ยานยนต์ สุดสัปดาห์ /สันติ จิรพรพนิต/เยือน ‘ไต้หวัน’-ยลโฉมเอสยูวี ซูบารุ ‘ออล นิว ฟอเรสเตอร์’

สันติ จิรพรพนิต

ยานยนต์ สุดสัปดาห์ / สันติ จิรพรพนิต [email protected]

 

เยือน ‘ไต้หวัน’-ยลโฉมเอสยูวี

ซูบารุ ‘ออล นิว ฟอเรสเตอร์’

 

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาค่ายรถดาวลูกไก่ “ซูบารุ” เปิดฉากรุกหนักตลาดเมืองไทยอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยมีหัวหอกอย่าง “ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย)” มอเตอร์ อิมเมจ ในเครือกลุ่ม ตันจง อินเตอร์เนชั่นแนล
ที่เห็นหลักๆ คือการขยายโชว์รูมและศูนย์บริการอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีมากถึง 26 แห่งทั่วประเทศ และภายในปีนี้แว่วว่าจะเปิดอีกอย่างน้อย 8 แห่ง
และที่สำคัญคือทุ่มงบฯ กว่า 5 พันล้านบาท เปิดโรงงานผลิตรถยนต์ในประเทศไทยในชื่อ “ตันจง ซูบารุ ออโตโมทีฟ ไทยแลนด์” (TCSAT) ย่านลาดกระบัง กรุงเทพฯ เริ่มเดินสายพานในปี ค.ศ.2019 หรือปีหน้านั่นเอง
เหล่านี้ทำให้สาวกค่ายดาวลูกไก่ มั่นใจและเชื่อมั่นมากขึ้น เพราะทุ่มทุนสร้างขนาดนี้เอาจริงกับตลาดเมืองไทยแน่นอน
โมเดลแรกที่จะมาประกอบคือ “ฟอเรสเตอร์” รถเอสยูวี ขนาดกลางที่ได้รับความนิยมมากรุ่นหนึ่งของค่ายนี้
ล่าสุดผมได้รับเชิญไปร่วมงานแนะนำรถรุ่นนี้ที่เปิดโมเดลใหม่ ที่ไต้หวัน พร้อมกับการทดสอบทั้ง “ออนโรด” และ “ออฟโรด”
สำหรับฟอเรสเตอร์ ถือว่าเป็นรถยอดนิยมรุ่นหนึ่งของเมืองไทยมียอดขายไม่บันเบา ในค่ายเป็นรองเพียง “ซูบารุ เอ็กซ์วี” เอสยูวีขนาดเล็กเท่านั้น
ด้วยมีทั้งการเปิดตัวรถใหม่ และการทดสอบ จึงขอแบ่งออกเป็น 2 ตอน เพื่อความสมบูรณ์ของเนื้อหาครับ

ทริปนี้ถือว่าเป็นทริปค่อนข้างสั้นเพียง 3 วัน แต่ถือว่าเพียงพอ เนื่องจากไต้หวันและไทยนั้นห่างกันไม่มากนักประมาณ 1,500 กิโลเมตร ใช้เวลาบินราวๆ 3 ชั่วโมงเศษ
ขาไปใช้เวลาบินนานกว่านิดหน่อย เข้าใจว่าเป็นเรื่องของกระแสลม
อีกทั้งการจัดงานเปิดตัวและการทดสอบอยู่ในละแวกที่พัก เรียกว่าแต่ละวันเดินทางน้อยมาก
เดินทางจากเมืองไทยตอนเช้าไปถึงไต้หวันช่วงบ่าย (เวลาไต้หวันเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง) จากนั้นต่อรถอีกชั่วโมงเศษๆ ก็ถึงจุดหมาย “ฟูลลอน โฮเต็ลแอนด์รีสอร์ต” เมืองไทจง หรือไถจง (Taichung)
ที่พักนี่ถือว่าทำเลดีทีเดียวเพราะตั้งอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเป็นสวนน้ำ และมีเอาต์เล็ต หรือแหล่งขายของราคาถูกพิเศษ เป็นคล้ายๆ พลาซ่าบ้านเราแหละครับ
โรงแรมแห่งนี้ยังเป็นสถานที่เปิดตัวรถฟอเรสเตอร์ด้วย ส่วนสนามทดสอบอยู่ห่างจากที่พักเดินทางด้วยรถบัสไม่เกิน 20 นาทีเท่านั้น
เรียกว่าเป็นทริปสบายๆ ไม่ต้องตื่นเช้าเลยก็ว่าได้
ทริปนี้ไม่ใช่เพียงนักข่าวไทยเท่านั้นแต่มีนักข่าวจาก 8 ประเทศทวีปเอเชีย ที่กลุ่มตันจง ดูแลการขายเดินทางมาด้วย
ส่วนที่เลือกไต้หวันเป็นสถานที่เปิดตัวรถรุ่นนี้ เป็นครั้งแรกในภูมิภาค เนื่องจากปีที่แล้วไต้หวันทำยอดขายได้ค่อนข้างมากนั่นเอง
กลุ่มนักข่าวไทยนำทริปโดย “วิชัย ชินณรงค์” ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด, กมล วิบูลย์จันทร์ ผู้จัดการฝ่ายขาย-การตลาด และเจษฎา วณิชย์ธนารักษ์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาด
รวมทั้งได้พบปะกับผู้บริหารของตันจงคือ “เกลน ตัน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ตันจง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ด้วย

ดิออล นิว ฟอเรสเตอร์ 2019 (The All-New 2019 Forester) หากดูเฉพาะรูปทรงใกล้เคียงกับของเดิม แต่เพิ่มมิติต่างๆ มากขึ้น แต่รายละเอียดต่างๆ เปลี่ยนไปทั้งหมด
ที่น่าสนใจคือเป็นโมเดลที่เป็น “โกลบอลแพลตฟอร์ม” (Subaru Global Platform) หรือโมเดลเดียวขายทั่วโลก โครงรถออกแบบใหม่ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนและการแกว่งของตัวรถ ลดเสียงรบกวนจากถนนแม้ว่ารถจะกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง
กระจังหน้าปรับเปลี่ยนไปเล็กน้อย ส่วนไฟหน้าดูคล้ายๆ ของเดิมเป็นโคมโปรเจ็กเตอร์แบบแอลอีดี ชายล่างติดกันกระแทกดูบึกบึนขึ้น ไฟท้ายออกแบบมีลูกเล่นมากกว่ารุ่นเดิมที่เป็นทรงเหลี่ยมธรรมดา
ล้อขนาด 17-18 นิ้ว (แล้วแต่รุ่น)
โครงสร้างตัวถังยกขึ้นกว่ารุ่นเดิม ระยะระหว่างพื้นกับตัวรถมากกว่า 220 ม.ม. ราวหลังคาที่ยกสูงขึ้นและจุดสำหรับผูกเชือก ทำให้พร้อมสำหรับการบรรทุกสัมภาระได้มากขึ้น

ด้านในพวงมาลัย 3 ก้านพร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น
เรือนไมล์ 2 วงกลมขนาดใหญ่ ตรงกลางเป็นจอแสดงผล
ตรงกลางเป็นจอขนาด 8 นิ้ว ต่ำลงมาเป็นแอร์แบบอัตโนมัติ
เบาะนั่งสบายมาก เช่นเดียวกับแถวหลังมีที่วางเท้าและที่ว่างเหนือศีรษะค่อนข้างเยอะ ทั้งยังเจาะช่องแอร์ให้ผู้โดยสารตอนหลัง
เบรกมือแบบเดิมถูกย้ายออกแทนที่ด้วยเบรกใหม่แบบไฟฟ้า ทำให้ตรงคอนโซลกลางรถโล่งขึ้น
พื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านหลังใหญ่ขึ้นพร้อมกับช่องเปิดท้ายรถที่กว้างขึ้น ประตูเพาเวอร์ด้านหลังเปิด-ปิดเบาแรง
ขุมพลังเครื่องยนต์ Boxer ระบบไดเร็กอินเจ็กชั่น 2.0 ลิตร ความจุกระบอกสูบ 1,995 ซีซี ระบบเกียร์ CVT 7 สปีด พัฒนาใหม่ปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ภายในมากถึง 80% พละกำลังสูงสุด 156 แรงม้า แรงบิด 196 นิวตัน-เมตร
พลาดไม่ได้กับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบสมมาตร (Symmetrical All-Wheel Drive) ที่ส่งแรงขับเคลื่อนให้กับล้อแต่ละล้อ ช่วยให้รถเกาะถนนได้อย่างมั่นคงและช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้อย่างปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางในทุกสภาพภูมิประเทศ และทุกสภาพถนน
มาพร้อมกับฟังก์ชั่น X-MODE ที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่บนภูมิประเทศที่ท้าทายเปิดใช้งาน X-MODE ได้ที่สวิตช์แบบหมุนซึ่งวางไว้ข้างๆ เกียร์ ในโหมด Select สามารถสลับโหมดต่างๆ อย่างง่ายดายและท่วงทันกับสภาพถนนที่เปลี่ยนแปลงได้ทันที

ความปลอดภัยและเทคโนโลยีช่วยการขับขี่ถือว่ามาแบบครบถ้วน ด้วย EyeSight Driver Assistž
ประกอบไปด้วยระบบเบรกอัตโนมัติก่อนการชน ซึ่งจะช่วยเบรกอัตโนมั้ติเมื่อระบบตรวจจับแล้วพบว่ารถของเราเข้าใก้คันหน้ามากเกินไปจนเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ
ระบบปรับความเร็วรถอัตโนมัติ หรือ “อแดปทีฟ ครุยส์ คอนโทรล” ตั้งความเร็วและระยะห่างจากรถคันหน้าระบบจะควบคุมคันเร่งและเบรกให้อัตโนมัติ เทียบชั้นรถยุโรประดับหรูๆ ได้เลย
อื่นๆ เช่น ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง (Auto Vehicle Hold) และระบบตรวจจับยานพานะด้านหลัง (SVRD) ใช้เซ็นเซอร์เรดาร์ที่ติดตั้งอยู่ที่ด้านหลังของรถ เพื่อตรวจจับวัตถุและยานพาหนะที่อยู่ข้างหลัง
แจ้งเตือนคนขับด้วยฟังก์ชั่นหลัก 3 อย่าง ได้แก่ การแจ้งเตือนในจุดบอด การช่วยเปลี่ยนเลน และการแจ้งเตือนเมื่อการจราจรข้างหลังเคลื่อนที่
“ออล นิว ฟอเรสเตอร์” มีให้เลือก 4 รุ่นย่อย ส่วนมาถึงเมืองไทยแล้วเหลือกี่รุ่นต้องรอดูอีกที
ตามแผนแล้วออล นิว ฟอเรสเตอร์ จะมาอวดโฉมช่วงงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ปลายปีนี้ พร้อมรับจองด้วย
ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน “มอเตอร์โชว์ 2019”
สนนราคายังไม่เปิด แต่น่าจะไม่ได้แพงเว่อร์วัง เพราะในตลาดมีคู่แข่งในเซ็กเมนต์เดียวกันหลายค่าย