ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 4 - 10 พฤศจิกายน 2559 |
---|---|
คอลัมน์ | คนของโลก |
เผยแพร่ |
ฮูมา อเบดิน ไม่ชอบเป็นจุดสนใจ
แต่ที่ปรึกษาระดับสูงของ ฮิลลารี คลินตัน ผู้มีบุคลิกงามสง่า ไม่สามารถหลีกหนีจากความวุ่นวายที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างสูงได้
อาทิ กรณีการส่งข้อความอื้อฉาวทางเพศของสามีเธอและข้อขัดแย้งกรณีอี-เมลของฮิลลารี
เจมส์ โคมีย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐอเมริกา (เอฟบีไอ) ประกาศเมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า เอฟบีไอกำลังสอบสวนข้อมูลอี-เมลชุดใหม่ เป็นการรื้อฟื้นคดีที่ทีมงานหาเสียงของนางฮิลลารีคิดว่าจบไปแล้วตั้งแต่เดือนกรกฎาคม
ความจริงแล้ว กระทรวงต่างประเทศพบอี-เมลบางส่วนจากคอมพิวเตอร์แล็บท็อปของ แอนโธนี วีเนอร์ สามีของอเบดิน
ทั้งคู่แยกทางกันเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา หลังจากที่วีเนอร์ต้องเผชิญข้อกล่าวหาเรื่องการส่งข้อความทางเพศผ่านโทรศัพท์มือถือรอบใหม่
อเบดิน วัย 40 ปี เป็นรองประธานทีมหาเสียงของฮิลลารี ทั้งคู่ทำงานเคียงข้างกันมาเป็นเวลา 20 ปี
ฮิลลารีเคยกล่าวไว้บ่อยๆ ว่า หากเธอมีลูกสาวคนที่ 2 คนคนนั้นต้องเป็นฮูมา โดยบอกว่าเธอเป็นคนฉลาด สุขุมรอบคอบและมีประสิทธิภาพ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มต้นตั้งแต่ฮิลลารีเป็นสุภาพสตรีหมายเลข 1
นับตั้งแต่การประกาศของเอฟบีไอที่เปรียบเสมือนการจุดระเบิดเมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา หรือ 11 วันก่อนหน้าการเลือกตั้ง ฮูมา อเบดิน ได้พยายามทำตัวไม่ให้เป็นจุดสนใจ ทว่า ทีมที่ปรึกษาใกล้ชิดของฮิลลารีได้กระโดดเข้าปกป้องอเบดิน
“ฮูมาให้ความร่วมมือกับการสอบสวนของทางการอย่างเต็มที่ เธอทำตามคำร้องขอของเจ้าหน้าที่ในการส่งมอบหลักฐานทุกอย่างที่เธอมีอยู่” จอห์น โพเดสตา หัวหน้าทีมหาเสียงของฮิลลารีเปิดเผยกับซีเอ็นเอ็น
อเบดิน เกิดในรัฐมิชิแกน โดยมีพ่อแม่เป็นนักวิชาการด้านการศึกษาจากอินเดียและปากีสถาน เธอใช้ชีวิตวัยเด็กในซาอุดีอาระเบียก่อนที่จะเดินทางกลับมายังสหรัฐอเมริกาเพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโท
เธอสมัครเข้าเป็นเจ้าหน้าที่ฝึกงานที่ทำเนียบขาวเมื่อปี 1996 และได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ในสำนักงานของสุภาพสตรีหมายเลข 1
อเบดินติดตามไปทำงานให้ฮิลลารีเมื่อเธอได้รับเลือกตั้งให้เป็นวุฒิสมาชิกรัฐนิวยอร์กในปี 2001 และได้กลายเป็นหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ให้กับฮิลลารี
เธอได้รับตำแหน่งผู้ช่วยส่วนตัวของฮิลลารีเมื่อครั้งที่ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในปี 2008
และเมื่อฮิลลารีดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศเมื่อปี 2009 ฮูมา อเบดิน ได้รับตำแหน่งเป็นผู้ช่วยหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ และภายใต้ข้อตกลงพิเศษ อเบดินได้รับการยินยอมให้ทำงานเป็นที่ปรึกษาของเทเนโอ บริษัทที่ปรึกษาทางธุรกิจที่มีความเชื่อมโยงกับมูลนิธิคลินตัน
และเธอยังได้ทำงานให้กับมูลนิธิคลินตันด้วย
ในเดือนกรกฎาคม 2010 เธอแต่งงานกับ แอนโธนี วีเนอร์ สมาชิกสภาคองเกรสพรรคเดโมแครต รัฐนิวยอร์ก โดยมี บิล คลินตัน เป็นประธานในงานแต่งงานของทั้งคู่ ทั้ง 2 คนมีลูกชายด้วยกัน 1 คนคือเจสัน ที่เกิดเมื่อเดือนธันวาคม 2011
วีเนอร์ลาออกจากตำแหน่งเมื่อเดือนพฤษภาคม 2011 หลังจากยอมรับว่า ได้ส่งภาพถ่ายของตนเองในชุดชั้นในไปให้กับผู้หญิงหลายคนผ่านทางทวิตเตอร์
ในเดือนพฤษภาคม 2013 วีเนอร์พยายามที่จะกลับมาผงาดในเวทีการเมืองอีกครั้งด้วยการลงสมัครชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก แต่เพียงแค่ 2 เดือนหลังจากนั้น มีข่าวเรื่องข้อกล่าวหาว่าเขายังคงส่งข้อความที่ส่อไปในเรื่องเพศผ่านทางโซเชียลมีเดียโดยใช้ชื่อปลอมว่า “คาร์ลอส เดนเจอร์”
อเบดินกล่าวในหนังสารคดีเรื่องการลงสมัครชิงตำแหน่งที่ล้มเหลวของวีเนอร์ว่า เธอรักสามีของเธอและได้อภัยให้เขา แต่หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยกรณีการส่งข้อความทางเพศแบบเดิมๆ
เธอจึงแยกทางกับวีเนอร์
“รูปแบบความสัมพันธ์ของพวกเราเปลี่ยนไป” อเบดินกล่าวถึงความสัมพันธ์อันยืนยาวของเธอกับฮิลลารีในการให้สัมภาษณ์กับนิตยสารโว้ก “ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา เราได้แบ่งปันเรื่องราวต่างๆ ในชีวิต เราทานอาหารด้วยกันหลายมื้อจนนับไม่ถ้วน เราเฉลิมฉลองด้วยกัน เราเศร้าโศกเสียใจด้วยกัน”
ทั้ง 2 คนเดินทางไปด้วยกันแทบจะทุกๆ ที่ อเบดินไม่เคยห่างไกลจากฮิลลารี
“ความสง่างาม ความชาญฉลาดและความอ่อนน้อมถ่อมตนของฮูมา ไม่มีใครเทียบเคียงได้ จากการที่ฉันได้เห็นเธอก้าวจากการเป็นผู้ช่วยมาเป็นที่ปรึกษาและกลายเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทีมหาเสียงของดิฉัน” ฮิลลารีกล่าว
แน่นอนว่า หลายคนคาดหมายว่า ฮูมา อเบดิน จะกลายเป็นตัวเก็งลำดับต้นๆ ที่ได้ดำรงตำแหน่งสำคัญอย่างหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว หาก ฮิลลารี คลินตัน ได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา