การประกวดมิสยูเวิร์ส 2018 หรือนางงามจักรวาล ครั้งที่ 67 ที่ในปีนี้ “แคทรีโอน่า เกรย์” สาวงามจากฟิลิปปินส์ ลูกครึ่งฟิลิปปินส์-ออสเตรเลีย วัย 24 ปี เป็นผู้พิชิตมงกุฎได้สำเร็จ ตามที่เหล่าบรรดากูรูนางงามปักธงว่าเธอเป็นตัวเต็งอันดับต้นๆ ตั้งแต่วันแรกที่ปรากฏตัว

“แคทรีโอน่า เกรย์” ถือเป็นนางงามจากฟิลิปปินส์คนที่ 4 ซึ่งนำมงกุฎนางงามจักรวาลกลับไปฝากแฟนๆ ที่ประเทศบ้านเกิด

ในขณะที่ตัวแทนสาวไทย “นิ้ง-โศภิดา กาญจนรินทร์” ทำเต็มที่ ด้วยการผ่านเข้าถึงรอบ 10 คนสุดท้าย

อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของการประกวดนางงามจักรวาลครั้งนี้ก็คือกองเชียร์นางงาม ที่ยกโขยงมาเชียร์สาวงามตัวแทนประเทศของตนชิดติดขอบเวที

โดยเฉพาะแฟนๆ นางงามจากฟิลิปปินส์ ประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องความคลั่งไคล้ในการเชียร์นางงามตีคู่มากับไทย จนเรียกว่าเป็นประเทศคู่ “ไม้เบื่อไม้เมา” กันทุกครั้งที่มีการจัดประกวดมิสยูนิเวิร์ส

เพราะอะไรกองเชียร์ฟิลิปปินส์ถึงดูเอาจริงเอาจังกับการเชียร์นางงามมากขนาดนั้น ต่างจากฝั่งประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างโซนยุโรปหรืออเมริกาเหนือ ที่ไม่ค่อยให้ความสนใจกับการประกวดนางงามมากเท่าที่ควร

ถึงจะเห็นหน้าค่าตาผู้ชมจากทวีปเหล่านั้นในสถานที่จัดการประกวดบ้าง แต่ก็น้อยมากเมื่อเทียบกับแฟนๆ ฟิลิปปินส์

กรณีของฟิลิปปินส์คล้ายคลึงกับเวเนซุเอลา ประเทศแห่งการผลิตนางงามจากอเมริกาใต้ ที่จากสถิติถือเป็นประเทศที่ชนะการประกวดมิสยูนิเวิร์สถึง 7 ครั้ง มากเป็นอันดับสองรองจากสหรัฐอเมริกา

และปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการประกวดนางงามจักรวาลถือเป็นเวทีที่ชาวเวเนซุเอลาทั้งประเทศรอติดตาม

“เชรี่-ไอศวรรฎา ศิริลักษณ์” สุดยอดแฟนพันธุ์แท้นางงามจักรวาลและกูรูนางงามตัวยง วิเคราะห์-อธิบายเหตุผลอย่างเป็นระบบและละเอียดลออว่า ทำไมคนฟิลิปปินส์และเวเนซุเอลาจึงต่างฝากความหวังของประเทศชาติเอาไว้บนเวทีการประกวดมิสยูนิเวิร์ส

“การประกวดนางงามมักจะมีพื้นฐานมาจากเรื่องของสังคม บริบทในแต่ละประเทศ เราต้องเอาความจริงเข้าพูดนะคะว่า ยกตัวอย่างฟิลิปปินส์ เวเนซุเอลา เราเห็นเขามีสภาพความเป็นอยู่ที่ค่อนข้างจะต่ำกว่ามาตรฐานใช่ไหมคะ มีปัญหาความยากจนต่างๆ มากมาย

“สิ่งที่จะผลักดันเขาให้เป็นคนที่มีชื่อเสียงได้ ครอบครัวสามารถลืมตาอ้าปากได้ มันต้องก้าวเข้าไปสู่วงการบันเทิง แต่ทีนี้เราจะเข้าไปได้ยังไงล่ะ การประกวดนางงามช่วยได้ นี่คือเหตุผลว่าทำไมการประกวดนางงามจึงเป็นที่นิยมในเวเนซุเอลา ในฟิลิปปินส์

“เพราะว่าบ้านไหนมีลูกสาวสวย เขาเทรนกันจริงๆ จังๆ และถ้าเกิดได้รางวัลขึ้นมา ชนะระดับประเทศขึ้นมา คุณก็จะกลายเป็นคนที่ยกระดับตัวเอง เป็นคนที่สามารถฉุดให้ตัวเอง รวมทั้งครอบครัว พ่อ-แม่ ขึ้นไปสู่ทางเลือกที่ดีๆ ของชีวิตได้ เขาเลยเอาจริงเอาจังกับการประกวด ถ้าเทียบกันแล้ว คนไทยก็ล็อตเตอรี่นะคะ”

เชรี่เปรียบเทียบไว้อย่างคมคายว่า ความหวังที่ชาวเวเนซุเอลาและฟิลิปปินส์ฝากเอาไว้กับตำแหน่งมิสยูนิเวิร์ส ก็ไม่ต่างอะไรกับความหวังที่คนไทยมีกับผลรางวัลล็อตเตอรี่

คนไทยจำนวนมากต่างพากันซื้อล็อตเตอรี่ทุกงวดเพราะใฝ่ฝันถึงชีวิตที่ดีขึ้น โดยพวกเขาวาดหวังว่าความฝันนั้นจะกลายเป็นจริง (สักวันหนึ่ง) ในทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือน

“อยากให้มองแบบนี้ ให้เห็นภาพชัดๆ ก็เลยเปรียบเทียบประเทศไทย กับเวเนซุเอลาและฟิลิปปินส์ คือเรื่องนางงาม (ของเขา) ประเทศไทยก็คือเรื่องของล็อตเตอรี่นั่นเองค่ะ เพราะว่าแต่ละคนอยากมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม”

กูรูนางงามคนดังบรรยายต่อว่า ขณะเดียวกันการประกวดนางงาม ตลอดจนมหรสพการแข่งขันนานาประเภท ก็เป็นเหมือน “ยาหอม” หรือ “น้ำทิพย์ชโลมใจ” ที่นำพาผู้ยากไร้ให้หลุดลอยออกจากโลกความจริงอันโหดร้ายชั่วขณะ

“มันก็เป็นเหมือนกับยาหอม เชรี่ขอใช้คำว่ายาหอมชโลมใจนะคะ ทำให้แต่ละวันของเรามันมีความสุข

“สมมุติว่าบ้านไหนไม่มี หมายถึง เวเนซุเอลากับฟิลิปปินส์นะคะ สมมุติบ้านไหนที่เขาไม่มีลูกสาว แต่การเสพการดู (การประกวดนางงาม) อย่างนี้มันก็ทำให้เรามีความสุขขึ้นมาบ้าง ดูทีวีอย่างนี้ ให้พอจะลืมเรื่องราวของสิ่งที่เรากำลังประสบในเรื่องของความยากจน หรือว่าต้องทำมาหากินอย่างเหนื่อยๆ ทุกวันไปบ้าง

“นี่คือเหตุผลว่า ทำไมการประกวด การแข่งขันอะไรแบบจริงๆ จังๆ มักจะอยู่กับประเทศที่ยังต้องดิ้นรน แล้วทำไมในประเทศยุโรปเขาถึงไม่นิยม เพราะว่าเขามีความเป็นอยู่ที่แฮปปี้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้น เขาจึงไปสนใจในเรื่องอื่นมากกว่า

“อันนี้คือสิ่งที่เชรี่ตามนะคะ อาจจะไม่มีหลักฐานชัดเจนร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ว่าเชรี่ดูสารคดีต่างๆ ติดตามเรียน ตอนสมัยเรียนจะเรียนในเรื่องของประวัติศาสตร์ด้วย เรียนประวัติศาสตร์การเมืองและสังคมมาด้วย

“มันหล่อหลอม มันสามารถอนุมานจนเป็นหลักฐานจริงได้ว่าแบบนี้ มันคือประเทศเหล่านี้ต้องลุ้น แต่ในประเทศยุโรปเขาไม่มีอะไรต้องลุ้นมากมาย เขาจึงไปสนใจเรื่องอื่นกัน นี่คือเหตุผลหลักค่ะ”

ด้วยเหตุนี้ เวทีการประกวดนางงามจักรวาลจึงกลายเป็นความหวังเรืองรองและความฝันแสนหวานของประเทศกำลังพัฒนาและเหล่าคนเล็กคนน้อย

อย่างน้อยที่สุด หากประชากรคนใดคนหนึ่งของประเทศเหล่านั้นสามารถประสบความสำเร็จบนเวทีดังกล่าว สิ่งที่จะตามมาคือ ชื่อเสียง ทรัพย์สิน และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของเธอและครอบครัว

พร้อมกันนั้น การประกวดมิสยูนิเวิร์สยังช่วยปลุก “จินตนาการร่วม” ของผู้คนในบาง “ชุมชนชาติ” ให้ลุกโชนขึ้น โดยลืมเลือนความขัดแย้ง ความไม่เท่าเทียม ความขัดสนต่างๆ ลงไปได้ชั่วครั้งคราว

นี่คือความสำคัญของตำแหน่งนางงามจักรวาล