ถ้าเอ่ยถึงคู่แม่-ลูกคนดัง เชื่อหนึ่งในนั้นต้องเป็นชื่อของหมู พิมพ์ผกา กับ นาย ณภัทร เสียงสมบูรณ์ แน่ๆ และในโอกาสที่ได้เจอทั้งคู่พร้อมหน้า เราเลยถือโอกาสคุยเรื่องแม่ๆ ลูกๆ มาฝากแฟนๆ

โดยหมูบอกว่า แม้ลูกชายของเธอจะเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย แต่ผลตอบรับทั้ง 2 อย่างก็ออกมาดีมาก

“กลายเป็นทุกอย่างมันดีขึ้นหมดเลย” เธอว่า

ขณะคนเป็นลูกบอก แน่นอนที่บางครั้งเขาก็รู้สึกเหนื่อยบ้าง ล้าบ้าง ท้อบ้าง แต่ “เราก็พัก แล้วก็มาทำใหม่”

“ก่อนหน้านี้เหมือนอยู่กับการเรียนส่วนใหญ่ ให้ความสำคัญกับการเรียน ตอนนี้เริ่มมีเวลามากขึ้น” ด้วยการเรียนเหลืออีกเพียง 1 เทอม ก็จะจบปริญญาตรีหลักสูตร Communication Design จากวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล

“ต้องแบ่งเวลาครับ” เขาเผยเคล็ดลับ

“ทุกคนมี 24 ชั่วโมงเท่ากัน อยู่ที่ว่าจะจัดสรรยังไง ผมก็ทำไม่ได้ดีหรอกครับ ผมพลาด มีเหนื่อย มีท้อ ปกติครับ”

แต่เมื่อทำไปเรื่อยๆ ฝึกไป ทุกอย่างก็เร็วขึ้น

“เริ่มหาเวลานอนได้แล้ว” เขาบอกยิ้มๆ

กับการประสบความสำเร็จมากทั้งในงานแสดง กับงานโฆษณาที่มีแซวว่ากลายเป็น “เจ้าพ่อพรีเซ็นเตอร์” ทั้งๆ ที่อายุก็เพิ่งจะ 21 ปีนั้น

“ก็รู้สึกแบบต้องขยี้ตาเลย” พิมพ์ผกาบอก

“คือตัวเราเองก็คาดไม่ถึงเหมือนกัน ว่าน้องจะมาในจุดนี้”

อย่างไรก็ดี แม้ดูแล้วหนทางจะไปได้สวย แต่โดยส่วนตัวเธอว่าก็ยังอดห่วงไม่ได้

“คนเป็นแม่มันไม่มีวันเลิกนะ ไม่มีวันเลิกจากอาชีพนี้ได้ บางทีวันนี้อาจจะไม่ใช่ จบแฮปปี้เอนดิ้ง อาจจะเป็นแค่การเริ่มต้น วันข้างหน้าก็ไม่รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น แต่วันนี้เราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด”

“เราคิดเสมอว่า มันไม่ใช่จุดจบ เป็นแค่จุดเริ่มต้นของชีวิตน้อง ส่วนของแม่ ก็เหมือนถอยหลังออกมาแล้วมองอยู่ข้างหลัง เป็นกำลังใจให้”

“วงการเรามีอายุงานของมัน ไม่มีใครอยู่แบบ 10 ปี 20 ปี ก็ยังดังอยู่แบบนั้น”

ยกตัวอย่างที่ใกล้ที่สุดก็ตัวเธอเอง

“มันจะมีช่วงจังหวะพีกสุด แล้วก็มีขาลง ระหว่างขาลงเราทำใจยอมรับกับมันยังไง วางแผนว่าจะกลับมาอีกยังไง แล้วก็ศึกษาหาความรู้ เกี่ยวกับงานอาชีพของเราที่ต้องทำต่อไป”

ซึ่งสำหรับ นาย ณภัทร นั้น เจ้าตัวว่า “โชคดีครับมีแม่ คอยว่า คอยสอนอยู่ตลอดเวลา” บอกพลางหัวเราะ

“แม่จะไม่เคยชม” นี่คนเป็นแม่บอก

“ก็เหมือนกับว่าเราจะไม่ให้เขาเหลิงนะคะ เวลากลับมา ก็จะคอมเมนต์ ทุกงานที่กลับมาจะบอกว่าให้เขานั่งทบทวน ว่าวันนี้พลาดอะไรตรงไหน แล้วถ้าเกิดว่าพลาด คราวหน้าจะต้องไม่ให้เกิดขึ้นอีก ส่วนใหญ่แม่จะไม่ชม จนหมูเองก็บอกว่า ตายแล้ว ฉันไม่ชมลูกฉันบ้างเลย แล้วเขาจะมีกำลังใจไหม”

“แต่ก็บอกเขาว่าหลายคนชมน้องนายมากพอแล้ว คือคนที่ชมเราเราไม่มีโอกาสพัฒนา แต่ว่าคนไหนติ เรายินดีรับคำติ แล้วเราจะมีโอกาสพัฒนาค่ะ”

“ตั้งแต่เล็กจนโตชอบมีคนชมเขาว่าหล่อ พอชมว่าหล่อเสร็จ เราถือว่ามันเป็นตราผิดสำหรับเรา หล่อมันไม่ได้มีความหมายอะไรมาก ถ้าวิธีคิด วิธีพูด แล้วเราไม่ได้เป็นคนดี ความหล่อมันก็จะหายไปในที่สุด อย่างลูกหมูถือว่าไม่ได้หล่อถึงผู้ชายที่หล่อมาก แต่เขามีวิธีคิด มีทัศนคติที่ดี มันก็ทำให้ดูหล่อขึ้นไปอีกได้”

ในฐานะที่หน้าตาดี ความคิดดี ชื่อเสียงก็ดี พิมพ์ผกาบอกว่าเธอไม่หวั่นหากลูกจะมีเรื่องสาวๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง

“เป็นเรื่องธรรมชาติ วันหนึ่งก็ต้องเข้ามา แต่ที่ผ่านมา เขารับปากว่า จะไม่มีแฟนจนกว่าจะเรียนจบ พอถึงวันใกล้จะจบ เราก็เริ่มใจหายแล้วเหมือนกัน ตายแล้วอีกเทอมเดียวจบแล้ว เดี๋ยวสิทธิ์นั้นจะหายไปแล้ว” เล่าพลางคนเป็นแม่ก็หัวเราะ

ขณะคนเป็นลูกก็บอกว่ายังทำตามสัญญา

“ตอนนี้ไม่มีนะครับ”

บอกอีกว่า ความจริงเขาเป็นคนค่อนข้างมีมนุษยสัมพันธ์ ใครเข้ามาก็คุย เพราะถือว่ามีคนรักดีกว่ามีคนเกลียด

แต่ขณะเดียวกัน “ผมก็ไม่ได้ให้ความหวังใคร ผมมีขอบเขตของผม”

ขณะเดียวกันก็รู้สึกว่า “ไม่ได้เป็นคนที่ต้องมีผู้หญิง ต้องมีสาวคุยเยอะตลอดเวลา ผมเป็นคนที่ซีเรียสเรื่องหน้าที่ของผม หน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ และไม่ไปทำร้ายจิตใจใคร”

“ปล่อยให้เป็นธรรมชาติดีที่สุด” เขาว่า

พร้อมย้ำ “ตอนนี้โสดครับ”