‘ก้ามปูหลุด’ เป็นยาได้ แต่มิวายต้องระวัง’พิษ’

ต้นก้ามปูหลุดนี้เป็นพืชเลื้อยระดินจำพวกหญ้า มีลำต้นทอดยาวเป็นปล้อง ตามข้อปล้องออกราก และออกใบตรงข้ามกัน

ต้นและเถากรอบหักง่าย

ใบสีเขียวหม่น ใต้ใบสีม่วง ออกยอดใหม่เป็นสีม่วงทั้งหมด

เวลาขึ้นตามพื้นที่ปลูกไว้ประดับสถานที่ เห็นเหมือนพรมปูพื้นสีม่วงสุดสวย

และนอกจากปลูกไว้ประดับแล้ว ยังเป็นยาสมุนไพรที่ให้คุณค่าอย่างมากด้วย

ต้นก้ามปูหลุดขณะแผ่ขยายงอกงามไปตามพื้นนั้น ขณะเดียวกันก็ชูยอดสีม่วงสม่ำเสมอเท่าๆ กันเต็มพื้นที่ บางยอดก็ออกดอกประปราย ทำให้เหมือนพรมที่สวยงาม นุ่มนวลตา

ใบก้ามปูหลุดเป็นลักษณะรูปไข่ ปลายใบเรียวแหลม ใบยาวประมาณ 5 เซนติเมตร กว้าง 3 เซนติเมตร หน้าใบสีเขียวหม่น บางพันธุ์เป็นลายใต้ใบสีม่วงสด แต่เฉพาะยอดนั้นเป็นสีม่วงสดทุกยอด

เมื่อหักก้านหรือใบ ไม่ช้าก็มียอดงอกออกมาแทน เหมือนปูที่ขาหลุดแล้วงอกได้ใหม่ จึงชื่อต้นนี้ว่า ก้ามปูหลุด

ใบก้ามปูหลุดก็สวยแปลก เพราะใบหนา อุ้มน้ำ เนื้อใบเปราะ ทั่วแผ่นใบมีขนอ่อนบางๆ ปกคลุม ทั้งขั้วใบติดกับลำต้น ซึ่งเหมือนเถานั้นต่างอุ้มน้ำทั้งสิ้น

ก้ามปูหลุดมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Tredescantia Zebrina Var. อยู่ในวงศ์ COMMELINACEAE คนจีนเรียก จุยเต็กเช่า คนภาคกลางเรียก ก้ามปู บางแห่งเรียก ปีกแมลงสาบ

ก้ามปูหลุดขึ้นง่าย มีความชื้นเพียงนิดก็ขึ้น ใบหรือยอดหักก็งอกแทน ดังนั้น จึงเห็นแปลงต้นก้ามปูหลุดงามสะพรั่งอยู่ตลอดเวลา

ดอกก้ามปูหลุดออกเป็นช่อสั้นเล็กๆ เป็นกระจุกที่ปลายยอด มีใบประดับสีม่วงอ่อน 3 ใบ มองเผินๆ คล้ายกลีบดอก ดอกจริงโผล่ออกจากใบประดับ มีก้านดอกยาว ดอกตูมสีเขียว เวลาบานกลีบดอกสีเหลือง มีเกสรเพศผู้-เมียครบ

เวลาติดผลแก่แล้วร่วงลงดิน งอกเป็นต้นต่อไป

ต้นก้ามปูหลุดมีรสขมอมหวาน ทำเป็นอาหารและเป็นยาประเภทยาเย็น แก้โรคเจ็บคอ กระหายน้ำ ขับปัสสาวะ ตกขาว โรคบุรุษและสตรี แก้บวมน้ำ แก้หนองฝี แก้พิษงู และพิษไฟไหม้

ก้ามปูหลุดให้ประโยชน์ทางยา และการปลูกประดับ เนื่องจากเป็นยาเย็น จึงรักษาโรคพวกมีความร้อน พวกถอนพิษ การใช้ยานี้ทำได้โดยการต้มเอาน้ำ หรือต้มผสมกับปอดหมู รักษาโรคพิษภายในตามตำราที่มีมา

ต้นก้ามปูหลุดที่จริงก็มีพิษในตนเอง เมื่อหักก้านหรือใบจะมียางใสออกมา ส่วนนี้เป็นพิษ แต่ถ้านำไปทำยาก็มีวิธีที่ต้องระวังเพราะยาไทยต้องประสมประสาน

ยาบางตัวเป็นพิษ ต้องนำอีกตัวหนึ่งฆ่าพิษ ต้องพอเหมาะพอดีจึงจะได้ผล

ดังนั้น ผู้ใช้ต้องระวังด้วย

ตัวอย่างง่ายๆ เช่น หน่อไม้ มีประโยชน์ทำอาหารได้อร่อย กินเป็นประเภทผัก แต่กรรมวิธีต้องฆ่าพิษเสียก่อน โดยต้มน้ำทิ้ง และฆ่าพิษด้วยใบย่านางซึ่งมีรสเย็น เมื่อต้มรวมกันพิษก็หาย หน่อไม้นั้นก็หวานอร่อย ทำกับข้าวก็ได้ ทำขนมก็ดี

การที่คนรุ่นก่อนเชื่อหมอยาโบราณ (ที่บ้านมีตำรายาไทย) เพราะท่านได้ใช้ทดลองยาเหล่านั้นจนเชื่อถือได้ บันทึกลงสมุดไว้ให้เป็นมรดกแก่คนรุ่นหลัง

โดยเฉพาะต้นก้ามปูหลุดนี้ต้องระวัง มีประโยชน์มาก แต่ก็มีโทษ

สำหรับหญิงมีครรภ์ อย่าใช้ยานี้เด็ดขาด