีแต่ความคิดที่ว่า มันจะต้องรักษาได้

แต่มันก็ต้องมีช่วงเวลาที่มองไม่เห็นแสงสว่างอยู่บ้าง

อย่างไรก็ตาม ก็ยังไม่เคยถึงจุดที่อยากจะเลิกเล่น

ซึ่งการที่เมอร์เรย์ตัดสินใจแบบนี้ ถือเป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของวงการเทนนิสโลกเลยทีเดียว

“ผมรู้ว่ามันเป็นความรู้สึกแย่มากๆ แอนดี้คงพยายามต่อสู้กับมันมานานแล้ว ถ้าเขารู้สึกว่าอาการเจ็บมันไม่มีทางที่จะดีไปกว่านี้ เขาก็ตัดสินใจถูกที่จะเลิกเล่น เพราะมันดีกับสุขภาพจิตของเขาเอง ผมมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามากๆ ขอให้เขามีช่วงเวลาที่ดีหลังจากนี้ พวกเราคงคิดถึงแอนดี้มากๆ วันนี้อาจจะเป็นเขาที่ต้องเลิกไปก่อน วันหน้าก็คงจะเป็นคนอื่นๆ เพราะตอนนี้เราไม่ได้อายุ 20 กันแล้ว ซึ่งมันก็ไม่แปลกที่จะมีเหตุการณ์นี้” นักหวดมือ 2 ของโลกกล่าว

ด้าน “โรเจอร์ เฟเดอเรอร์” ตำนานที่ยังโลดเเล่นในคอร์ตเทนนิสในวัย 38 ปี กล่าวถึงเพื่อนร่วมอาชีพว่า รู้สึกเสียใจและผิดหวัง รวมทั้งช็อกเล็กๆ ที่เมอร์เรย์จะต้องเลิกเล่นแล้ว แต่ก็รู้ดีว่าเราจะต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนี้กันทุกคน ซึ่งเมอร์เรย์ก็ได้แชมป์ทุกอย่างที่เขาอยากจะได้แล้ว ถ้าเขามองหันหลังกลับมา ก็น่าจะภูมิใจกับสิ่งที่เขาเคยทำได้ในวันที่ยังเป็นนักเทนนิสอยู่

“โนวัก โยโควิช” มือ 1 ของโลกคนปัจจุบัน ที่ก็ต่อสู้กับอาการเจ็บศอกมาช่วงหนึ่ง ซึ่งเพิ่งกลับมาสู่จุดสูงสุดของนักเทนนิสอาชีพอีกครั้งเมื่อปีที่แล้ว และร่วมซ้อมกับเมอร์เรย์ก่อนศึกออสเตรเลียน โอเพ่น เมื่อไม่กี่วันก่อน รวมทั้งอยู่ในเหตุการณ์ที่เห็นว่านักเทนนิสสก๊อตบาดเจ็บจนแถลงข่าวเตรียมเลิกเล่นออกมา

โยโควิชกล่าวว่า จากการที่ได้ใกล้ชิดกันมานาน การที่เห็นเพื่อนต้องทนกับความเจ็บปวดมายาวนาน ทำให้รู้สึกเจ็บปวดไปด้วย คงไม่มีใครอยากจะลงไปในคอร์ตแล้วเห็นว่าเมอร์เรย์ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ปกติ ถึงแม้ว่าโยโควิชเองจะเคยผ่านช่วงเวลาแบบนี้มา แต่อาการเจ็บของตัวเองดูจะเบามากถ้าเทียบกับของนักหวดสก๊อต

“มันเจ็บปวดนะ ที่ต้องเห็นเพื่อนที่รู้จักกันมานานต้องมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ เราสองคนเคยลงเล่นในแมตช์ที่น่าจดจำของวงการเทนนิสโลกหลายครั้ง มีช่วงเวลาที่สวยงามทั้งในสนามและนอกสนามด้วยกัน แต่ถึงแม้ว่าแอนดี้จะผ่าตัดมาแล้ว เขาก็ไม่สามารถกลับมาอยู่ในจุดที่ต้องการได้ อาการบาดเจ็บเป็นศัตรูสำคัญของนักกีฬาทุกคนอยู่แล้ว”

โนเล่กล่าว

นํ้าตาของเมอร์เรย์ในวันแถลงข่าวบอกถึงความรู้สึกทั้งหมดของเขาแล้ว

ในวันที่รู้ตัวว่าต้องนับถอยหลังสู่การเป็น “อดีตนักเทนนิสอาชีพ” ย่อมใจหาย เคว้งคว้าง และท้อแท้

แต่ถ้ามองดูความสำเร็จและการต่อสู้ทั้งหมดที่ผ่านมา เขาไม่ใช่อดีตนักเทนนิสที่เก่ง

แต่เป็น “ตำนาน” ที่ยังมีชีวิต และจะถูกจดจำไปอีกนาน

โชคดีและขอบคุณ แอนดี้ เมอร์เรย์

ผลงานของแอนดี้ เมอร์เรย์ ในการเล่นเทนนิสอาชีพ

แชมป์แกรนด์สแลม 3 ครั้ง ยูเอส โอเพ่น 2012, วิมเบิลดัน 2013, 2016

แชมป์เอทีพีทัวร์ รายการระดับมาสเตอร์ 14 ครั้ง

เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2 ครั้ง ปี 2012, 2016

แชมป์เอทีพี ไฟนัลส์ 1 ครั้ง ปี 2016

เข้ารอบชิง แกรนด์สแลม 8 ครั้ง

เป็นมือ 1 ของโลกได้ทั้งหมด 37 สัปดาห์