การขี่มอเตอร์ไซค์ จากเชียงใหม่ไปสิงคโปร์คนเดียว

สิ่งที่ผมไม่รู้มาก่อน เกี่ยวกับ The Force ในหนัง STARWARS และการขี่มอเตอร์ไซค์ จากเชียงใหม่ไปสิงคโปร์คนเดียว (1)

หากใครเคยดูหนัง STAR WARS และสนใจว่า ที่ Master Yoda และพลพรรค Jedi พูดอยู่เสมอว่า “ขอพลังจงสถิตอยู่กับท่าน” (May the force be with you) คืออะไร…

เช้าที่สดใสวันหนึ่ง ตั้งใจขี่มอเตอร์ไซค์ไปดื่มกาแฟที่ร้านหนึ่งบนถนนสาย 118 ประมาณ 86 ก.ม.จากบ้าน

อากาศดีที่สุดที่จะเป็นไปได้ เมื่อผ่านไปประมาณชั่วโมงกว่าก็ไปถึง

หน้าร้านมีมอเตอร์ไซค์จอดอยู่แล้ว 1 คัน มันคือราชาแห่งท้องถนน BMW R1150RT

เมื่อจอดเจ้าสองสูบสีแดงเคียงข้างกันเสร็จ ก็หันไปมองป้ายทะเบียน

…ป้ายต่างประเทศ

สัปดาห์ที่แล้วเพื่อสนิทสมัยเรียนคนหนึ่ง ชื่อ เบน (นามสมมุติ) ทักทายผ่าน facebook เพื่อนสนิทสมัยปัจจุบันคนหนึ่ง ชื่อจารุ (นามสมมุติ) “เฮ้ย ตอนเรียนบอกว่าจะขี่มอเตอร์ไซค์ไป “สิงคโปร์” ตอนนี้กลับมาขี่มอเตอร์ไซค์แล้ว เมื่อไหร่จะขี่ไปวะ”

ผมสวนกลับไปโดยทันที “มึงออกไปก่อนเลย เดี่ยวกูตามไป”

การขี่มอเตอร์ไซค์จากเชียงใหม่ไปสิงคโปร์เป็นความฝันในวัยเด็กจริงๆ ฝันสมัยเด็กที่คิดว่าเมื่อเป็นผู้ใหญ่จะทำมัน แต่พอเป็นผู้ใหญ่ กลับกลายเป็นฝันนี้สูงเกินเอื้อม แม้แต่จะคิดยังไม่กล้า

คงเหมือนข้อความจากหนังสือเจ้าชายน้อย “ผู้ใหญ่ทุกคนเคยเป็นเด็กมาก่อน มีเพียงไม่กี่คนที่ยังจำได้”

แต่การขี่มอเตอร์ไซค์จากเชียงใหม่ไปสิงคโปร์ ในมุมมองของเราในปัจจุบัน มันเป็นเรื่องของคนไม่มีงานทำ เกษียณแล้ว ถูกหวย พ่อรวย เบียร์ ไร้ความสัมพันธ์ รอยสัก Harley Davidson ไม่มีพรุ่งนี้ให้คิดอะไรถึงมากนัก…ไม่ใช่เรื่องของเรา ไม่ใช่เรื่องของผู้ใหญ่…เราคงจะเป็นผู้ใหญ่ซะแล้ว

ณ จุดจุดนี้ (ขอยืมพี่โน้ตมาใช้) เป็นจุดแรกสุดที่พลัง หรือ THE FORCE สะกิด “ฝันจะขี่มอเตอร์ไซค์ไปสิงคโปร์” ขึ้นมาในสมอง

เมื่อเดินเข้าไปในร้าน เจ้าของราชาแห่งท้องถนนคันนั้นก็ทักทาย (เป็นภาษาอังกฤษ) ก่อนเลย “เป็นไงบ้างเช้านี้ อากาศดีมาก และกาแฟที่นี่ก็เยี่ยมมากเลย”

ผมก็ตอบ “เป็นเช้าที่ดี อากาศเยี่ยม และกาแฟร้านนี้ก็ดีจริงๆ”

จากนั้นก็ถามกลับ “ยูมาจากไหน” คำตอบคือ “สิงคโปร์”

“แล้วเพื่อนยูอยู่ไหนอ่ะ” เขาตอบว่า “ไอมาคนเดียว” … “มาจากสิงคโปร์? มาคนเดียว?” ผมถามกลับให้ชัวร์ บางทีอาจมาจากสิงคโปร์กับกลุ่ม แต่ขี่มากินกาแฟ 86 ก.ม.จากเชียงใหม่คนเดียวก็อาจเป็นไปได้

“ไอขี่มาจาก “สิงคโปร์” มาคนเดียว ขี่มา 4 วันว่ะ”

เช้านั้นความตั้งใจว่าจะมานั่งดื่มกาแฟชิลชิล เป็นอันว่าหมดกัน

ก็อย่างที่บอกนั่นแหละ การขี่มอเตอร์ไซค์จากสิงคโปร์มาเชียงใหม่คนเดียว มันเป็นเรื่องของคนไม่มีงานทำ เกษียณแล้ว ถูกหวย พ่อรวย ไร้ความสัมพันธ์ เบียร์ รอยสัก Harley Davidson

ไม่มีพรุ่งนี้ให้คิดอะไรถึงมากนัก…ไม่ใช่เรื่องของเรา ไม่ใช่เรื่องของผู้ใหญ่

แต่สิ่งที่กำลังเห็นอยู่ตรงหน้า เป็นเรื่องของชายผู้มีสติปัญญา BMW เอสเปรสโซ่ร้อน และรุ่งอรุณยามเช้า

สมองเกิดความขัดแย้งกันอย่างรุนแรงระหว่างสิ่งที่คิดกับสิ่งที่เห็น ระหว่างความรู้ที่มีกับความจริงที่ปรากฏ อะไรก็ตามที่เคยรู้มาเกี่ยวกับการขี่มอเตอร์ไซค์ไปไกลสุดขอบฟ้า กับที่เห็นอยู่ตรงหน้า มันขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิง

ผมขอ e-mail เขาไว้ ขอถ่ายรูปร่วมกันไว้ แล้วเขาก็เลี้ยวซ้ายออกจากร้าน มุ่งหน้าไปเชียงราย ผมนั่งงงอยู่พักใหญ่ๆ แล้วก็แต่งตัว ติดเครื่อง เลี้ยวขวาออกจากร้าน มุ่งหน้ากลับเชียงใหม่

ณ จุดจุดนี้ พลังหรือเรียกว่า The Force ได้เปลี่ยนความคิดจากคนบ้าเท่านั้นที่ทำกัน มาเป็นมีบ้างบางคนที่ไม่ใช่คนบ้า…เขาก็ทำกัน

หลังจากนั้นประมาณ 1 วัน ก็ส่ง e-mail ข้อมูลเส้นทางน่าวิ่งในทางเหนือให้กับเขา และเพื่อให้สมองได้มีโอกาสทำความเข้าใจเหตุการณ์มากขึ้น ว่ามันไม่ใช่เรื่องของคนบ้าเท่านั้นที่ทำกัน คนดีๆ เขาก็ทำกัน, ไม่ใช่เพียงความฝันไร้สาระในวัยเด็ก แต่เป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่ก็ทำกัน ผมขอนัดเขาดื่มกาแฟอีกครั้ง และก็รับนัด โดยบอกว่า เขาจะบินกลับสิงคโปร์ไปร่วมงานปาร์ตี้ที่ภรรยาเขาเป็นคนจัดสัก 2 วัน แล้วเมื่อเขาบินกลับมาเพื่อขี่ราชาแห่งท้องถนนของเขาต่อ เราจะดื่มกาแฟกัน

เมื่อตรวจสอบจาก e-mail พบว่าเขาเป็น CEO ขององค์กรการเงินใหญ่โตแห่งหนึ่งของ Asia ทีเดียว นั่นไง…ว่าแล้วเชียว ดูบุคลิกแล้วว่าไม่ธรรมดา…ก็ไม่ธรรมดาจริงๆ

ผมเตรียมตัวอย่างดีที่สุดที่จะเป็นไปได้ คิดคำถามไว้ล่วงหน้า เตรียมสมุดและปากกาไปจด เพื่อทำความเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “ไอใช้เวลา 4 วันในการขี่มอเตอร์ไซค์จากสิงคโปร์มาถึงเชียงใหม่ มาคนเดียว” และเขาไม่ได้บ้า

หลังจากที่เขาลงเครื่องบินมา เราก็พบกันที่ร้านกาแฟ เวลา 3 ชั่วโมงผ่านไปด้วยความเร็วสูง ความรู้ที่ได้มหาศาล การวางแผนการเดินทางที่มีความเสี่ยงต่ำ การจำกัดความเสี่ยง (แน่นอน เขาเป็นนักการเงิน นักการธนาคาร ความเสี่ยงเป็นเรื่องที่เขาต้องบริหารได้ดีมากอยู่แล้ว)

แนวความคิดของการทำสิ่งนี้ รวมไปถึงการบริหารเวลา ซึ่งสัมพันธ์กับความเสี่ยงโดยตรงทีเดียว

ณ จุดจุดนี้ พลังหรือ THE FORCE ได้มอบวิธีการให้ผมได้เข้าใจว่าการทำสิ่งนี้ด้วยความเสี่ยงที่ต่ำลงมาก ทำอย่างไร

และเมื่อผมรับรู้ได้ว่าเขาอยากจะพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวเดินทางต่อในวันพรุ่งนี้แล้ว ผมก็เลยขอตัวลากลับ

ก่อนกลับเขาก็ถามคำถาม

“ยูคิดว่ายูจะทำสิ่งนี้ไหม?”

“เยส ไอจะทำสิ่งนี้, ไอจะขี่มอเตอร์ไซค์ไปสิงคโปร์”

“เมื่อไหร่, ยูคิดว่ายูจะไปเมื่อไหร่”

เราคุยกันเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน… “มีนาคม, ไอจะขี่มอเตอร์ไซค์ไปสิงคโปร์ในเดือนมีนาคม”

“โอเค ไอจะเลี้ยงกาแฟยู และจะพายูขี่มอเตอร์ไซค์รอบสิงคโปร์ 1 รอบเลยว่ะ”

“โอเค ไอจดคำสัญญาของยูไว้แล้ว…เจอกันที่สิงคโปร์”

ณ จุดจุดนี้ พลังได้เข้าสถิตอยู่กับผมเรียบร้อยแล้ว…