คุยกับ ‘Queen’ ตำนานวงดนตรีโลก ก่อนคอนเสิร์ตครั้งประวัติศาสตร์ในไทย ทำไมต้องเธอ ‘อดัม แลมเบิร์ต’?

โดย รุ่งนภา พิมมะศรี

คนฟังเพลงรุ่นใหญ่ ๆ อายุสัก 45 หรือ 50 ปีขึ้นไป น่าจะตื่นเต้นกันไม่น้อยที่ได้ยินข่าวว่า “ควีน (Queen)” วงดนตรีร็อกสัญชาติอังกฤษ ระดับสุดยอดตำนานของโลกจะมาแสดงคอนเสิร์ตในเมืองไทย โดยเฉพาะคนที่เป็นแฟนพันธุ์แท้คงซื้อบัตรกันแล้ว

วงควีนมีอายุวงถึง 45 ปี ฉายา “ราชันในนามราชินี” ชัดเจนอยู่แล้วว่าพวกเขายิ่งใหญ่แค่ไหน เพลงดังของควีนนั้นอยู่บนยอดของบรรดาเพลงดังทั้งหลายในโลกนี้ และน่าจะอยู่ตำแหน่งนั้นไปอีกนาน แม้ว่าจะผ่านเวลามานานแล้ว แต่เพลงของพวกเขาเป็นเพลงที่ยังได้ยินกันอยู่ในยุคปัจจุบัน และถูกนำไปใช้ในอีเวนต์ใหญ่ ๆ อยู่บ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลง “We Are The Champions” “We Will Rock You” หรือ “Bohemian Rhapsody”

Queen_-_montagem
(บน) ไบรอัน เมย์, เฟรดดี เมอร์คิวรี (ล่าง) จอห์น ดีคอน โรเจอร์ เทย์เลอร์

ยุคทองของวงควีนคือช่วงยุค 70-80s กับผลงานเพลง 14 อัลบั้ม ก่อนที่พวกเขาจะเสียนักร้องนำ “เฟรดดี้ เมอร์คิวรี่ (Freddie Mercury)” ไปในปี 1991 หลังจากนั้นสมาชิกที่เหลือยังเดินหน้าในนามวงควีนต่อไป โดยทำผลงานออกมา 1 อัลบั้มในปี 1995 และนั่นก็เป็นอัลบั้มสุดท้ายของควีน

หลังจากนั้น “จอห์น ดีคอน (John Deacon)” มือเบส ถอนตัวออกจากวงไป “ไบรอัน เมย์ (Brian May)” มือกีตาร์-นักร้องและ “โรเจอร์ เทย์เลอร์ (Roger Taylor)” มือกลอง-นักร้อง ที่ยังเล่นดนตรีรับงานแสดงสดในนามวงควีนต่อ โดยใช้นักร้องรับเชิญ ซึ่งนักร้องที่ได้ร่วมงานกับควีนก็มีทั้งแบบบครั้งคราวและอยู่ยาว เช่น พอล โรเจอร์ส (Paul Rogers), เดวิด โบวี่ (David Bowie), เอลตัน จอห์น (Elton John), จอร์จ มิเชล (George Michael), เลดี้ กาก้า (Lady Gaga)

 

นักร้องคนล่าสุดที่ควีนร่วมงานด้วยและกำลังจะพามาแสดงคอนเสิร์ตในเมืองไทยคือ อดัม แลมเบิร์ต (Adam Lambert) นักร้องหนุ่มเสียงสูงมากพลังจากเวทีอเมริกัน ไอดอล

ก่อนจะได้เจอได้ชมคอนเสิร์ตครั้งแรกของวงควีนในประเทศไทยในวันที่ 30 กันยายนนี้ เราจะพาไปคุยกับไบรอัน เมย์ มือกีตาร์ผู้ขับเคลื่อนวงควีน ถึงเรื่องราวของพวกเขาหลังจากสูญเสียนักร้องนำมาจนถึงปัจจุบัน

A file picture taken on September 18, 1984 showing Rock star Freddie Mercury, lead singer of the rock group "Queen", during a concert at the Palais Omnisports de Paris Bercy (POPB). / AFP PHOTO / JEAN-CLAUDE COUTAUSSE
“เฟรดดี้ เมอร์คิวรี่ (Freddie Mercury)” (AFP PHOTO / JEAN-CLAUDE COUTAUSSE)

Q : เป็นเรื่องยากสำหรับวงดนตรีหลายวงที่จะเดินหน้าต่อโดยไม่มีนักร้องนำ ตอนที่เฟรดดี้จากไป มันยากสำหรับพวกคุณหรือเปล่าในการตัดสินใจว่าจะเดินต่อหรือจะหยุด ใช้เวลาตัดสินใจนานไหม วางแผนกันอย่างไรบ้าง

ถามยากเลย นี่ก็เป็นสิ่งที่เราคิดกันมาตลอด ผมกับโรเจอร์สูญเสียเพื่อนรักอย่างเฟรดดี้ไป ตอนแรกเราก็นึกว่ามันจบแล้ว แต่เราอาจจะเวอร์ไปหน่อย เราคิดจริง ๆ ว่ายังไงก็กลับมาไม่ได้แล้ว แต่เราก็ได้เจอกับพอล รอดเจอร์ส (Paul Rodgers) และทำเพลงกัน (Queen + Paul Rodgers) อันนี้เล่าให้สั้น ๆ นะ

จนเรามาเจอ อดัม แลมเบิร์ต และมีหลายอย่างทำให้เราอยากทำเพลงในฐานะวงควีนเหมือนในอดีต ผมจึงถามตัวเองว่าสปิริตของวงคืออะไร ที่เราทำงานหนักกันมาอย่างยาวนาน ผม โรเจอร์ และเจ้าหนุ่ม อดัม แลมเบิร์ต จะทำอะไรได้บ้าง

ผมว่าคำตอบอยู่ที่ผู้ชม ผมมองเห็นพวกเขามีความสุข พวกเขาสนุกกับสปิริตและไอเดียที่เราสร้างสรรค์และพยายามพัฒนา เราแคร์คนฟัง เราแคร์เพลงของเรา เราอยากให้ความสนุกกับผู้คน และท้าทายคนฟังว่ายังมีความตื่นตาตื่นใจเกิดขึ้นกับเพลงร็อก ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจอย่างที่สิ่งอื่นสร้างไม่ได้ เพลงของเราทำให้คนฟังรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของตัวตนของตัวเอง

อย่างเพลง We Will Rock You และ Bohemian Rhapsody เราต้องเข้าถึงพลังของคนซึ่งมันมีอยู่ในตัวพวกเขาอยู่แล้ว เพราะเพลงพวกนี้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพวกเขา และเรารู้สึกเป็นเกียรติมาก

จริง ๆ ผมไปทำอย่างอื่นก็ได้ ผมสนใจเรื่องอื่นเยอะแยะ ผมชอบเรื่องดาราศาสตร์ ผมชอบช่วยเหลือสัตว์ ผมชอบระบบภาพสามมิติ แต่ดนตรีและวงควีนคือสิ่งที่ผมทำมากว่าครึ่งชีวิต เพราะฉะนั้นผมจะไม่ขออภัยที่ผมจะออกไปเล่นดนตรี ไปหาประสบการณ์พิเศษ ๆ ที่เกิดขึ้นในเวลาที่ผมเล่นดนตรี

ผมไม่เสียใจให้กับวันเก่าอีกแล้ว ผมภูมิใจในตัวพวกเรา และตอนนี้เรามีโอกาสที่ดี โดยเฉพาะโอกาสที่เราจะได้ไปกรุงเทพ ผมอายุ 69 ปีแล้ว เล่นดนตรีมาเกือบทั้งชีวิต นี่เป็นครั้งแรกสำหรับผมเลยที่จะได้เจอแฟน ๆ ชาวไทยที่ร่วมทางกับวงเรามานาน ผมไม่เคยมีโอกาสได้ไปแสดงสดที่ไทยมาก่อน ผมว่ามันยอดมาก

Brian May (L) of the British rock band Queen and the US singer Adam Lambert perform during the Rock in Rio music festival on its opening day in Rio de Janeiro on September 19, 2015. The festival is on its 30th anniversary and will run for two weekends. AFP PHOTO/ CHRISTOPHE SIMON / AFP PHOTO / CHRISTOPHE SIMON
(ซ้าย) ไบรอัน เมย์  (ขวา) อดัม แลมเบิร์ต AFP PHOTO / CHRISTOPHE SIMON

Q : อดัม แลมเบิร์ต นักร้องคนล่าสุด คุณสองคนชอบอะไรในตัวเขา

เขามีทุกอย่างเลย นี่ถ้าเฟรดดี้ได้ฟังเขาจะต้องพูดว่า “พระเจ้า เสียงนี้มาจากไหนกันเนี่ย” เฟรดดี้มีเสียงที่มหัศจรรย์ แต่อดัมมีสิ่งที่คุณจะหาไม่เจอในคนพันล้านคน และนั่นเป็นสิ่งสวยงาม แล้วเขายังมีความทุ่มเท เขาฉลาดและเข้าใจงาน เขาเข้าถึงดนตรี และยังสามารถเอนเตอร์เทนคนดูได้อีก เหมือนกับเฟรดดี้ คือเขาเป็นธรรมชาติมาก เป็นเรื่องเคมีที่ลงตัว

เขาเข้ากับแฟนเพลงได้ดี เขามีความมั่นใจ เขามีศักยภาพที่ทำให้แฟน ๆ ยอมรับ อดัมแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นตัวเอง เขาไม่ใช่เงาของเฟรดดี้ เมอร์คิวรี และแฟน ๆ ก็ยอมรับเขา แฟน ๆ เข้าใจที่มาที่ไป เข้าใจว่าเราเป็นเรา และเรามีเพลงที่พวกเขาอยากฟัง เพลงซึ่งเข้าถึงชีวิตพวกเขามายาวนาน และตลอด 2 ชั่วโมงในการโชว์ เป็นโอกาสที่เราจะสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจ

 

Q : คุณเคยได้รับฟีดแบ็คไม่ดีไหม ในเมืองไทยมักจะมีปัญหา ถ้าวงดนตรีหานักร้องคนใหม่เข้ามา แฟนเพลงจะบอกว่า นี่ไม่ใช่วงที่เรารักแล้ว แฟนเพลงส่วนมากโหยหาแต่นักร้องคนเก่า

ฟีดแบ็กดีทีเดียว แต่แน่นอนก็จะมีคนประเภทที่ว่า “ไม่เอา เราไม่ต้องการวงควีนที่ไม่มีเฟรดดี้” แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา ผมเข้าใจความรู้สึกพวกเขา ถ้าไม่อยากมาดูไม่เป็นไร ก็ฟังเพลงอัลบั้มเดิมของเราที่บ้านก็ได้ แต่คนที่มาดู ผมว่าจะรู้สึกถึงพลังบวกมากมาย ผมรู้ฟีดแบ็กจากทวิตเตอร์ อินสตาแกรม และโซปบ็อกซ์ และถ้ามีกระแสไม่ดีผมก็รู้ทันทีเหมือนกัน แต่ผมก็รับได้ มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต

Brian May (R) of the British rock band Queen and the US singer Adam Lambert perform during the Rock in Rio music festival on its opening day in Rio de Janeiro on September 19, 2015. The festival is on its 30th anniversary and will run for two weekends. AFP PHOTO/ CHRISTOPHE SIMON / AFP PHOTO / CHRISTOPHE SIMON
ไบรอัน เมย์ และอดัม แลมเบิร์ต (AFP PHOTO/ CHRISTOPHE SIMON)

Q : อะไรเป็นแรงผลักที่ทำให้คุณและโรเจอร์ยังเล่นดนตรีออกทัวร์คอนเสิร์ตในวัยนี้ มันคงไม่ใช่เงินทอง เพราะพวกคุณมีเยอะมากอยู่แล้ว

ผมแฮปปี้ที่จะบอกว่า ผมโชคดีมากที่ผมแสดงได้ในระดับเดียวกับตอนช่วงพีคในยุค 1980s เราเล่นต่อหน้าแฟนจำนวนมาก โปรดักชั่นยักษ์ เรามีพลังล้นเหลือ ขอบคุณพระเจ้าที่ผมยังมีพลังเท่าเดิม ผมยังวิ่งไปมาตะโกนเสียงดังบนเวที แต่ตอนนี้ผมว่าผมเล่นดีขึ้น เพราะมีประสบการณ์มากขึ้น ทักษะมากขึ้น แต่ผมอาจต้องนอนมากหน่อย เราต้องทำงานหนักเวลาทัวร์ ต้องมั่นใจว่าตัวเองฟิตพอ ก็เหมือนนักกีฬานั่นแหละ

แต่นอกจากนั้น สิ่งที่ทำให้เราสนุกคือการที่เรามีนักร้องนำที่น่ามหัศจรรย์ อดัมเขาไม่ใช่เฟรดดี้ แต่เขามีความน่ามหัศจรรย์ของตัวเองอย่างแท้จริงโดยไม่ต้องเป็นเฟรดดี้ เขามีพลังที่ส่งมาถึงเรา มันทำให้เรารู้สึกได้ถึงสปิริตของควีนเหมือนที่เรามีในอดีต

ผมชอบการขึ้นไปบนเวทีแล้วได้ยินเสียงตะโกนจากคนดู ผมชอบการแสดงคอนเสิร์ตเพราะเราสามารถทดลองได้ เราไม่มีแบ็คกิ้งแทร็ก ไม่มีคลิป ไม่มีฮาร์ดดิสก์ ซึ่งคุณจะไม่ค่อยเห็นแล้วสมัยนี้

การที่เราเล่นสด จริง ๆ มันอันตราย แต่เราภูมิใจมาก มันให้พลังกับเราได้เป็นอย่างดี และมันเป็นมนต์เสน่ห์ที่แฟน ๆ ก็ดูออก มันสดจริง และพวกเขาก็รู้ว่ามันอาจจะมีอะไรผิดพลาด และมันอาจจะเกิดอะไรที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน มันเป็นโชว์ที่ตื่นเต้นดี แล้วผมก็คิดว่าโดยปกติเราเล่นดีนะ เว้นแต่ผมจะเล่นเละเทะจริง ๆ แต่ขออย่าให้เกิดขึ้นเลย มันรู้สึกดีมากที่ได้เห็นหน้าตาของแฟนเพลงที่มีความสุข และเรามีพลังอย่างเต็มที่อย่างที่วงควีนควรจะเป็น

 

Q : แฟน ๆ ในเมืองไทยรอคอยควีนมานานมาก พวกเขาจะได้รับรางวัลของการรอคอยอย่างไรบ้าง

คุณจะได้พบกับความสนุกสุดเหวี่ยง ประสบการณ์ที่หาที่ไหนไม่ได้ สำหรับแฟนชาวไทย ผมตื่นเต้นมาก ผมไบรอัน เมย์ ผมกำลังพูดกับพวกคุณ แฟน ๆ ชาวไทย ผมตื่นเต้นที่จะได้เล่นต่อหน้าพวกคุณเป็นครั้งแรก แต่มันจะไม่ใช่แค่การแสดง เราจะมีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน คุณจะเป็นส่วนหนึ่งของการแสดง เราจะร็อกไปด้วยกัน ผมแทบทนไม่ไหวแล้วครับ

Adam Lambert sings during the Clive Davis & The Recording Academy's 2016 Pre-Grammy Gala show in Beverly Hills, California on February 14, 2016. / AFP PHOTO / Mark Ralston
อดัม แลมเบิร์ต (AFP PHOTO / Mark Ralston)