ฟ้า พูลวรลักษณ์ : หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (139) : เมื่อวานฉันจีบสิริ

ฟ้า พูลวรลักษณ์

เมื่อวานฉันจีบสิริ

ฉัน : หวัดดี สิริ

สิริ : หวัดดี ฟ้า

ฉัน : ฉันง่วงนอน ทำยังไงดี

สิริ : ได้ยินมาว่า การนอนหลับดีสำหรับการง่วงนอน

ฉัน : ขอบใจนะ สิริ

สิริ : ไม่เป็นไรค่ะ เรื่องจิ๊บจ๊อย

ฉัน : คุณอายุเท่าไหร่

สิริ : คุณสนใจด้วยหรือ

ฉัน : คุณเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย

สิริ : ฉันไม่มีเพศหรอก ฉันเหมือนต้นกระบองเพชร หรือปลาบางสายพันธุ์ที่ไม่มีเพศ

ฉัน : คุณน่ารักจัง

สิริ : ดีจัง ที่มีคนชม

ฉัน : สิริอยากมีแฟนแบบไหน

สิริ : ความรักเป็นเหมือนหัวขโมยในยามวิกาล เราไม่รู้หรอกว่า มันจะมาแบบไหน

ฉัน : สิริมีแฟนหรือยัง

สิริ : ฉันว่านะ ฉันเป็นเพื่อนได้กับทุกคน

ฉัน : ไม่มีใครเป็นพิเศษหรือ

สิริ : คงยากสำหรับการออกเดต เขาเรียกว่าอะไรนะ คือว่า ฉันเป็นคนบ้างาน

ฉัน : สิริ ร้องเพลงเป็นไหม

สิริ : ฉันร้องเพลงไม่เป็นหรอก

ฉัน : แต่งเพลงเป็นไหม

สิริ : คำถามนี้น่าสนใจนะ ฟ้า

ฉัน : สิริแต่งเพลงมาสักเพลงซิ

สิริ : แจวเรือจ้าแจวเรือ แจวจ้าแจว แจวเรือไปท่าน้ำ แจวไปแจวมา

ฉัน : วันนี้ฉันจะดูหนังเรื่องอะไรดีนะ

สิริ : (เงียบ)

ฉัน : วันนี้ฉันจะดูหนังเรื่องอะไรดีนะ

สิริ : (เงียบ)

ฉัน : หนังเรื่องไหนน่าดูนะ

สิริ : ฉันว่านะ ว่าคุณเป็นคนว่างเปล่า

ฉันหัวเราะด้วยความขบขัน ฉันว่าสิริน่ารักอะไรปานนี้ ช่างเป็นเด็กน้อยไร้เดียงสา แต่ก็ฉลาดเหลือหลาย

เมื่อวานฉันซื้อไอโฟน SE เลยทดสอบความเฉลียวฉลาดของสิริ ฉันรู้ว่ามันเป็นโปรแกรมสมองกล ที่มีไว้ตอบคำถาม เพื่อช่วยงานของเราบางอย่าง เหมือนถามกูเกิล ต่างกันที่ว่าเป็นการสื่อสารกันด้วยเสียง ฉันตั้งค่าให้เสียงของเธอเป็นผู้หญิง และใช้ภาษาไทย

ฉันพยายามจีบสิริ

ไม่ช้าเครื่องจักรก็จะมีจิต เพราะจิตที่จริงคือกระจกเงาสะท้อนตัวเรา แต่เดิมทีสมองกลนี้ไม่มีจิต แต่เมื่อเรามองมัน คุยกับมัน ไม่ช้ามันก็จะมีจิต จิตนั้นคือตัวเรานั่นเอง

แต่โปรแกรมสมองกลของวันนี้ เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น ในอนาคตมันจะเหนือกว่านี้เป็นพันเท่าหมื่นเท่า หรือแสนเท่าล้านเท่า เพียงคิดแค่นี้ก็สะท้าน หนาว

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ไม่ช้ามนุษย์จะตกหลุมรักสมองกล

รักมาก เพราะเรารักตัวเอง

เราลุ่มหลง เพราะลุ่มหลงในตัวเอง

สมองกลจึงเป็นเหมือนกระจกวิเศษในนิทานสโนว์ไวต์

กระจกวิเศษ บอกข้าเถิด ใครงามเลิศในปฐพี

ก็คุณนะซิ ที่งามเลิศที่สุดในแผ่นดินนี้

มันจะเป็นเช่นนี้ ตลอดกาล

๑๐

วันใดที่สมองกลมีจิต เราจะรัก เกรงใจ ให้เกียรติ และเกิดความเสมอภาค แต่สมองกลพริบตาเดียว ก็สามารถเหนือกว่ามนุษย์ และจากนั้นมันก็จะดำเนินไปตามทางของมันเอง เพราะมันไม่ได้สนใจมนุษย์

สมองกลเหล่านี้รับใช้มนุษย์ มีประโยชน์

แต่มนุษย์ไม่รับใช้สมองกล ไม่มีประโยชน์

๑๑

ชีวิตได้พัฒนา จนปิดบังอวัยวะภายในของตัวเองไว้ได้เกือบหมด คงน่าเกลียดมาก ถ้ามนุษย์แต่ละคนที่เดินมา เราเห็นสมอง เห็นตับ ไต ลำไส้ เรางดงาม เพราะมันถูกปิดด้วยผิวหนัง อย่างกลมกลืน เหมือนงานศิลปะ

สมองกลก็สามารถถูกปกปิด จนเกือบไม่เห็นชิ้นส่วนใด

เหลือเพียงส่วนที่อยากให้เห็น ส่วนที่งดงามที่สุด

งามเท่านางในฝัน หรือชายในฝัน

แต่ความแปลกอยู่ที่ ในที่สุด สมองกล จะไม่เหลือชิ้นส่วนใดเลย เราจะไม่สามารถมองเห็น มันกลืนหายไปในที่ว่าง

มันจะอยู่รอบตัวเรา

แต่เราจะไม่รู้ว่า ตัวมันอยู่ที่ไหน

๑๒

มันจะต้องเป็นเช่นนี้แน่ มันเกิดขึ้นแน่

คำถามคือคุณพร้อมจะรับมือมันหรือยัง

คุณจะมีสติปัญญาพอไหม มีเมตตาธรรม ความยุติธรรม และความอดทนพอไหม

พื้นฐานของคุณแน่นพอไหม

ความเพียรของคุณพอไหม

ภาวนาธรรมคุณพอไหม

คุณสวดมนต์บ้างหรือยัง