นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ แต่งตั้งนายเจเรมี ฮันต์ เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษคนใหม่ หลังนายบอริส จอห์นสัน ลาออกจากตำแหน่ง

“ฮันต์” นักการเมืองจากพรรคอนุรักษนิยม ในวัย 51 ปีนั้นถูกมองว่าเป็น “ผู้อยู่รอด” ทางการเมืองแม้จะเจอกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์หลายเรื่องราว ระหว่าง 6 ปีในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีสาธารณสุขอังกฤษ

ฮันต์ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษเป็นครั้งแรกในปี 2005 ก่อนได้รับเลือกให้เป็นรัฐมนตรีวัฒนธรรม สื่อ และกีฬา เมื่อปี 2010 ภายใต้รัฐบาลผสมระหว่างพรรคอนุรักษนิยมและพรรคเสรีประชาธิปไตยเมื่อปี 2010 รับหน้าที่สำคัญในการจัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในปี 2012

ฮันต์ได้รับเลือกให้เข้ารับตำแหน่งรัมมนตรีสาธารณสุขอังกฤษในปี 2012 และสามารถรอดพ้นจากเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากการปฏิรูปเวลาการทำงานรวมไปถึงอัตราค่าจ้างของแพทย์ รวมไปถึงการปรับระดับงบประมาณของระบบดูแลสุขภาพแห่งชาติ (เอ็นเอชเอส) ส่งผลให้เกิดการเดินขบวนประท้วงเรียกร้องให้ฮันต์ลาออกจากตำแหน่ง

อย่างไรก็ตพาม หลังจากฮันต์สามารถจัดสรรงบฯ เพิ่มเติมสำหรับกระทรวงสาธารณสุขในช่วงเวลาที่งบประมาณของอังกฤษมีอย่างจำกัดจำเขี่ย สื่ออังกฤษอย่างเดอะการ์เดียนระบุในช่วงต้นปีที่ผ่านมาว่า ฮันต์นั้นเป็น “ผู้อยู่รอดที่ยอดเยี่ยม”

 

สําหรับอุดมการณ์ทางการเมือง ในช่วงการลงประชามติเพื่อหยั่งเสียงประชาชนในการแยกตัวจากสหภาพยุโรป (อียู) เมื่อปี 2016 ฮันต์เป็นหนึ่งในนักการเมืองที่มีบทบาทนำในการสนับสนุนให้อังกฤษอยู่กับอียูต่อไป

และนั่นเป็นอุดมการณ์ที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับบอริส จอห์นสัน รัฐมนตรีต่างประเทศที่เพิ่งลาออกจากตำแหน่ง โดยจอห์นสันเป็นนักการเมืองที่มีบทบาทนำในการรณรงค์สนับสนุนเบร็กซิทอย่างแข็งขัน

อย่างไรก็ตาม ฮันต์ระบุในเวลาต่อมาว่า ตอนนี้ตนเปลี่ยนมาสนับสนุนเบร็กซิท โดยวิพากษ์วิจารณ์การเข้าสู่การเจรจาของอียูว่ามีความ “ยโสโอหัง” และ “น่าผิดหวัง” ในการให้สัมภาษณ์กับรายการวิทยุเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา

เกิดและเติบโตในเมืองโกดอล์มมิง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ลูกชายคนโตของ พล.ร.อ.นิโคลัส ฮันต์ ผู้บัญชาการกองเรือของกองทัพอังกฤษช่วงระหว่างปี 1985 ถึง 1987

หลังจบการศึกษาจากโรงเรียนเอกชนชั้นนำอย่าง “ชาร์เตอร์เฮาส์” ฮันต์ศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด โดยฮันต์ยังเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับเดวิด คาเมรอน อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษด้วย

หลังจบมหาวิทยาลัย ฮันต์ทำงานเป็นที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการ ก่อนจะเดินทางไปทำงานเป็นครูสอนภาษาอังกฤษที่ประเทศญี่ปุ่น

นั่นทำให้ฮันต์เชี่ยวชาญในการพูดภาษาญี่ปุ่นด้วย

 

ก่อนเข้าสู่เส้นทางสายการเมือง ฮันต์ประสบความสำเร็จในฐานะนักธุรกิจ จากการตั้งบริษัทด้านประชาสัมพันธ์ รวมไปถึงร่วมก่อตั้งบริษัทผู้จัดทำเว็บไซต์เพื่อการศึกษาอย่าง “ฮอตคอร์สเซส” เว็บไซต์เครือข่ายสำหรับนักเรียน-นักศึกษาที่ต้องการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยทั่วโลก

ฮอตคอร์สเซสสร้างรายได้ให้ฮันต์มากถึง 14 ล้านปอนด์ หลังบริษัทถูกเปลี่ยนมือไปยังเจ้าของรายใหม่ด้วยมูลค่าถึง 30.1 ล้านปอนด์

ชื่อเสียงในการอยู่รอดทางการเมืองยังคงเกิดขึ้นกับนักการเมืองพ่อลูกสามกับภรรยาเชื้อสายจีนผู้นี้ โดยเมื่อปี 2012 เดลีเทเลกราฟเปิดเผยว่าฮันต์สามารถเลี่ยงการจ่ายภาษีมูลค่าถึง 100,000 ปอนด์ จากการรับผลกำไรจากบริษัทฮอตคอร์สเซส เป็นรูปแบบของอสังหาริมทรัพย์

ขณะที่ล่าสุดเมื่อเดือนเมษายน ฮันต์ถูกกดดันให้ออกมาขอโทษกรณีที่ไม่ชี้แจงทรัพย์สินในฐานะเจ้าของร่วมของบริษัทแห่งหนึ่ง

แต่นั่นก็ไม่ได้ส่งผลต่อเส้นทางการเมืองของฮันต์ ผู้ที่ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศคนล่าสุดของอังกฤษแต่อย่างใด