คนของโลก “จุนโกะ ทาเบอิ” สตรีผู้พิชิตยอดเอเวอเรสต์เป็นคนแรก

แม้ จุนโกะ ทาเบอิ นักปีนเขาชาวญี่ปุ่นในวัย 77 ปี จะเสียชีวิตลงแล้วด้วยโรคมะเร็ง ที่โรงพยาบาลในเมืองไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา

ทว่า ทาเบอิ ก็ได้ทำสิ่งที่อยากทำทั้งหมดแล้วโดยเฉพาะการได้มีความสุขกับการปีนเขา

และได้จารึกชื่อไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ ในฐานะสตรีผู้พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ได้เป็นคนแรกของโลก

ทาเบอิ สมัครเข้าร่วมกลุ่มสโมสรปีนเขาระหว่างเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยสตรีโชวะ ก่อนจะจบการศึกษาในปี 1962

ทาเบอิ ก่อตั้งสโมสรปีนเขาสำหรับผู้หญิงขึ้นในปี 1969 ก่อนที่ในปี 1975 เธอจะพิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกได้สำเร็จในฐานะรองผู้อำนวยการคณะเดินทางเทือกเขาเอเวอเรสต์ของผู้หญิง

นั่นดูเหมือนเป็นความสำเร็จที่ได้มาอย่างยากลำบากแล้ว

แต่ทาเบอิไม่ได้หยุดแค่นั้น เมื่อในปี 1992 ทาเบอิ กลายเป็นผู้หญิงที่พิชิตยอดเขา 7 แห่งของโลกได้เป็นคนแรกด้วย

ทาเบอิ ผู้ที่มีนิสัยอ่อนโยน ติดดิน และไม่เคยแสดงออกถึงความสามารถที่มี เดินทางไปยังยอดเขาเอเวอเรสต์ พร้อมด้วยไกด์ปีนเขาชาวเชอร์ปาเพียงคนเดียว ผ่านเส้นทางหฤโหดจากยอดเซาธ์ซัมมิต ยอดเขาสูงอันดับสองของโลกที่ตั้งอยู่ระหว่างประเทศจีนและเนปาล ผ่านสันเขาแคบราวกับคมมีด พร้อมด้วยชุดกันหนาวอย่างกางเกงปีนเขาที่ทำจากผ้ากำมะหยี่แบบที่แม่ของทาเบอิใส่ไว้ใต้กิโมโน พร้อมด้วยเสื้อกันหนาวที่เทคโนโลยีไม่ล้ำยุคเหมือนในปัจจุบัน

ทาเบอิ เล่าถึงช่วงเวลาที่เธอกำลังมุ่งหน้าสู่ยอดเขาว่า “ฉันกังวลมากๆ และเกือบจะกลายเป็นบ้าเลยล่ะ”

นิเคอิ เอเชียน รีวิว ระบุว่า ด้วยความที่ทาเบอิมีมุมมองอันเบิกบาน สามารถสร้างอารมณ์ขันให้กับผู้อื่นได้ส่งผลให้ทาเบอิมีพลังจากภายในที่ทำให้เธอผ่านเส้นทางอันโหดร้ายไปได้ด้วยสไตล์การปีนเขาส่วนตัวที่ “ช้าและคงที่”

ทาเบอิ ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งเต้านมในปี 2007 ก่อนที่ในอีก 5 ปีต่อมา หรือ 1 ปีหลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิพัดถล่มชายฝั่งประเทศญี่ปุ่น แพทย์ก็ตรวจพบว่าทาเบอิเป็นมะเร็งที่เยื่อบุช่องท้อง

และจะมีชีวิตอยู่ต่อได้เพียง 3 เดือนเท่านั้น

ทัศนคติในการดำรงชีวิตของทาเบอิ แสดงออกชัดเจนเมื่อข่าวร้ายมาถึง ทาเบอิระบุกับแพทย์หลังรู้ข่าวอย่างไม่สะทกสะท้านเพียงว่า “โอ้! อย่างนั้นเหรอ”

ในระหว่างการรักษาตัว “ทาเบอิ” ตัดสินใจปีนเขาต่อไปกับเพื่อนๆ กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับอีกหลายๆ คนที่อยู่รอบๆ ตัว

“ถ้านอนอยู่บนเตียง วิวทิวทัศน์ก็เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง” ทาเบอิระบุ และว่า “สิ่งที่ทำให้ตื่นเต้นก็คือการคิดว่าฉันจะไปไหนต่อดี”

ทาเบอิ เกิดในเมืองมิฮารุ ในจังหวัดฟุคุชิมา จังหวัดในภาคโทโฮคุ หรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นที่ได้รับผลกระทบจากคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อปี 2011 มากที่สุด นั่นทำให้ในช่วงปีสุดท้ายของชีวิตทาเบอิ เลือกที่จะทำหน้าที่เป็นผู้นำทางปีนขึ้นภูเขาไฟฟูจิเพื่อให้กำลังใจเหล่าเด็กนักเรียนในเมืองได้รับผลกระทบ โครงการซึ่งดึงดูดนักปีนเขาอีกเป็นจำนวนมากที่จะร่วมในโครงการดีๆ ของทาเบอิด้วย

การเดินทางขึ้นสู่ภูเขาไฟฟูจิของทาเบอิ ครั้งที่ 5 และครั้งสุดท้าย ในปี 2016 ที่ผ่านมามีผู้ร่วมทางกับทาเบอิจำนวนมากถึง 100 คน

“ฉันต้องการเห็นนักเรียน 1,000 คนปีนภูเขาไฟฟูจิ และเมื่อเด็กๆ วัย 18 เหล่านี้มีอายุ 28 พวกเขาจะเป็นกำลังสำคัญในฟื้นฟูภูมิภาคโทโฮคุ”

จุนโกะ ทาเบอิ เป็นนักปีนเขาตัวจริงที่ยังคงก้าวไปข้างหน้าอยู่เสมอแม้เวลาจะค่อยๆ หมดลงไป

และแม้เธอจะจากไปแล้ว แต่เชื่อว่าเธอจะยังคงเฝ้ามองมายังยอดเขาหลายๆ แห่งบนโลกใบนี้ หรือไม่ก็อาจกำลังมองหาจุดหมายใหม่ให้ปีนต่อไปก็เป็นได้