หลังเลนส์ในดงลึก /ปริญญากร วรวรรณ/’ทางลัด’

ม.ล.ปริญญากร วรวรรณ
กวาง - ในที่โล่ง ฝีเท้าอันรวดเร็วช่วยให้กวางหลบเลี่ยงสัตว์ผู้ล่าพ้น

หลังเลนส์ในดงลึก ปริญญากร วรวรรณ

‘ทางลัด’

เดินทางอยู่ในป่า
ผมรู้อย่างหนึ่งว่า บางครั้งก็ไม่มี “ทางเบี่ยง” ให้เลี่ยงพ้นอุปสรรค หากต้องการไปให้ถึงจุดหมาย
และอีกสิ่งหนึ่งซึ่งคนเดินป่ารู้คือ หลายครั้งเมื่อเลือกใช้เส้นทางลัด ที่ระยะทางสั้นกว่า หรือแม้แต่การใช้จีพีเอส “โกทู” ตัดเป็นเส้นตรง ไม่ไปตามเส้นทางด่านที่สัตว์ป่าใช้ ซึ่งมักอ้อมไป-มา เราจะพบว่า นั่นจะเป็นเส้นทางที่เดินยาก รกทึบ สูงชัน ต้องใช้ความพยายามมากยิ่งขึ้น
และ “ทางลัด” นี่แหละทำให้เสียเวลามากกว่าปกติเสมอ

ป่าด้านตะวันตก
ปลายเดือนธันวาคม
เส้นทางแห้งแข็ง ขรุขระ ใบไม้สีน้ำตาลแห้งร่วงหล่น ทับรอยร่องล้อ ช่วงที่เป็นร่องลึก ดินแห้งแข็ง พอให้นำรถคล่อมไปได้
ลำไผ่ล้มขวางทาง เพราะช้างดึงลงมา ต้นไม้ใหญ่กว่าโคนขาสองต้นล้ม นั่นไม่ใช่อุปสรรค เพราะเรามีเลื่อยซึ่งลับคมมาอย่างดี
ดูเหมือนว่าช้างจะหากินอยู่ห่างจากบริเวณนี้ มีแต่รอยตีนและขี้กองเก่าๆ
ทางตัดขึ้นสันเขา ป่าโล่ง ลำห้วยสายหลักคดเคี้ยว มองเห็นชัดเจน สายน้ำลดระดับลงมากแล้ว หาดทรายขยายเป็นแนวกว้าง
ร่องรอยกระแสน้ำรุนแรงเมื่อสองเดือนก่อนยังมีอยู่ เมื่อริมฝั่งลำห้วยเริ่มรกทึบ สายน้ำมักทำหน้าที่กวาดล้างให้ราบเรียบ
มองผ่านกล้องสองตา บนผืนทรายราบโล่ง รอยตีนควายป่าเดินเลาะไปตามลำห้วยเพียงลำพัง
นกเหยี่ยวรุ้งบินวนเวียนอยู่เหนือผืนป่า ซึ่งเริ่มมีสัณญาณแห่งความแห้งแล้ง
ลงจากสันเขา ทางผ่านโป่งแห่งหนึ่ง ก่อนจะขึ้นเนินยาวๆ อีกครั้ง และเริ่มเข้าสู่ดงไผ่
ใต้ดงไผ่ มีร่องลึกยาวราวเกือบ 100 เมตร จากนั้นจะข้ามห้วยเล็กๆ และขึ้นเนิน
ร่องลึกนั่นคือร่องรอยของเราที่รถติดหล่มเดือนที่แล้ว
ผมหยุดรถปลายเนิน ดูนาฬิกา อากาศมืดสลัว แม้ว่าแค่ 16 นาฬิกา
“ทางแห้งแล้วล่ะ คล่อมร่องเดิม ชิดขวาไว้ตอนข้ามห้วยก่อนขึ้นเนิน ดินแข็งน่าจะพอไหวครับ” จักรสิน เพื่อนร่วมทาง เดินสำรวจเส้นทางกลับมาบอก
ข้างร่องลึก มีรอยตีนเสือโคร่งขนาดฝ่ามือ เหลืออีกสักหนึ่งชั่วโมง เราจะถึงแคมป์อันเป็นสถานีตรวจจับสัณญาณวิทยุ ซึ่งเครื่องส่งอยู่กับตัวนกเงือก
“พลาดท่ายังไงก็นอนตรงนี้แหละ” ผมพูดและหัวเราะกับเพื่อนร่วมทาง
ผมขึ้นรถ ตบหน้าปัดเบาๆ พูดกับรถ
“สู้หน่อยนิด”
ผมเร่งเครื่อง รถกระเด้งกระดอนมาได้ราว 20 เมตร รถเริ่มจมดินที่เห็นแห้งๆ แท้จริงเบื้องล่างยังเละ อ่อนนุ่ม เกินกว่าจะรับน้ำหนักรถได้
รถจมท่วมล้อ ผมกับจักรสินผลัดกันขุดดินให้ล้อโผล่พ้น ใช้แม่แรงยกให้ล้อลอยและดันไม้ไผ่ท่อนโตๆ เข้าไปรอง รถเคลื่อนไปได้ทีละน้อย
ฟ้ามืด 19.30 นาฬิกา รถยังไม่พ้นหล่ม
“พอก่อนไหม พรุ่งนี้ค่อยว่ากันต่อ” ผมบอกเพื่อนร่วมทาง
จักรสินพยักหน้าที่มอมด้วยโคลน
ข้าวเหนียว หมูปิ้ง ที่เราซื้อจากตลาด เป็นอาหารเย็น จักรสินจุดเตาแก๊ส ต้มน้ำ ผมชงโกโก้ เขาฉีกซองกาแฟสำเร็จรูป
ปูผ้ายางข้างๆ รถเป็นที่นอน อากาศเย็นยะเยือก แต่ไม่หนาวจัดเหมือนช่วงต้นเดือน
“ด่านช้างเลยนะครับ” จักรสินพูดยิ้มๆ หุบนี้คือเส้นทางที่ช้างใช้เดินไปสู่ลำห้วย
ผมเอนตัวลงบนผ้ายาง คลี่ถุงนอนห่ม
ดงไผ่ทึบมองไม่เห็นท้องฟ้า คืนเดือนมืดเช่นนี้ ดาวคงส่องประกายระยิบระยับ
มองไม่เห็น แต่ท้องฟ้าคืนเดือนมืดย่อมเป็นเช่นนี้

รุ่งเช้า
เราใช้เวลาอีกร่วม 3 ชั่วโมงจึงผ่านพ้นไปได้ ก่อนถึงแคมป์ ต้องเลื่อยไม้อีกสองต้น
เราทำงานอยู่ร่วมสองสัปดาห์จึงออกมาซื้อเสบียง
ตรงหล่มรถติด เราใช้ไผ่สองท่อนวางคู่กัน เป็นคล้ายสะพานค่อยเคลื่อนรถผ่านไป ลงจากสันเขาสักพัก ป่าบริเวณนี้เป็นป่าเต็งรัง พื้นเป็นหินกรวดก้อนเล็กๆ ในหน้าแล้งร้อนระอุ
เบื้องหน้า พระภิกษุกลุ่มใหญ่นั่งอยู่บนทาง
เส้นทางด้านป่าตะวันตกตั้งแต่จังหวัดกาญจนบุรี ผ่านอุทัยธานี ขึ้นไปถึงจังหวัดตาก คือเส้นทางธุดงค์ของภิกษุจำนวนมาก ต่อเนื่องมาหลายปี
ตั้งแต่ออกพรรษา เราพบเจอภิกษุในป่านี้เสมอ
“จะเข้าเมืองไหมโยม” พระรูปหนึ่งถาม
“ขอติดรถไปด้วยเถอะ ไม่ได้กินข้าวมา 4 วันแล้ว”
โดยปกติ พระคณะอื่นๆ ที่พบ มักมีฆราวาสร่วมมาด้วย เพื่อทำหน้าที่ประกอบอาหาร แต่คณะนี้ไม่มี
“นิมนต์เลยครับ” ความอิดโรยของพระทำให้ผมไม่ลังเล 4 วันที่ไม่ได้กินอาหารหนักๆ สำหรับผู้ไม่คุ้นเคย ไม่ใช่เรื่องน่ารื่นรมย์เลย

ซื้อเสบียงเสร็จ ผมกับจักรสินกลับเข้าป่า
เราต่างนั่งเงียบ ประโยคที่ภิกษุท่าทางอิดโรยพูดกับพระรูปอื่นตอนขึ้นรถมาแล้ว ทำให้ผมนึกถึงคำว่าทางลัด
“รอดตายแล้วเรา” คือประโยคที่ท่านพูด
เส้นทางสู่จุดหมายใดๆ คงต้องใช้เวลา ใช้เส้นทางอย่างที่ควรจะเป็น ใช้เส้นทางลัด ด้วยความเชื่อว่าจะถึงจุดหมายรวดเร็ว
อาจทำให้ผู้เลือกเดิน พบว่าต้องใช้เวลามากกว่า
แม้เราต่างจะรู้ว่า การเดินทางสู่จุดหมายไม่ได้มีเพียงหนทางเดียว
การเลือกเส้นทางให้เหมาะสมจึงจำเป็น
ผ่านพ้นอุปสรรคบนหนทาง “ปกติ” มาได้ เวลาที่สูญเสียไป ไม่ได้เพียงมาพร้อมกับประสบการณ์
แต่ความหมายของคนเดินทางในป่า
คือ จะไม่ลงไปติดซ้ำในหล่มเดิม