เมนูข้อมูล : ยังไม่มีศรัทธาใน “พรรคใด”

ทันทีที่น้ำตา “สุเทพ เทือกสุบรรณ” อาบแก้มต่อหน้ามวลมหาประชาชน อันผนึกรวมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หยดลงพื้นมหาวิทยาลัยรังสิตของ “ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์” เป็นเจ้าของ

อารมณ์ทางการเมืองก็ทะลุจากเริ่มเข้มขึ้นเป็นร้อนแรง

กลุ่มการเมืองพรรคใหม่ที่ตั้งใจจะใช้ “เทพเทือก” เป็นจิตวิญญาณ และใช้ “ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์” ผู้อิงแอบเผด็จการ วาดหวังอำนาจจากบารมีของคนอื่นมาตลอดเส้นทางแห่งอำนาจเป็น “ตัวแสดง”

มีความฝันจะฟื้นคืนทั้ง “สีธงชาติ” ที่ปรี๊ดปร๊าดด้วย “เสียงนกหวีด” และ “สีเหลือง” ที่เจี๊ยวจ๊าวด้วย “ป๋องแป๋งมือตบ” มารวมตัวกัน เพื่อสู้ศึกเลือกตั้ง

เป็นความฝันที่ต่อท่อมาจากความคิดที่ว่า “สีเหลือง” และ “เสียงนกหวีด” เป็น “ก้อนอุดมการณ์” ที่จะอาศัยเป็นฐานส่งสู่ความสำเร็จทางการเมืองได้

ไม่ใช่แค่ “กลุ่มก้อนเฉพาะกิจที่ก่อตัวมาจากแรงเกลียดชังในทักษิณ ชินวัตร” อันจำเป็นต้อง “ปลุกผีทักษิณ” ขึ้นมาเป็นเหยื่อล่อให้ออกมา “ตีอก ชกหัว ดวงตาแดงฉาน ด้วยพิษแห่งชิงชังที่ร้อนทุรนอยู่ภายใน” ที่หาก “ทักษิณ” ไม่เติมเชื้อให้ก็มีแต่มอดดับ สลายกลายเป็นอากาศธาตุ ไม่สามารถเป็นฐานจะส่งใครสู่อำนาจบาตรใหญ่ได้

แต่ด้วยความเชื่อว่า “พลังแห่งเทพเทือก”แสดงฤทธิ์กระตุ้นให้เกิดการรวมตัวได้ และความเข้าใจใน “สภาวะจิตมวลชน” ของ “เอนก เหล่าธรรมทัศน์” จะทำให้สามารถสร้างแรงเร้า “เสื้อเหลือง” มาร่วม “เป่านกหวีด” ชักนำคะแนนเสียงให้ความฝันในอำนาจเป็นจริงขึ้นมาได้

แม้ฝ่ายตรงกันข้ามจะรู้สึกว่า เรื่องราวทั้งหลายเหล่านี้เป็นความฝันอันเพ้อเจ้อ ล่องลอยสิ้นดี

แต่ “น้ำตาเทพเทือก” ย่อมกระตุ้นให้เกิดความตื่นตัวทางการเมืองขึ้นมากมาย อย่างน้อยที่สุดในอารมณ์ “มันมาแล้วจริงๆ” และมาแรงชนิดที่กล้าหาญประกาศให้ “ความสัตย์” เป็นเรื่องไร้สาระ สามารถ “ตระบัด” ได้โดย “ไม่ต้องฟังเสียงวิจารณ์” ความหวังที่ก่อขึ้นด้วยความคิด

ความเชื่อเช่นนี้จะไปถึงเป้าหมายได้หรือไม่ เป็นเรื่องน่าคิด

และยิ่งดูจากผลสำรวจของ “ซูเปอร์โพล” ของ “ดร.นพดล กรรณิกา” นักทำโพลชื่อดัง ยิ่งมีประเด็นที่น่าคิดไม่น้อย

เป็นการสำรวจที่ทำในช่วงวันที่ 15 พฤษภาคม-2 มิถุนายนที่ผ่านมานี้เอง

ในคำถามของ “ซูเปอร์โพล” ที่ว่า “ถ้าวันนี้เป็นวันเลือกตั้ง มีพรรคการเมืองในใจหรือยัง”

คำตอบที่ออกมาคือ ร้อยละ 82.2 ตอบว่า “ยังไม่มี” ที่ตอบว่า “มีแล้ว” มีเพียงร้อยละ 18.8

“ไม่มีพรรคในใจ” แต่เมื่อถามว่าจะสนใจไปเลือกตั้งหรือไม่ โดยแบ่งเป็นกลุ่มตามความสนใจในการติดตามข่าวสารด้านการเมือง ส่วนใหญ่ตอบว่าจะไป คือร้อยละ 84.9 ของคนที่ติดตามข่าวสารการเมืองทุกวัน, ร้อยละ 84.7 ของกลุ่มที่ติดตามข่าวสารการเมืองบางวัน และร้อยละ 73.3 ของกลุ่มที่ไม่ได้ติดตามข่าวสารการเมืองเลย

แปลความตามผลโพลนี้น่าจะเป็นว่า ความสนใจที่จะมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนคนไทยนั้นมีสูงมาก และปรารถนาการเลือกตั้งแล้ว

กลับกลายเป็นว่า ทั้งที่ประเทศไทยปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยมายาวนาน มีพรรคการเมืองสืบทอดกันมา บางครั้งเก่าแก่กว่าผ่านครึ่งศตวรรษมาแล้วยาวนาน แต่ความศรัทธาในพรรคนั้นน้อยมาก แทบไม่มีความผูกพันเอาเลย

ทั้งนั้น พรรคใหม่หรือพรรคเก่าแก่ มีความหมายไม่แตกต่างกัน

ประชาชนยังไม่มีตัวเลือกที่ตัดสินใจแล้ว

เมื่อเป็นเช่นนี้ “กลุ่มการเมืองพรรคใหม่” ที่มี “เทพเทือกเป็นจิตวิญญาณ” มี “ดร.เอนก” เป็นตัวแสดง ย่อมไม่แปลกที่จะมีความหวัง

ภาพของ “พลังเสื้อเหลือง” และ “มวลมหาประชาชนนกหวีด” ก่อนหน้านั้นย่อมชวนให้หลงใหล และรำลึกถึงศรัทธาที่คล้ายจะมอบให้

หลังการเปิดตัวสร้างพรรคการเมืองลงสนามเลือกตั้ง

เรื่องราวที่ดำเนินไป และผลการเลือกตั้งจะเป็นคำตอบที่ทำให้ภาพของพัฒนาการทางการเมืองของประเทศไทย

โดยเฉพาะในมุมพัฒนาการของพรรคการเมืองชัดเจนขึ้น