วิเคราะห์ผลสอบ “เอ็มเอช370” ไร้คนควบคุมก่อนตก???

AFP PHOTO / GREG BAKER

ปริศนาการหายไปของเครื่องบินสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน เอ็มเอช370 ที่หายไประหว่างการบินจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ไปยังกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2557 ดูเหมือนจะมีผลการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ออกมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อมีการพบชิ้นส่วนที่ได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็นของเอ็มเอช370

อย่างเช่น ผลการวิเคราะห์ของสำนักงานความปลอดภัยด้านการขนส่งของออสเตรเลีย (เอทีเอสบี) ที่มีการเปิดเผยเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ระบุว่า ในช่วงเวลาสุดท้ายที่เอ็มเอช370 ติดต่อสื่อสารผ่านดาวเทียม เอ็มเอช370 ได้ดิ่งลงทะเลอย่างรวดเร็วโดยไม่มีคนควบคุมเครื่องบินอยู่

พร้อมระบุด้วยว่า การวิเคราะห์ซากของปีกของเครื่องบินที่พบ ช่วยตัดประเด็นเรื่องปัญหาของแฟลปเครื่องบินที่คาดกันว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินตกออกไปได้

โดยเอทีเอสบีได้จำลองการบินในช่วงเวลาสุดท้ายของเอ็มเอช370 พบว่า เครื่องบินได้หมุนควงก่อนที่จะตกลงสู่พื้นมหาสมุทรด้วยความเร็ว 457 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

เจฟเฟรย์ โธมัส ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินจากเว็บไซต์แอร์ไลน์เรตติ้งดอตคอม เปิดเผยกับซีเอ็นเอ็นว่า รายงานชิ้นนี้เป็นการลบล้างทฤษฎีที่ว่า นักบินยังคงขับเครื่องบินขณะที่เครื่องบินลงสู่ทะเล และรายงานที่ว่า แฟลปของปีกเครื่องบินที่ถูกพบที่แทนซาเนีย ที่พบว่าไม่มีการกางออกเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการลงจอด ถือเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง

เพราะถ้ามีนักบินขับอยู่ ก็จะต้องมีการเตรียมเครื่องบินเพื่อลงจอด และแฟลปของปีกเครื่องบินก็จะต้องถูกกางออก

ดังนั้น จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เครื่องบินจะมีใครขับอยู่ เพราะมันไม่ได้ถูกควบคุม เชื้อเพลิงหมด และหมุนควงสว่านตกสู่พื้นผิวทะเลด้วยความเร็วสูง

พบชิ้นส่วนประทับตราสัญลักษณ์ของโรลส์รอยซ์ บริษัทผู้ผลิตเครื่องยนต์เครื่องบิน ซึ่งอาจเป็นของเครื่องบินสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์เที่ยวบิน MH370

แมรี เชียโว นักวิเคราะห์ด้านการบินของซีเอ็นเอ็น อดีตเจ้าหน้าที่สอบสวนกระทรวงคมนาคมสหรัฐ ก็เห็นเช่นกันว่า ผลการวิเคราะห์ชิ้นใหม่นี้สนับสนุนบทสรุปดังกล่าว โดยเชียโวได้ตั้งสมมติฐานไว้ 2 ข้อ กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเอ็มเอช370

โจอาว เดอ อเบรอ (Joao de Abreu) ประธานสถาบันการบินพลเรือนแห่งโมซัมบิก (IACM) ถือชิ้นส่วนปริศนา 1 ใน 2 ชิ้นที่พบนอกชายฝั่งตะวันออกของทวีปแอฟริกา ซึ่งสันนิษฐานว่าอาจจะมาจากเที่ยวบิน MH370 ของมาเลเซียแอร์ไลน์สที่สูญหายไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว (ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2016)
Joao de Abreu ประธานสถาบันการบินพลเรือนแห่งโมซัมบิก (IACM) ถือชิ้นส่วนปริศนา 1 ใน 2 ชิ้นที่พบนอกชายฝั่งตะวันออกของทวีปแอฟริกา ซึ่งสันนิษฐานว่าอาจจะมาจากเที่ยวบิน MH370 ของมาเลเซียแอร์ไลน์สที่สูญหายไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว (ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2016)

อย่างแรกคือ เกิดไฟไหม้ขึ้นบนเครื่องบินทำให้เกิดควันปกคลุมไปทั่วภายในเครื่องบิน หรือความกดอากาศลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นเนื่องจากเกิดรอยรั่วขึ้นที่หน้าต่าง ทำให้ผู้คนบนเครื่องบินเสียชีวิตก่อนที่เชื้อเพลิงของเครื่องบินจะหมดลง และเครื่องดิ่งลงอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ข้อมูลที่ปรากฏขึ้นมาในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ได้ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับตัวของกัปตันของเอ็มเอช370 ผู้มีนามว่า “ซาฮารี อาหมัด ชาห์” ที่ทำหน้าที่ดูแลเครื่องบินในขณะที่เครื่องบินหายไปจากจอเรดาร์

เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา นิตยสารนิวยอร์ก รายงานโดยอ้างหลักฐานใหม่ที่สนับสนุนทฤษฎีที่ว่า “นักบินฆ่าตัวตาย” เป็นเหตุที่ทำให้เครื่องบินเอ็มเอช370 สูญหายไป โดยได้อ้างข้อมูลที่รั่วไหลออกมาจากเอกสารที่ได้จากการสอบสวนของสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ของสหรัฐ ที่แสดงให้เห็นข้อมูลที่กู้มาจากเครื่องจำลองการบินที่บ้านของซาฮารี ที่ถูกลบไปแล้ว

ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ซาฮารี ได้วางแผนที่จะขับเครื่องบินไปยังบริเวณตอนใต้อันห่างไกลออกไปของมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งมีความใกล้เคียงกับการคาดการณ์เกี่ยวกับเส้นทางบินสุดท้ายของเอ็มเอช370

โดยเจ้าหน้าที่สอบสวนเปิดเผยว่า เส้นทางจำลองการบินของซาฮารีนั้น มีขึ้นก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุเอ็มเอช370 หายไป

Photo taken on March 21, 2016 at Klein Brak River near Mossel Bay, shows a piece of suspected aircraft wreckage found off the east African coast of Mozambique. Two pieces of debris found in Mozambique are "almost certainly" from MH370, Australia says, after technical analysis of the wreckage that provides the latest clue to the fate of the missing Malaysian Airlines Boeing 777. / AFP PHOTO / Neels Kruger / RESTRICTED TO EDITORIAL USE - MANDATORY CREDIT "AFP PHOTO / NEELS KRUGER" - NO MARKETING NO ADVERTISING CAMPAIGNS - DISTRIBUTED AS A SERVICE TO CLIENTS
ชิ้นส่วนประทับตราสัญลักษณ์ของโรลส์รอยซ์ บริษัทผู้ผลิตเครื่องยนต์เครื่องบิน ซึ่งอาจเป็นของเครื่องบินสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์เที่ยวบิน MH370 (AFP PHOTO / Neels Kruger)

และในเดือนกรกฎาคมเช่นกัน มีอี-เมลที่ส่งถึงซีเอ็นเอ็น มาจาก “สก็อต แมชฟอร์ด” โฆษกของศูนย์ประสานงานสำนักงานร่วม ที่เปิดเผยว่า ข้อมูลจากเครื่องจำลองการบินของกัปตันบนเครื่องบินเอ็มเอช370 แสดงให้เห็นว่า มีใครบางคนวางแผนที่จะนำเครื่องบินไปยังตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดีย

แต่แมชฟอร์ดไม่ได้บอกว่า “ใคร” เป็นคนวางแผนเส้นทางบินดังกล่าว

และในเดือนสิงหาคม สำนักข่าวเบอร์นาคม ของมาเลเซีย รายงานว่า ดาตุก เสรี เลียว เทียง รัฐมนตรีคมนาคมมาเลเซีย บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เครื่องจำลองการบินส่วนตัวของซาฮารี แสดงให้เห็นว่า ซาฮารีได้ฝึกเส้นทางเพื่อบินไปยังมหาสมุทรอินเดีย แต่ไม่มีหลักฐานที่จะพิสูจน์ได้ว่าซาฮารีได้นำเครื่องบินไปยังตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดียจริง

พร้อมระบุว่า นักบินจะใช้เครื่องจำลองการบินเพื่อการฝึกบินและมีเป้าหมายในการบินอยู่ในเครื่องจำลองการบินหลายพันเป้าหมายด้วยกัน

A Malaysian official (C) takes pictures of a piece of suspected aircraft debris after it was found by fishermen on January 23, at a beach in the southern province of Nakhon Si Thammarat on January 25, 2016. Thailand's air force said it would bring a piece of suspected aircraft debris - a metal panel measuring two metres (6.6 feet) by three metres - found on the southeast coast to Bangkok, amid media speculation it may belong to missing Malaysia Airlines Flight MH370. AFP PHOTO / TUWAEDANIYA MERINGING / AFP PHOTO / Tuwaedaniya MERINGING
ซากชิ้นส่วนเครื่องบินขนาดใหญ่ถูกค้นพบที่ชายหาด อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งจนท.ของมาเลเซียได้ตรวจพิสูจน์ซากชิ้นส่วนเครื่องบิน ด้วยการถ่ายภาพเลขซีเรียลนัมเบอร์ ตามจุดต่างๆ หลายจุด ก่อนเดินทางกลับประเทศมาเลเซียทันที โดยไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดใดกับสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศที่มาปักหลักรายงานข่าว (AFP PHOTO / TUWAEDANIYA MERINGING)

ด้านน้องสาวของซาฮารี บอกกับซีเอ็นเอ็นว่า พี่ชายของเธอเป็นเพียงแพะรับบาปในเรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนเรื่องที่มีการอ้างกันขึ้นมานั้น เป็นการกุเรื่องขึ้นเองทั้งสิ้น

ผ่านไปแล้วกว่า 2 ปี ตอนนี้ ปฏิบัติการค้นหาเอ็มเอช370 กินพื้นที่ทั้งหมด 110,000 ตารางกิโลเมตร และคาดว่าจะยุติการค้นหาเมื่อครอบคลุมพื้นที่ 120,000 ตารางกิโลเมตร

ขณะที่มีการพบซากชิ้นส่วนกว่า 20 ชิ้นที่คาดว่าจะเป็นของเอ็มเอช370

แต่มีเพียง 3 ชิ้นเท่านั้นที่ได้รับการยืนยันว่าเป็นของเอ็มเอช370 และเป็นที่มาของการนำชิ้นส่วนไปวิเคราะห์

เพื่อคลี่คลายปริศนาเอ็มเอช370 ทีละเปลาะ ทีละเปลาะ

AFP PHOTO / GOH CHAI HIN
AFP PHOTO / GOH CHAI HIN
A board bearing solidarity messages is seen during a gathering to mark the one-year anniversary of the disappearance of Malaysia Airlines flight MH370, in Kuala Lumpur on March 6, 2015. Malaysia Airlines has increased the frequency with which its aircraft are tracked, the carrier said on March 6, a safety enhancement spurred by the still unexplained disappearance of flight MH370 one year ago. AFP PHOTO / MANAN VATSYAYANA / AFP PHOTO / MANAN VATSYAYANA
AFP PHOTO / MANAN VATSYAYANA