อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์ : สองนคราอุษาคเนย์

อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์

สองนคราอุษาคเนย์ ผมไม่ได้หมายถึงแนวคิดชนบทตั้งพรรคการเมืองและตั้งรัฐบาล แต่เมื่อล้มรัฐบาลที่เกิดขึ้นในประเทศไทยอันประยุกต์พอได้สำหรับเศรษฐกิจการเมืองไทยทศววรษ 1990 แต่ตอนหลังเริ่มใช้ไม่ได้เสียแล้ว แต่ด้วยความรู้อันจำกัด ขอเวลาผู้เขียนศึกษาอีกซักหน่อย คงพอร่วมเสนอความคิดเห็นได้บ้าง

สองนคราอุษาคเนย์ ผมหมายถึงเศรษฐกิจ การเมืองสหพันธรัฐมาเลเซียและราชอาณาจักรกัมพูชาซึ่งมีทิศทางไปสู่ระบอบอำนาจนิยม (authoritarianism) มากขึ้น

 

ปาฏิหาริย์ที่มาเลเซีย

แม้แต่ผู้นำสหพันธรัฐมาเลเซียก็ยังไม่เชื่อว่า พวกเขาและพรรคร่วมรัฐบาลที่ครองอำนาจมานาน 61 ปีจะพ่ายแพ้ต่อการเลือกตั้งแก่พรรคแนวร่วมฝ่ายค้าน

แน่นอน มีหลายปัจจัยมากซึ่งหลายๆ ฝ่ายได้กล่าวมาแล้ว อาทิ การกลับมาของอดีตนายกรัฐมนตรีมหาธีร์ โมฮัมหมัด

คดีทุจริตครั้งมโหฬาร รวมทั้งเศรษฐกิจของประชาชนคนมาเลเซียทั้งประเทศที่แย่ลง ส่วนหนึ่งมาจากการเก็บภาษีการค้าและบริการในอัตราที่สูง

ย้อนกลับไปดูที่พรรคร่วมรัฐบาล อดีตนายกรัฐมนตรี Najib Rasak ลาออกจากหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลที่แพ้การเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ เขาได้เลือกอดีตรองนายกรัฐมนตรี Ahmad Zahid Hamidi เป็นประธานพรรคร่วมรัฐบาลแทน พร้อมกันนั้นมีผู้ลงสมัครแข่งขันดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคแทน ซึ่งก็ปรากฏว่านาย Ahmad Zahid Hamidi เป็นประธานพรรคร่วมรัฐบาลแทน (1)

นาย Ahmad Zahid Hamidi อายุ 65 ปี เขาเคยก้าวสู่ตำแหน่งรองจากอดีตประธานพรรค Najib Rasak ตั้งแต่ปี ค.ศ.2016 แทนนาย Muhyiddin Yassion ซึ่งเคยถูกปลดออกจากตำแหน่งเพราะไปวิพากษ์วิจารณ์อย่างเปิดเผยการทุจริตคดี 1 MDB

ในรัฐบาลชุดก่อน Ahmad Zahid Hamidi ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงมาตุภูมิ

เพิ่งเริ่มต้น

ตอนนี้มีเพียงการยึดบัญชีธนาคาร รวมทั้งบัญชีที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับ UMNO Fund ที่เกี่ยวข้องกับ 1 MDB นาย Zahid กล่าวว่า เขาจะหาทางพิสูจน์ว่า เงินของพรรคอัมโนไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับกิจการกองทุนผิดกฎหมายต่างๆ

ในขณะที่อดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบเตือนว่า พรรคการเมืองต่างๆ ไม่ควรตกเป็นเหยื่อที่เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสอบสวน

นายกรัฐมนตรีมาเลเซียคนใหม่ มหาธีร์ โมฮัมหมัด กำลังเสาะหาเงินจำนวน $ 4.5 billion ที่อาจหายไปจากการลงทุนของรัฐบาลมาเลเซียในชื่อเดิม 1 Malaysia Development Bhd. เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดเงิน 1.1 พันล้านริงกิต หรือ 272 ล้านเหรียญสหรัฐ เงินสด กระเป๋าและอัญมณีที่ยึดได้ในสถานที่เกี่ยวข้องกับอดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ

แต่อย่างไรก็ตาม กระบวนการสอบสวนและปาฏิหาริย์การเลือกตั้งไม่ได้หมายความว่า “ระบอบอำนาจนิยม” ในมาเลเซียจะหายไปชั่วพริบตา ความจริงแล้ว อาจเป็นการเปลี่ยนคนกลุ่มใหม่ที่ยังคงรักษาโครงสร้างและกลไกอำนาจนิยมที่ฝังรากลึกเอาไว้ต่อไป

 

ไม่มีอะไรน่าประหลาดใจที่กัมพูชา

ยิ่งใกล้วันเลือกตั้งทั่วไปในราชอาณาจักรกัมพูชา การกระชับอำนาจของระบอบอำนาจนิยมยิ่งเพิ่มมากขึ้น การเมืองระดับชาติ พรรคฝ่ายค้าน พรรคกู้ชาติกัมพูชา (CNRP) ถูกยุบ นักการเมืองฝ่ายค้านจำนวนมากหลบหนีออกนอกประเทศนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2556 เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิต Kem Sokha นักการเมืองฝ่ายค้านถูกจับกุม มีการฟ้องผู้นำฝ่ายค้านอีก มีการออกกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพครั้งแรกของประวัติศาสตร์กัมพูชา และมีนักการเมืองถูกฟ้องในคดีนี้

แล้วหนังสือพิมพ์ที่มีมาตรฐาน ได้รับการยอมรับจากนานาชาติและเป็นปากเสียงประชาชน Panom Phen Post ก็เปลี่ยนเจ้าของเพราะมีปัญหาเรื่องเสียภาษี แล้วนักลงทุนรายใหม่เป็นชาวมาเลเซียที่เกี่ยวข้องกับผู้นำระดับสูงของประเทศ ความจริงแล้ว หนังสือพิมพ์ Panom Phen Post ถูกปิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ.2017 (2) นักหนังสือพิมพ์หลายคนไม่ถูกยิงตายก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

แล้วจู่ๆ สมเด็จพระนโรดม รณฤทธิ์ ซึ่งอาจกลับเข้าสู่สนามการเมืองอีกครั้งก็ประสบอุบัติเหตุ รถยนต์ของท่านถูกชนเสียหายหนักและพระชายาเสียชีวิต ตัวท่านนโรดม รณฤทธิ์ ต้องมารักษาตัวอยู่ที่เมืองไทย

สาธารณรัฐประชาชนจีนสหายสนิทกัมพูชาให้ความช่วยเหลือโดยผ่านการลงนามถึง 19 ฉบับ เมื่อ 11 มกราคม พ.ศ.2561 อย่างคร่าวๆ คือปล่อยเงินกู้และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน แต่ไม่ได้มีการเปิดเผยรายละเอียดมากนัก แม้จะมีการลงนามระหว่างนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อ เฉียง แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนกับท่านนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ของราชอาณาจักรกัมพูชา (3)

ในด้านความช่วยเหลือทางการทหาร ความจริงแล้ว สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สาธารณรัฐประชาชนจีนเริ่มจากการให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ราชอาณาจักรกัมพูชาตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2559 กล่าวคือ ร่วมการฝึกทหารซ้อมรบ หลังจากนั้นทางการจีนก็มอบอาวุธยุทโธปกรณ์ เครื่องยิงจรวดและเฮลิคอปเตอร์แก่กองทัพกัมพูชา (4)

แต่มาคราวนี้ 26 มกราคม 2561 สาธารณรัฐประชาชนจีนกับราชอาณาจักรกัมพูชาจัดฝึกซ้อมร่วมทางทหารเป็นครั้งที่ 2

ล่าสุด สำนักข่าว AFP รายงานว่า 30 มิถุนายน 2561 ลูกชายสองคนของท่านฮุน เซน ได้รับการแต่งตั้งทางทหารเพิ่มขึ้น นาย 4 ดาว Hun Manet รักษาการเสนาธิการทหารและหน่วยงานต่อต้านการก่อการร้าย

ส่วนลูกชายคนที่สอง นายพล Hun Manit เป็นผู้บังคับบัญชาหน่วยข่าวกรอง (Intelligent unit) (5) ซึ่งมีความสำคัญมาก

 

ดูไปแล้ว ผู้นำฝ่ายค้านถ้าไม่ได้รับบาดเจ็บ ถูกฟ้อง ติดคุก ก็ลี้ภัยอยู่ต่างประเทศ พรรคฝ่ายค้านก็ไม่มี หนังสือพิมพิ์ซึ่งพอจะเป็นกระบอกเสียงของประชาชนหรือสื่อสารสาร ทางการเมืองไปโลกภายนอกก็ตกเป็นของเจ้าของใหม่ที่สัมพันธ์กับผู้นำระดับสูง

เฉพาะลูกชายของท่านก็คุมหน่วยบัญชาการรบที่สำคัญ อันนี้ยังไม่นับความช่วยเหลือด้านอาวุธยุทโธปกรณ์และเงินช่วยเหลือไม่อั้น แต่ไม่ได้แจ้งวัตถุประสงค์อีกมากมายจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ตัวท่านผู้นำก็ฟิตแอนด์เฟิร์มแล้วกล่าวแก่คนกัมพูชาว่า ผมจะอยู่อีก 2 สมัยหรืออีก 10 ปี

อาจกล่าวได้ว่า ระบอบอำนาจนิยมของราชอาณาจักรกัมพูชามั่นคงและมั่งคั่ง ถึงแม้จะไม่เหมือนกัน ถึงแม้คนกลุ่มใหม่ในมาเลเซียขึ้นมาล้างคนรุ่นเก่า แต่การเมืองชาติพันธุ์และลัทธิชาตินิยมยังเป็นฐานให้สานต่อระบอบอำนาจนิยมในมาเลเซียเดินต่อไป

ชนบทไม่ได้ตั้งรัฐบาล และคนเมืองหลวงไม่ได้ล้มรัฐบาลทั้งกัมพูชาและมาเลเซีย แต่อำนาจนำและความมั่งคั่งอยู่ในมือชนชั้นนำกลุ่มน้อย อันเป็นแนวโน้มที่คล้ายไทยแลนด์ 4.0 เข้าไปทุกที

ไทยแลนด์ 4.0 มั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน

———————————————————————————————————–
(1) Anisah Shukry and Pool Koon Chong, “Najib”s Party picks Ahmand Zahid to lead Malaysian Opposition” Bloomberg 30 June 2016.
(2) “New Phnom Pehn Post may have Hun Sen ties” AFP 6 May 2018
(3) “จีน-กัมพูชาลงนามสัญญาอีก 19 ฉบับ พร้อมปล่อยเงินกู้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน” มติชนสุดสัปดาห์ 11 มกราคม 2561
(4) จีน-เขมรกระฉับความสัมพันธ์แน่นแฟ้น จัดฝึกซ้อมร่วมมือทางทหารครั้งที่ 2 MGR Online 25 มกราคม 2561
(5) “Hun Sen”s son given key army post” 30 June 2018