โดนเบี้ยวมานับครั้งไม่ถ้วน สัญญามาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้วว่า “จะมีเลือกตั้ง” แต่กลับไม่มีวี่แววว่าจะจริงซะที แห้วรับประทานเสมอมา แต่ “ครั้งนี้” น่าจะไม่คลาดแคล้วได้ทำศึกกันเสียที

โปรแกรมเลือกตั้ง เข้าตำรา “ดังแต่ท่อ ล้อไม่หมุน” มาหลายระลอก ตามโรดแม็ปใหม่ หากไม่มีอุปสรรคสอดแทรก จะมีจุดลงตัวช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ กรณีสะดุดบังตอ อย่างช้าก็น่าจะไม่ไปเกินเดือนพฤษภาคม 2562

สรุปต้นปีหน้าคนไทยจะมี “ข่าวดี” สถานการณ์พัดผ่าน ก้าวข้ามค่ำคืนอันมืดมิดพ้นวันนี้วันพรุ่งแล้ว เตรียมสูดโอโซนประชาธิปไตย ในเวลาอันไม่ใกล้ไม่ไกล

นอกเหนือจาก “ไฟต์บังคับ” ตามกรอบรัฐธรรมนูญ ฉบับที่ 20 แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ที่ประกาศใช้มาเรียบร้อยแล้ว “กฎหมายลูก” หรือ พ.ร.ป.ประกอบรัฐธรรมนูญ จำนวน 10 ฉบับ โดย 4 ฉบับที่ผูกพันกับกระบวนการเลือกตั้งล้วนเสร็จบริบูรณ์ จึงเป็นเงื่อนไขให้โปรแกรมเลือกตั้งเลื่อนลำบาก

อีกหลายปัจจัยบ่งบอกนัยยะว่า งวดนี้ฝันไม่น่าจะสลายซ้ำซาก เจอโรคเลื่อนอีกแล้วครับท่าน คนไทยได้ยินเสียงคลื่นสาดซัด ได้กลิ่นประชาธิปไตยว่าต้องมีเลือกตั้ง

ที่พอเดาออกบอกถูก สะท้อนผ่านตลาด “มนุษย์การเมือง” ที่เวลานี้คึกคักขนาดหนัก พรรคเล็ก พรรคน้อย ชิงเปิดตัวกันเป็นว่าเล่น

ไม่เว้นแม้คนที่เคยแสดงจุดยืนรังเกียจเดียดฉันท์คนการเมือง แต่สุดท้ายแล้วดันทำตัวเป็นนักการเมืองเสียเอง โดยไม่มีทีท่าว่าใครสักคนจะมีก้าวลงจากหลังเสือ กลับไปใช้ชีวิตอยู่กับลูกๆ หลานๆ นอนดูละครย้อนยุค ไม่เห็นเลยสักรายเดียว

อย่าว่าแต่ใครเขาอื่นเลย ขนาด “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” หัวหน้า คสช. นายกรัฐมนตรี กลับปรากฏชื่อว่า จำเป็นต้องลงทำศึก เป็น “ไฟต์บังคับ” ต้องกลับมาลุ้นตั๋วนายกฯ รอบที่ 2

“บิ๊กตู่” รู้กฎ-กติกาดีว่า “การเป็นนักรบ เท้าไม่แตะสนามรบ เสียเชิงชายชาติทหาร” เมื่อถอนเครื่องแบบสู่สมรภูมิแห่งการเมือง กลวิธีแห่งความสง่างาม ต้องลงสมัครรับเลือกตั้งจึงจะดูดี

ด้วยข้อสรุปดังกล่าว จึงเชื่อขนมกินกันล่วงหน้าแล้วว่า ในศึกเลือกตั้งต้นปี 2562 ไม่ว่าจะระเบิดเถิดเทิงขึ้นในวันเดือนปักษ์ ฤดูกาลใด

“พล.อ.ประยุทธ์” แม้จะวัยปลายคน อายุปาเข้า 60 กลางๆ แล้ว แต่ยังดูแข็งแรง กระฉับกระเฉง เหนือสิ่งอื่นใดที่ทำให้ใจฮึกเหิมคือ “กระแสนิยม” ยังระอุอยู่มาก จึงเต็มถัง พร้อมที่จะลงชิงชัย “หมายเลข 1” บัญชีพรรคการเมืองเสนอชื่อเข้าประกวด จุดลงตัวชั่วโมงนี้ น่าจะ “พรรคพลังประชารัฐ”

 

นอกจากเหตุและปัจจัยดังกล่าวข้างต้น ที่เป็นเครื่องบ่งชี้ว่า “บิ๊กตู่” สู้ๆ มาตามช่องทางการเลือกตั้ง 2562 “นายกฯ คนใน” ค่อนข้างชัวร์ อีกเงื่อนไขหนึ่งคือ ระยะนี้มีการจัดวางขุมกำลัง ได้แก่ เครือข่ายข้าราชการ ซึ่งฤดูกาลโยกย้ายเปลี่ยนผ่านเอื้อประโยชน์ให้พอดิบพอดี

เครื่องทุ่นแรงพิเศษคือ “คนมีสี” และที่ถือว่ามีประสิทธิภาพ พิษสงสูงสุด ให้คุณให้โทษได้มากที่สุด ย่อมไม่มีใครเกิน “กองทัพบก” ซึ่งดังที่ทราบว่า ทั้ง 4 ภาค วางตัว “แม่ทัพ” ระดับดีหนึ่งประเภทหนึ่งลงตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ล่าสุดคือ การจัดแถวผู้ว่าราชการจังหวัด ล็อตแรก 18 ตำแหน่ง ซึ่งไม่รู้ว่ามีรายการ “สับขาหลอก” อะไรกันหรือเปล่า ถ้าสังเกตให้ดีๆ เหมือนกับจะมีลับลมคมในบางประการซ่อนอยู่

เป็นต้นว่า “พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะเจ้ากระทรวงคลองหลอด ผู้ชงชื่อแต่งตั้งโยกย้าย 18 บิ๊กแท้ๆ แต่กลับแจ้งลากิจไม่เข้าประชุม ครม. อ้างว่าปวดขา ลามไปทำให้เกิดอาการไข้ขึ้น ซึ่งที่ประชุม ครม. เคาะกันกราวรูด มีมติเห็นชอบผู้บริหารระดับสูง ซี 10 ทั้งระดับอธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัด แบบม้วนเดียวจบ

โผคลองหลอดคาบนี้ เป็นปีทองของ “ชาวสิงห์ดำ-รัฐศาสตร์ จุฬาฯ” ตีคู่ขึ้นมาหยิบชิ้นปลามันเก้าอี้อธิบดี-ผู้ว่าฯ กันเป็นว่าเล่น อาทิ “นิสิต จันทร์สมวงศ์” เป็นอธิบดีกรมพัฒนาชุมชน และ “ประยูร รัตนเสนีย์” ออกจากกรุรองปลัดมาด้วยกัน เป็นอธิบดีกรมที่ดิน

อีกหลายเจ้าเมือง ชาวสิงห์ดำผงาด เช่น “อรรถพร สิงหวิชัย” จากสุรินทร์ เป็น ผวจ.นครสวรรค์ “ภัคพงศ์ ทวิพัฒน์” จากพิษณุโลก เป็น ผวจ.ภูเก็ต “วีรนันทน์ เพ็งจันทร์” จากปัตตานี นั่ง ผวจ.สงขลา “แมนรัตน์ รัตนสุคนธ์” อุทัยธานี เป็น ผวจ.สระบุรี

และที่สร้างประเด็นให้ฮือฮามากที่สุดคือรายชื่อ “สยาม ศิริมงคล” ที่ออกจากกรุผู้ตรวจฯ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ทุบสถิติเป็นเจ้าเมืองที่อายุอานามน้อยที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยวัยเพียง 44 ปี

เรียกว่าจัดแถวได้เยี่ยมวรยุทธ์ ทั้ง “ฝ่ายบู๋-ทหาร” และ “ฝ่ายบุ๋น-ปกครอง” ที่ต้องไปทำงานมวลชนภาคสนาม ชิมลางไปล็อตแรก 18 ที่นั่ง ก้าวถัดไปก่อนวันสิ้นสุดงบประมาณ 1 ตุลาคม 2561 จะมีรายการโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดเสริมใยเหล็ก แทนตำแหน่งที่ว่าง โยกย้ายและเกษียณอายุราชการ ได้จัดทัพครั้งใหญ่อีกไม่น้อยกว่า 25 ตำแหน่ง ขณะนี้ “บิ๊กป๊อก” กำลังส่องกล้อง สอบวิสัยทัศน์อยู่ แต่รับประกันว่า “ทันใช้” แน่นอน

“จัดหนัก” เพื่อพี่น้องชาว “พรรคเพื่อไทย” ล้วนๆ เลย แม่ทัพภาค-ผู้ว่าราชการจังหวัด งวดแรก 18 ตำแหน่งรวมอธิบดี และจะจัดแถวใหญ่อีกทีในไม่กี่วันข้างหน้า รวมยอดแล้วไม่น้อยกว่า 40 จังหวัด

นอกจากนั้นแล้ว กำลังทำโผอยู่ ใกล้จะเสร็จอยู่หรัดๆ วันสองวันแล้วคือ “ผู้บัญชาการ-ผู้บังคับการจังหวัด”

ดูไปแล้ว ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่ว่าจะเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม 2562 รุมกินโต๊ะ “เพื่อไทย” กันสนุกอย่าบอกใครเชียว