ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 2 - 8 กันยายน 2559 |
---|---|
คอลัมน์ | รายงานพิเศษ |
เผยแพร่ |
โดย รุ่งนภา พิมมะศรี
คนฟังเพลงรุ่นใหญ่ ๆ อายุสัก 45 หรือ 50 ปีขึ้นไป น่าจะตื่นเต้นกันไม่น้อยที่ได้ยินข่าวว่า “ควีน (Queen)” วงดนตรีร็อกสัญชาติอังกฤษ ระดับสุดยอดตำนานของโลกจะมาแสดงคอนเสิร์ตในเมืองไทย โดยเฉพาะคนที่เป็นแฟนพันธุ์แท้คงซื้อบัตรกันแล้ว
วงควีนมีอายุวงถึง 45 ปี ฉายา “ราชันในนามราชินี” ชัดเจนอยู่แล้วว่าพวกเขายิ่งใหญ่แค่ไหน เพลงดังของควีนนั้นอยู่บนยอดของบรรดาเพลงดังทั้งหลายในโลกนี้ และน่าจะอยู่ตำแหน่งนั้นไปอีกนาน แม้ว่าจะผ่านเวลามานานแล้ว แต่เพลงของพวกเขาเป็นเพลงที่ยังได้ยินกันอยู่ในยุคปัจจุบัน และถูกนำไปใช้ในอีเวนต์ใหญ่ ๆ อยู่บ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลง “We Are The Champions” “We Will Rock You” หรือ “Bohemian Rhapsody”

ยุคทองของวงควีนคือช่วงยุค 70-80s กับผลงานเพลง 14 อัลบั้ม ก่อนที่พวกเขาจะเสียนักร้องนำ “เฟรดดี้ เมอร์คิวรี่ (Freddie Mercury)” ไปในปี 1991 หลังจากนั้นสมาชิกที่เหลือยังเดินหน้าในนามวงควีนต่อไป โดยทำผลงานออกมา 1 อัลบั้มในปี 1995 และนั่นก็เป็นอัลบั้มสุดท้ายของควีน
หลังจากนั้น “จอห์น ดีคอน (John Deacon)” มือเบส ถอนตัวออกจากวงไป “ไบรอัน เมย์ (Brian May)” มือกีตาร์-นักร้องและ “โรเจอร์ เทย์เลอร์ (Roger Taylor)” มือกลอง-นักร้อง ที่ยังเล่นดนตรีรับงานแสดงสดในนามวงควีนต่อ โดยใช้นักร้องรับเชิญ ซึ่งนักร้องที่ได้ร่วมงานกับควีนก็มีทั้งแบบบครั้งคราวและอยู่ยาว เช่น พอล โรเจอร์ส (Paul Rogers), เดวิด โบวี่ (David Bowie), เอลตัน จอห์น (Elton John), จอร์จ มิเชล (George Michael), เลดี้ กาก้า (Lady Gaga)
นักร้องคนล่าสุดที่ควีนร่วมงานด้วยและกำลังจะพามาแสดงคอนเสิร์ตในเมืองไทยคือ อดัม แลมเบิร์ต (Adam Lambert) นักร้องหนุ่มเสียงสูงมากพลังจากเวทีอเมริกัน ไอดอล
ก่อนจะได้เจอได้ชมคอนเสิร์ตครั้งแรกของวงควีนในประเทศไทยในวันที่ 30 กันยายนนี้ เราจะพาไปคุยกับไบรอัน เมย์ มือกีตาร์ผู้ขับเคลื่อนวงควีน ถึงเรื่องราวของพวกเขาหลังจากสูญเสียนักร้องนำมาจนถึงปัจจุบัน

Q : เป็นเรื่องยากสำหรับวงดนตรีหลายวงที่จะเดินหน้าต่อโดยไม่มีนักร้องนำ ตอนที่เฟรดดี้จากไป มันยากสำหรับพวกคุณหรือเปล่าในการตัดสินใจว่าจะเดินต่อหรือจะหยุด ใช้เวลาตัดสินใจนานไหม วางแผนกันอย่างไรบ้าง
ถามยากเลย นี่ก็เป็นสิ่งที่เราคิดกันมาตลอด ผมกับโรเจอร์สูญเสียเพื่อนรักอย่างเฟรดดี้ไป ตอนแรกเราก็นึกว่ามันจบแล้ว แต่เราอาจจะเวอร์ไปหน่อย เราคิดจริง ๆ ว่ายังไงก็กลับมาไม่ได้แล้ว แต่เราก็ได้เจอกับพอล รอดเจอร์ส (Paul Rodgers) และทำเพลงกัน (Queen + Paul Rodgers) อันนี้เล่าให้สั้น ๆ นะ
จนเรามาเจอ อดัม แลมเบิร์ต และมีหลายอย่างทำให้เราอยากทำเพลงในฐานะวงควีนเหมือนในอดีต ผมจึงถามตัวเองว่าสปิริตของวงคืออะไร ที่เราทำงานหนักกันมาอย่างยาวนาน ผม โรเจอร์ และเจ้าหนุ่ม อดัม แลมเบิร์ต จะทำอะไรได้บ้าง
ผมว่าคำตอบอยู่ที่ผู้ชม ผมมองเห็นพวกเขามีความสุข พวกเขาสนุกกับสปิริตและไอเดียที่เราสร้างสรรค์และพยายามพัฒนา เราแคร์คนฟัง เราแคร์เพลงของเรา เราอยากให้ความสนุกกับผู้คน และท้าทายคนฟังว่ายังมีความตื่นตาตื่นใจเกิดขึ้นกับเพลงร็อก ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจอย่างที่สิ่งอื่นสร้างไม่ได้ เพลงของเราทำให้คนฟังรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของตัวตนของตัวเอง
อย่างเพลง We Will Rock You และ Bohemian Rhapsody เราต้องเข้าถึงพลังของคนซึ่งมันมีอยู่ในตัวพวกเขาอยู่แล้ว เพราะเพลงพวกนี้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพวกเขา และเรารู้สึกเป็นเกียรติมาก
จริง ๆ ผมไปทำอย่างอื่นก็ได้ ผมสนใจเรื่องอื่นเยอะแยะ ผมชอบเรื่องดาราศาสตร์ ผมชอบช่วยเหลือสัตว์ ผมชอบระบบภาพสามมิติ แต่ดนตรีและวงควีนคือสิ่งที่ผมทำมากว่าครึ่งชีวิต เพราะฉะนั้นผมจะไม่ขออภัยที่ผมจะออกไปเล่นดนตรี ไปหาประสบการณ์พิเศษ ๆ ที่เกิดขึ้นในเวลาที่ผมเล่นดนตรี
ผมไม่เสียใจให้กับวันเก่าอีกแล้ว ผมภูมิใจในตัวพวกเรา และตอนนี้เรามีโอกาสที่ดี โดยเฉพาะโอกาสที่เราจะได้ไปกรุงเทพ ผมอายุ 69 ปีแล้ว เล่นดนตรีมาเกือบทั้งชีวิต นี่เป็นครั้งแรกสำหรับผมเลยที่จะได้เจอแฟน ๆ ชาวไทยที่ร่วมทางกับวงเรามานาน ผมไม่เคยมีโอกาสได้ไปแสดงสดที่ไทยมาก่อน ผมว่ามันยอดมาก

Q : อดัม แลมเบิร์ต นักร้องคนล่าสุด คุณสองคนชอบอะไรในตัวเขา
เขามีทุกอย่างเลย นี่ถ้าเฟรดดี้ได้ฟังเขาจะต้องพูดว่า “พระเจ้า เสียงนี้มาจากไหนกันเนี่ย” เฟรดดี้มีเสียงที่มหัศจรรย์ แต่อดัมมีสิ่งที่คุณจะหาไม่เจอในคนพันล้านคน และนั่นเป็นสิ่งสวยงาม แล้วเขายังมีความทุ่มเท เขาฉลาดและเข้าใจงาน เขาเข้าถึงดนตรี และยังสามารถเอนเตอร์เทนคนดูได้อีก เหมือนกับเฟรดดี้ คือเขาเป็นธรรมชาติมาก เป็นเรื่องเคมีที่ลงตัว
เขาเข้ากับแฟนเพลงได้ดี เขามีความมั่นใจ เขามีศักยภาพที่ทำให้แฟน ๆ ยอมรับ อดัมแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นตัวเอง เขาไม่ใช่เงาของเฟรดดี้ เมอร์คิวรี และแฟน ๆ ก็ยอมรับเขา แฟน ๆ เข้าใจที่มาที่ไป เข้าใจว่าเราเป็นเรา และเรามีเพลงที่พวกเขาอยากฟัง เพลงซึ่งเข้าถึงชีวิตพวกเขามายาวนาน และตลอด 2 ชั่วโมงในการโชว์ เป็นโอกาสที่เราจะสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจ
Q : คุณเคยได้รับฟีดแบ็คไม่ดีไหม ในเมืองไทยมักจะมีปัญหา ถ้าวงดนตรีหานักร้องคนใหม่เข้ามา แฟนเพลงจะบอกว่า นี่ไม่ใช่วงที่เรารักแล้ว แฟนเพลงส่วนมากโหยหาแต่นักร้องคนเก่า
ฟีดแบ็กดีทีเดียว แต่แน่นอนก็จะมีคนประเภทที่ว่า “ไม่เอา เราไม่ต้องการวงควีนที่ไม่มีเฟรดดี้” แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา ผมเข้าใจความรู้สึกพวกเขา ถ้าไม่อยากมาดูไม่เป็นไร ก็ฟังเพลงอัลบั้มเดิมของเราที่บ้านก็ได้ แต่คนที่มาดู ผมว่าจะรู้สึกถึงพลังบวกมากมาย ผมรู้ฟีดแบ็กจากทวิตเตอร์ อินสตาแกรม และโซปบ็อกซ์ และถ้ามีกระแสไม่ดีผมก็รู้ทันทีเหมือนกัน แต่ผมก็รับได้ มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต

Q : อะไรเป็นแรงผลักที่ทำให้คุณและโรเจอร์ยังเล่นดนตรีออกทัวร์คอนเสิร์ตในวัยนี้ มันคงไม่ใช่เงินทอง เพราะพวกคุณมีเยอะมากอยู่แล้ว
ผมแฮปปี้ที่จะบอกว่า ผมโชคดีมากที่ผมแสดงได้ในระดับเดียวกับตอนช่วงพีคในยุค 1980s เราเล่นต่อหน้าแฟนจำนวนมาก โปรดักชั่นยักษ์ เรามีพลังล้นเหลือ ขอบคุณพระเจ้าที่ผมยังมีพลังเท่าเดิม ผมยังวิ่งไปมาตะโกนเสียงดังบนเวที แต่ตอนนี้ผมว่าผมเล่นดีขึ้น เพราะมีประสบการณ์มากขึ้น ทักษะมากขึ้น แต่ผมอาจต้องนอนมากหน่อย เราต้องทำงานหนักเวลาทัวร์ ต้องมั่นใจว่าตัวเองฟิตพอ ก็เหมือนนักกีฬานั่นแหละ
แต่นอกจากนั้น สิ่งที่ทำให้เราสนุกคือการที่เรามีนักร้องนำที่น่ามหัศจรรย์ อดัมเขาไม่ใช่เฟรดดี้ แต่เขามีความน่ามหัศจรรย์ของตัวเองอย่างแท้จริงโดยไม่ต้องเป็นเฟรดดี้ เขามีพลังที่ส่งมาถึงเรา มันทำให้เรารู้สึกได้ถึงสปิริตของควีนเหมือนที่เรามีในอดีต
ผมชอบการขึ้นไปบนเวทีแล้วได้ยินเสียงตะโกนจากคนดู ผมชอบการแสดงคอนเสิร์ตเพราะเราสามารถทดลองได้ เราไม่มีแบ็คกิ้งแทร็ก ไม่มีคลิป ไม่มีฮาร์ดดิสก์ ซึ่งคุณจะไม่ค่อยเห็นแล้วสมัยนี้
การที่เราเล่นสด จริง ๆ มันอันตราย แต่เราภูมิใจมาก มันให้พลังกับเราได้เป็นอย่างดี และมันเป็นมนต์เสน่ห์ที่แฟน ๆ ก็ดูออก มันสดจริง และพวกเขาก็รู้ว่ามันอาจจะมีอะไรผิดพลาด และมันอาจจะเกิดอะไรที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน มันเป็นโชว์ที่ตื่นเต้นดี แล้วผมก็คิดว่าโดยปกติเราเล่นดีนะ เว้นแต่ผมจะเล่นเละเทะจริง ๆ แต่ขออย่าให้เกิดขึ้นเลย มันรู้สึกดีมากที่ได้เห็นหน้าตาของแฟนเพลงที่มีความสุข และเรามีพลังอย่างเต็มที่อย่างที่วงควีนควรจะเป็น
Q : แฟน ๆ ในเมืองไทยรอคอยควีนมานานมาก พวกเขาจะได้รับรางวัลของการรอคอยอย่างไรบ้าง
คุณจะได้พบกับความสนุกสุดเหวี่ยง ประสบการณ์ที่หาที่ไหนไม่ได้ สำหรับแฟนชาวไทย ผมตื่นเต้นมาก ผมไบรอัน เมย์ ผมกำลังพูดกับพวกคุณ แฟน ๆ ชาวไทย ผมตื่นเต้นที่จะได้เล่นต่อหน้าพวกคุณเป็นครั้งแรก แต่มันจะไม่ใช่แค่การแสดง เราจะมีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน คุณจะเป็นส่วนหนึ่งของการแสดง เราจะร็อกไปด้วยกัน ผมแทบทนไม่ไหวแล้วครับ
