อนุสรณ์ ติปยานนท์ : อาหารยามจาริก – พิจารณา”กัญชา”

My Chefs (33)

อาหารยามจาริก (4)

“ผู้คนรู้จักสิ่งที่เรียกว่ากัญชามาเนิ่นนาน Cannabis, Grass, Marijuana แล้วแต่คุณจะเรียกมัน ว่ากันว่ามันถือกำเนิดในเอเชีย ก่อนจะเคลื่อนเข้าไปในยุโรปและทวีปอเมริกา คนจีนสูบมัน นักรบมองโกลสูบมัน พวกไวกิ้งสูบมัน พวกคนยุโรปในยุคกลางให้ผู้หญิงเสพมันขณะกำลังคลอดลูกหรือให้กำเนิดบุตรเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด ส่วนคนธรรมดาสามัญจะใช้มันในยามเจ็บปวดเรื้อรังอย่างมีอาการปวดฟันหรือปวดตามกระดูก โดยนัยแบบนั้น กัญชาจึงเป็นยาบรรเทาปวดชั้นดี ไม่ใช่สิ่งเสพติดเช่นปัจจุบัน”

ไคลน์เริ่มต้นการบรรยายของเขาก่อนจะลุกจากเก้าอี้ เขาหายไปด้านหลังบ้าน

ชั่วครู่ก่อนจะกลับมาพร้อมด้วยยอดกัญชาสีเขียว มันเขียวสดไม่ต่างจากผักออร์แกนิกจำนวนมากในบริเวณ กะเพรา โหระพา แมงลัก สะระแหน่ กัญชาของไคลน์มีสีเขียวเช่นนั้น

“กัญชาเป็นของผิดกฎหมาย เป็นสิ่งเสพติดชั่วร้ายเมื่อไม่นานนี้เอง สังคมสร้างกัญชาให้เป็นสิ่งชั่วร้ายเพราะอะไรและเพื่ออะไร คุณรู้ไหม?”

คำถามของไคลน์เป็นเรื่องที่น่าขบคิด แม้ว่าผมจะเคยลองดูดกัญชา (สูบหรือปุ๊น แล้วแต่จะเรียก) ในหลายครั้ง แต่ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในมันเป็นแน่ และแม้ว่าจะมีเพื่อนสนิทหลายคนหลงใหลในมัน (ซึ่งมักมีคำเรียกขานพวกเขาเหล่านั้นสั้นๆ ว่ามิตรสหายสายเขียว) แต่ไม่มีครั้งใดเลยที่เราจะคุยกันในเรื่องแบบนี้

บทสนทนาส่วนใหญ่รอบๆ กัญชาคือได้มาจากไหน ราคาเท่าใด และใครพอจะว่างออกไปหาขนมหวานมาให้ได้บ้าง นั่นคือบทสนทนาที่มีและเป็นในวงกัญชาของเรา

การตั้งคำถามของไคลน์จึงคล้ายดังบทบรรยายเรื่องประวัติศาสตร์กัญชามากกว่าการเริ่มต้นเสพมัน

“ถ้าเราพิจารณาสายพันธุ์ของกัญชา นายคงพอนึกออกว่ามันมีอิทธิพลมากต่อชีวิตร่อนเร่สมัยโบราณ Cannabis Sativa คือชื่อสายพันธุ์ของมัน ในขณะที่ Cannabis Sative L. สายพันธุ์ใกล้เคียงนั้นเป็นสายพันธุ์ที่เราเอาใยของมันมาทำเสื้อผ้าหรือที่รู้จักกันในนามของกัญชง ดังนั้น ในอดีต ผู้คนน่าจะปลูกกัญชาคู่กับกัญชงชนิดหนึ่งไว้รักษาอาการเจ็บปวด อีกชนิดหนึ่งนั้นไว้ทำเสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่มนั่นเอง”

ผมพยักหน้า ในขณะที่มือของไคลน์เริ่มต้นเด็ดยอดกัญชาออกเป็นส่วนเล็กๆ

“เดี๋ยวกันจะต้มไก่ใส่ยอดกัญชาให้นายกิน เมนูง่ายๆ แต่ทำให้ปอดโล่งและหายใจสะดวก เสียดายที่เตาอบจากดินของกันยังไม่เรียบร้อย” ไคลน์ส่งสายตาไปยังเตาดินเผาแบบที่เราเรียกว่าทันดูรี่ที่ด้านข้างของบ้าน

“ไม่เช่นนั้นกันจะทำพิซซ่าหน้ากัญชาให้นายทาน เมนูนั้นกันได้มาจากพนมเปญ และเป็นเมนูที่กันเชื่อว่าน่าจะเริ่มได้รับความนิยมในดินแดนแถบนี้อีกไม่นานนัก”

ไคลน์ลุกจากเก้าอี้อีกครั้ง ติดเตาถ่านของเขาจนไฟลุกแดง ผมลุกจากเก้าอี้เช่นกัน ใช้น้ำร้อนจากกาชงกาแฟสำเร็จรูปดาวเรือง กาแฟจากปากซ่องที่ทำการตลาดได้แพร่หลายจนคุณพบได้ทั่วทุกที่ในลาว

ไคลน์เอาน้ำจากถังใส่ลงหม้อ

“น้ำฝนที่กันรองไว้ตลอดฤดู” เขาพูดในระหว่างวางหม้อลงบนเตาถ่าน ใส่เกลือเล็กน้อยลงในหม้อ

หลังจากนั้น เขาทุบตะไคร้ หั่นข่าและขมิ้นเป็นชิ้นบางๆ ทุบหอมแดง ฉีกใบมะกรูด ก่อนจะโยนทุกอย่างลงในหม้อ

ไม่น่าเชื่อว่าเพียงเวลาไม่นานนักที่ไคลน์มาอยู่ที่นี่ เขากลับชินกับเครื่องเทศและสมุนไพรของเอเชียอย่างน่าทึ่ง

เขาไม่มีทีท่าแสบจมูกหรือทำหน้าตายู่ยี่เมื่อเผชิญกับเครื่องแกงหรือสมุนไพรสด แต่ดูรื่นรมย์อย่างยิ่งราวกับว่ามันเป็นกลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคยแทน

หม้อน้ำเดือดส่งกลิ่นของเครื่องแกงเป็นระยะ ในขณะที่ไคลน์กลับมาที่ที่นั่ง

“พวกนักเดินเรือหรือพวกชาวประมงจากจีนหอบหิ้วกัญชาไปเกาหลีในเวลาต่อมา หลังจากนั้นมันย้อนกลับเข้ามาในดินแดนแถบนี้ ผ่านเข้าไปในอินเดีย ที่อินเดีย กัญชาถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสมุนไพรสำคัญห้าชนิดของอาณาจักรนั้น ฤทธิ์ของกัญชาได้รับการยกย่องว่าสามารถดับความกระวนกระวายได้ดี ถ้านายไม่เชื่อไปที่พาราณสี สาธุแทบทุกคน โยคีแทบทุกตน ใช้กัญชาเป็นอาจิณ”

ผมพยักหน้า จิบกาแฟ “ใช่ กันเคยดูสารคดีเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างกัญชาและการฝึกฝนทางจิต แต่นายคงไม่บอกว่าที่นายมาที่นี่ มาอยู่ที่นี่ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฝึกฝนทางจิตและกัญชา”

“ใกล้เคียง” ไคลน์ตอบ “ไม่ตรงทีเดียวแต่ใกล้เคียง” ไคลน์ลุกจากเก้าอี้อีกครั้ง

สัญชาตญาณแห่งความเป็นพ่อครัวของเขายังทำงานได้ดี กลิ่นที่เปลี่ยนแปลงไปสามารถทำงานได้ดังนาฬิกาปลุกให้เขารู้ว่าควรทำอะไรและเมื่อไหร่

เขาเปิดตู้เย็น หยิบกล่องพลาสติกที่แล่เนื้อไก่บ้านไว้เรียบร้อยแล้ว เทเนื้อไก่ใส่หม้อที่น้ำกำลังเดือดจัดอย่างช้าๆ เขาปิดฝาไว้ ออกเดินไปหน้าบ้าน เด็ดยอดมะขามอ่อนจากต้น ล้างน้ำ ครานี้ เขาใช้มือบีบใบมะขามอ่อนให้เข้ากับยอดกัญชาจนเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วโยนมันลงในหม้อ

“ออกไปเดินเล่นริมน้ำแม่หลิกไหม ราวสิบห้านาทีถึงยี่สิบนาที เราคงได้เวลามื้ออาหารกัน”

แม่น้ำหลิกในฤดูแล้งไม่มีน้ำมากนัก แต่ความใสเย็นของมันเท่าที่มีก็ทำให้จิตใจของเราสองคนสงบได้อย่างประหลาด มีเสียงนกร้องอยู่ไม่ไกลนัก ชีวิตที่กาสีเป็นชีวิตที่เชื่องช้าหรือ Slow Life แบบที่ประโคมกันในงานเขียนเชิงนิเวศวิทยาจำนวนมาก แต่นั่นแหละ ผมเองยังใหม่กับสถานที่แห่งนี้เกินกว่าจะสรุปอะไรได้มากกว่านั้น

“กัญชาเข้าไปสู่ยุโรปจากอินเดียได้อย่างไร คงไม่ต้องอธิบายให้นายฟัง และจากยุโรป หลังช่วงการเดินทางไปโลกใหม่และการตั้งอาณานิคมทาสในแอฟริกา กัญชาก็เดินทางไปถึงทวีปอเมริกาและทวีปแอฟริกา ว่ากันว่าแม้แต่ในการเดินทางเที่ยวแรกของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ลูกเรือหลายคนก็ใช้กัญชาเพื่อบรรเทาความกลัดกลุ้มจากชะตากรรมแห่งการเดินทาง กัญชาเดินทางไปทั่วโลกแล้วตอนนี้อย่างถูกกฎหมายก่อนที่มันจะผิดกฎหมายเพราะบุคคลเดียว”

“บุคคลเดียว?”

“ใช่ บุคคลเดียว ชายผู้มีนามว่า แฮรี่ อันสลิงเกอร์ ผู้ดูแลด้านยาเสพติดในสหรัฐ หาทางขจัดเวลาว่างหลังจากสุรากลายเป็นสิ่งควบคุมไปแล้ว เขายกกัญชาขึ้นมาเล่นงานเป็นรายต่อไป

เขาหาเหตุผล หาคดีความจำนวนมากมาสนับสนุนข้อกล่าวหาของเขา

ในที่สุดรัฐบาลสหรัฐยอมบ้าจี้เล่นตามเกม และอย่างที่คุณรู้ หลังจากสหรัฐตราหน้าว่ากัญชาเป็นสิ่งชั่วร้าย ประเทศทั้งหลายที่ได้รับเงินสนับสนุนจากสหรัฐก็ลุกขึ้นบ้าจี้ตามด้วย”

“อาทิ ประเทศไทย?”

“แน่นอน” ไคลน์หัวเราะ

“ในช่วงสงครามเย็น จะหามหามิตรที่เคียงบ่าเคียงไหล่กับสหรัฐอย่างไทยไม่ได้อีกแล้ว แปลกดี และย้อนแย้งเอามากๆ กันพบว่าในขณะที่รัฐบาลสหรัฐเล่นงานกัญชาอย่างเอาเป็นเอาตาย นักบินสหรัฐ ทหารสหรัฐ กลับพากันเสพกัญชาที่ปลูกและงอกงามในไทยอย่างชื่นชม นายเคยได้ยินชื่อกัญชาด้ายแดงจากแถบอีสานหรือแถบตะวันออกเฉียงเหนือของไทยไหม?”

ผมส่ายหน้าและรู้สึกละอายที่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับประเทศตนน้อยเต็มที

“กัญชาด้ายแดงเป็นการผลิตกัญชาโดยวิธีการมัดกัญชากับแท่งไม้ด้วยด้ายสีแดง ว่ากันว่านั่นเป็นสูตรเฉพาะที่เหล่าทหารอเมริกันไม่เคยพบมาก่อน และเรียกขานกันว่ากัญชาแบบ Red Sticks หรือ Thai Sticks กันเองไม่เคยได้ลิ้มรสกัญชาที่ว่านั้น แต่ชาวม้งในบริเวณนี้ที่ยังปลูกกัญชาสูบกันในครัวเรือนใช้เทคนิคที่ไม่แตกต่างกัน”

“ถ้านายมีเวลาเราจะไปเยี่ยมพวกเขาสักครั้ง แต่เอาเป็นว่า ความโด่งดังของกัญชาจากไทยกระพือไปตามทหารที่ปลดประจำการและประจำการ ซึ่งนั่นยิ่งทำให้รัฐบาลสหรัฐหงุดหงิดมากขึ้น รัฐบาลสหรัฐทุ่มงบฯ มหาศาลพร้อมปณิธานว่าจะกำจัดยาเสพติดให้พ้นจากเซาท์อีสต์เอเชีย ส่วนหนึ่งเพราะพวกเขาเชื่อว่ายาเสพติดเหล่านั้นถูกขายและแปรรูปจากรายได้เป็นอาวุธในการทำสงครามกับสหรัฐโดยตรง อีกส่วนหนึ่งมาจากมายาคติที่อัลสลิงเกอร์ทิ้งไว้ กัญชาหายไปจากไทย ฝิ่นหายไปจากไทย แต่นั่นคือการหายจากพื้นที่บนดิน ทุกอย่างยังคงมีอยู่หากนายมีเงินพอเสมอ ไก่น่าจะสุกแล้ว” ไคลน์ตัดบท

“เรากลับไปที่ครัวกันดีกว่า”

ไก่ต้มใบกัญชาของไคลน์สุกแล้วจริงๆ เนื้อของมันนุ่ม น้ำในถ้วยที่เขาตักมาให้ผมหอม มีรสเปรี้ยวเล็กน้อยและให้ความรู้สึกสดชื่น “ข้าวดอยอาจไม่ดีนัก” ไคลน์พูดขณะที่ตักข้าวให้ผม “แต่ถ้านายชิน นายจะรับรู้ได้ถึงความหวานของมัน” ผมตักไก่สีเหลืองจากขมิ้นใส่จานข้าวตนเอง เอ่ยถามปัญหาที่ค้างคาใจ “และอะไรที่ทำให้นายมาที่นี่ ที่กาสี กัญชาหรือ?”

“เกือบถูก แต่กัญชานั้นเป็นส่วนหนึ่ง อาจเป็นส่วนเสริมก็ว่าได้ของเรื่องราวทั้งหมด สิ่งที่ทำให้กันเดินทางมาถึงที่นี่คือความตายของแม่ ความตายของแม่กัน”